คนร้ายเหิมหนัก ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องในบาราเซาะนูรูอีมาน ห่างจากจุดระเบิดรางรถไฟเพียง 800 เมตร แรงระเบิดทำให้รภ จยย.เสียหาย โชคดีไม่มีเจ็บ-ตาย จนท.ร.ฟ.ท.ที่กำลังเร่งซ่อมรางรถไฟ ขณะที่กำลัง 3 ฝ่ายถกรื้อแผนพิทักษ์ม้าเหล็กสร้างความมั่นใจ ปชช.และพนักงานผู้ใช้รถไฟ
เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (20 พ.ย.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นภายในบาราเซาะนูรูลอีมาน ซึ่งตั้งอยู่บ้านสโลว์บูกิ๊ตยือแร หมู่ 9 ต.รือเสาะ ห่างจากสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ประมาณ 800 เมตร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เหตุพบที่บริเวณลานจอดรถ จยย.ภายในบาราเซาะ มีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีดำ ทะเบียน ขจง-977 ยะลา ซึ่งจอดอยู่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และที่บริเวณพื้นห่างจากรถ จยย.จอดประมาณ 1 เมตรพบร่องรอยของหลุมระเบิดลึก 1 นิ้ว กว้าง 4นิ้วและมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในขวดน้ำส้มยางขนาดเล็กหนัก 1 ก.ก.จุดชนวนด้วยขดของยากันยุงที่ติดไฟเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ มาทีมาจอดเพื่อเข้าไปล้างหน้าที่ก๊อกน้ำข้างมัสยิด เมื่อสบโอกาสได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่เตรียมมาวางไว้ใกล้กับรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ หลังจากคนร้ายได้ขี่รถ จยย.ออกไปประมาณ 2 นาที จึงได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายในการข่มขวัญเจ้าหน้าที่การ รฟท.ที่กำลังเร่งกู้โบกี้รถไฟที่ตกรางอยู่ที่สถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น.นายกำพล ปานกำเนิด สารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ จ.สงขลา และ ร.ต.มังกร สดสุข ผบ.ร้อยลาดตระเวน 51 กอ.รมน.ส่วนหน้า ได้ร่วมเดินทางด้วยขบวนรถกู้ภัย และรถปั้นจั่นจากโรงจักรทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทาง 80 คน เดินทางมายังสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อมาทำการกู้โบกี้ห้องการ์ดของขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟ จ.ยะลา จดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่ตกรางจากเหตุถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่หลักกิโลเมตรที่ 1,076 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 35 ราย
ซึ่งผลการดำเนินการในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมแซมรางรถไฟจนสามารถใช้การได้บางส่วน และสามารถเก็บกู้โบกี้โดยสารที่ตกรางได้ 2 โบกี้ ล่าสุดหลังจากรถปั้นจั่นเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และแขวงบำรุงทางได้ช่วยกันนำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เร่งซ่อมส่วนเพลาหลัง และเพลาหน้าของตู้การ์ดที่ถูกระเบิดจนได้รับความเสียหายตกรางทั้ง 2 ช่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้สลิงคล้องตู้โบกี้ของรถไฟเพื่อใช้ปั้นจั่นยกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเพลาหน้ากับช่วงเพลาหลัง เพื่อนำล้อที่ตกรางกลับนำมาใส่ให้ลงรางตามเดิม
ทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงค่ำ และรถไฟทั้ง 14 ขบวนที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ จะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ในช่วงเช้าของวันนี้ (21 พ.ย.) แน่นอน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามคลี่คลายคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายอับดุลฮัจซัน สีกะ กลุ่มมะซูเพียน ยะกูมอ และกลุ่มของนายสะแปอิง อุเซ็ง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะมาแล้วหลายครั้ง
เวลา 11.30 น.นายเจษฏา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้ร่วมเป็นประธานเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณ 2 ฟากของแนวเขตเส้นทางรถไฟ จำนวน 60 คนเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานตันหยงมัส แขวงบำรุงการทางรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ เพื่อรื้อฟื้นและเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 ในการวางมาตรการรักษาปลอดภัยขบวนรถไฟทั้ง 14 ขบวนที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ผ่านพื้นที่รับผิดชอบ 3 สถานี คือ สถานีรถไฟมะรือโบ สถานีรถไฟตันหยงมัส และสถานีรถไฟป่าไผ่ ซึ่งมีระยะทางยาว 24 กม.
ทั้งนี้ พื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภัย ซึ่งเกิดเหตุร้ายปล่อยครั้งต่อขบวนรถไฟ คือที่หมู่ 1 บ้านมะรือโบ หมู่ 9 บ้านสะโล ต.มะรือโบตก หมู่ 6 บ้านสโลตราแดะ ต.เฉลิม และ หมู่ 5 บ้านตราแดะ ต.บาโงสโต ซึ่งทั้ง 4 หมู่บ้านเจ้าหน้าที่ขอสนับสนุน ชุด ชรบ.ร่วมกับประชาชนและกำนันผู้ใหญ่ ส่งตัวแทนร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ทหารพรานเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางก่อนรถไฟขบวนต่างๆแล่นผ่าน
ภายหลังแล้วเสร็จจากการประชุมการรื้อฟื้นและเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 แล้วเสร็จทั้งหมด ได้ขึ้นรถตรวจทางของแขวงบำรุงทางสถานีรถไฟตันหยงมัตั้งแต่สถานีรถไฟตันหยงมัสจรดสถานีรถไฟป่าไผ่เพื่อดูสภาพภูมิประเทศและความพร้อมในการวางกำลัง รปภ.เส้นทางรถไฟ หากขบวนรถไฟสายต่างๆ ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเนินดินที่มีต้นไม้ขึ้นรกทึบ มีความเห็นตรงกันว่าจะนำรถแบกโฮมาปรับผิวดินให้ต่ำลง ตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณแนวทางรถไฟให้ราบและมีความโปรงเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเคลื่อนไหวใช้สถานที่ดังกล่าวก่อเหตุร้ายต่อขบวนรถไฟที่แล่นผ่าน
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า จากเหตุลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ ระหว่างสถานีรือเสาะ กับ สถานีลาโล๊ะ ช่วงกิโลเมตรที่ 1076/10 เมื่อเวลา 07.17 น.เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2555 ทำให้ขบวนรถไฟท้องถิ่นที่ 453 (ยะลา-สุไหงโกลก) ตกราง จำนวน 3 คัน สภาพทางได้รับความเสียหาย เป็นหลุมกว้าง 5 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร-และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุด เจ้าหน้าที่บำรุงทาง การรถไฟฯ ได้ดำเนินการซ่อมทางรถไฟที่เสียหายไปกว่า 90 % แล้ว
สำหรับการเดินทางประชาชนที่จะไปยังเส้นทางภาคใต้ ยังคงเดินตามปกติ ยกเว้นผู้ที่จะเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเดินทางได้ถึง จังหวัดยะลา เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 21 พ.ย. 2555 จะสามารถเปิดเดินขบวนรถได้ถึงสถานีสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสได้ตามปกติ จึงขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (20 พ.ย.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นภายในบาราเซาะนูรูลอีมาน ซึ่งตั้งอยู่บ้านสโลว์บูกิ๊ตยือแร หมู่ 9 ต.รือเสาะ ห่างจากสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ประมาณ 800 เมตร จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เหตุพบที่บริเวณลานจอดรถ จยย.ภายในบาราเซาะ มีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีดำ ทะเบียน ขจง-977 ยะลา ซึ่งจอดอยู่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และที่บริเวณพื้นห่างจากรถ จยย.จอดประมาณ 1 เมตรพบร่องรอยของหลุมระเบิดลึก 1 นิ้ว กว้าง 4นิ้วและมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในขวดน้ำส้มยางขนาดเล็กหนัก 1 ก.ก.จุดชนวนด้วยขดของยากันยุงที่ติดไฟเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ มาทีมาจอดเพื่อเข้าไปล้างหน้าที่ก๊อกน้ำข้างมัสยิด เมื่อสบโอกาสได้นำระเบิดแสวงเครื่องที่เตรียมมาวางไว้ใกล้กับรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้ หลังจากคนร้ายได้ขี่รถ จยย.ออกไปประมาณ 2 นาที จึงได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายในการข่มขวัญเจ้าหน้าที่การ รฟท.ที่กำลังเร่งกู้โบกี้รถไฟที่ตกรางอยู่ที่สถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร
ก่อนหน้านี้เวลา 09.00 น.นายกำพล ปานกำเนิด สารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ จ.สงขลา และ ร.ต.มังกร สดสุข ผบ.ร้อยลาดตระเวน 51 กอ.รมน.ส่วนหน้า ได้ร่วมเดินทางด้วยขบวนรถกู้ภัย และรถปั้นจั่นจากโรงจักรทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทาง 80 คน เดินทางมายังสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อมาทำการกู้โบกี้ห้องการ์ดของขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟ จ.ยะลา จดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่ตกรางจากเหตุถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่หลักกิโลเมตรที่ 1,076 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 35 ราย
ซึ่งผลการดำเนินการในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมแซมรางรถไฟจนสามารถใช้การได้บางส่วน และสามารถเก็บกู้โบกี้โดยสารที่ตกรางได้ 2 โบกี้ ล่าสุดหลังจากรถปั้นจั่นเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และแขวงบำรุงทางได้ช่วยกันนำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เร่งซ่อมส่วนเพลาหลัง และเพลาหน้าของตู้การ์ดที่ถูกระเบิดจนได้รับความเสียหายตกรางทั้ง 2 ช่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้สลิงคล้องตู้โบกี้ของรถไฟเพื่อใช้ปั้นจั่นยกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเพลาหน้ากับช่วงเพลาหลัง เพื่อนำล้อที่ตกรางกลับนำมาใส่ให้ลงรางตามเดิม
ทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงค่ำ และรถไฟทั้ง 14 ขบวนที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ จะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ในช่วงเช้าของวันนี้ (21 พ.ย.) แน่นอน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามคลี่คลายคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายอับดุลฮัจซัน สีกะ กลุ่มมะซูเพียน ยะกูมอ และกลุ่มของนายสะแปอิง อุเซ็ง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะมาแล้วหลายครั้ง
เวลา 11.30 น.นายเจษฏา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้ร่วมเป็นประธานเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณ 2 ฟากของแนวเขตเส้นทางรถไฟ จำนวน 60 คนเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานตันหยงมัส แขวงบำรุงการทางรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ เพื่อรื้อฟื้นและเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 ในการวางมาตรการรักษาปลอดภัยขบวนรถไฟทั้ง 14 ขบวนที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ผ่านพื้นที่รับผิดชอบ 3 สถานี คือ สถานีรถไฟมะรือโบ สถานีรถไฟตันหยงมัส และสถานีรถไฟป่าไผ่ ซึ่งมีระยะทางยาว 24 กม.
ทั้งนี้ พื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภัย ซึ่งเกิดเหตุร้ายปล่อยครั้งต่อขบวนรถไฟ คือที่หมู่ 1 บ้านมะรือโบ หมู่ 9 บ้านสะโล ต.มะรือโบตก หมู่ 6 บ้านสโลตราแดะ ต.เฉลิม และ หมู่ 5 บ้านตราแดะ ต.บาโงสโต ซึ่งทั้ง 4 หมู่บ้านเจ้าหน้าที่ขอสนับสนุน ชุด ชรบ.ร่วมกับประชาชนและกำนันผู้ใหญ่ ส่งตัวแทนร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ทหารพรานเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางก่อนรถไฟขบวนต่างๆแล่นผ่าน
ภายหลังแล้วเสร็จจากการประชุมการรื้อฟื้นและเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 แล้วเสร็จทั้งหมด ได้ขึ้นรถตรวจทางของแขวงบำรุงทางสถานีรถไฟตันหยงมัตั้งแต่สถานีรถไฟตันหยงมัสจรดสถานีรถไฟป่าไผ่เพื่อดูสภาพภูมิประเทศและความพร้อมในการวางกำลัง รปภ.เส้นทางรถไฟ หากขบวนรถไฟสายต่างๆ ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเนินดินที่มีต้นไม้ขึ้นรกทึบ มีความเห็นตรงกันว่าจะนำรถแบกโฮมาปรับผิวดินให้ต่ำลง ตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณแนวทางรถไฟให้ราบและมีความโปรงเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเคลื่อนไหวใช้สถานที่ดังกล่าวก่อเหตุร้ายต่อขบวนรถไฟที่แล่นผ่าน
นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า จากเหตุลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ ระหว่างสถานีรือเสาะ กับ สถานีลาโล๊ะ ช่วงกิโลเมตรที่ 1076/10 เมื่อเวลา 07.17 น.เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2555 ทำให้ขบวนรถไฟท้องถิ่นที่ 453 (ยะลา-สุไหงโกลก) ตกราง จำนวน 3 คัน สภาพทางได้รับความเสียหาย เป็นหลุมกว้าง 5 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร-และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุด เจ้าหน้าที่บำรุงทาง การรถไฟฯ ได้ดำเนินการซ่อมทางรถไฟที่เสียหายไปกว่า 90 % แล้ว
สำหรับการเดินทางประชาชนที่จะไปยังเส้นทางภาคใต้ ยังคงเดินตามปกติ ยกเว้นผู้ที่จะเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเดินทางได้ถึง จังหวัดยะลา เท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 21 พ.ย. 2555 จะสามารถเปิดเดินขบวนรถได้ถึงสถานีสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสได้ตามปกติ จึงขอให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง