นราธิวาส - จนท.ร.ฟ.ท.นำปั้นจั่นกู้โบกี้สุดท้ายที่ถูกโจรใต้วางระเบิดที่รือเสาะ พบ 3 RKK ลงมือก่อเหตุ กำลัง 3 ฝ่าย รื้อแผนพิทักษ์ม้าเหล็กสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และพนักงานผู้ใช้รถไฟ หลังบึ้มโศกนาฏกรรม ตาย 3 เจ็บ 35 ราย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) นายกำพล ปานกำเนิด สารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ จ.สงขลา และ ร.ต.มังกร สดสุข ผบ.ร้อยลาดตระเวน 51 กอ.รมน.ส่วนหน้า ได้ร่วมเดินทางด้วยขบวนรถกู้ภัย และรถปั้นจั่นจากโรงจักรทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักรกล และเจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทาง จำนวน 80 คน เดินทางมายังสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อมาทำการกู้โบกี้ห้องการ์ดของขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟ จ.ยะลา จดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่ตกรางจากเหตุถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่หลักกิโลเมตรที่ 1,076 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 35 ราย
ซึ่งผลการดำเนินการในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมแซมรางรถไฟจนสามารถใช้การได้บางส่วน และสามารถเก็บกู้โบกี้โดยสารที่ตกรางได้ จำนวน 2 โบกี้ ซึ่งล่าสุด หลังจากรถปั้นจั่นเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และแขวงบำรุงทางได้ช่วยกันนำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เร่งซ่อมส่วนเพลาหลัง และเพลาหน้าของตู้การ์ดที่ถูกระเบิดจนได้รับความเสียหายตกรางทั้ง 2 ช่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้สลิงคล้องตู้โบกี้ของรถไฟเพื่อใช้ปั้นจั่นยกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเพลาหน้ากับช่วงเพลาหลัง เพื่อนำล้อที่ตกรางกลับนำมาใส่ให้ลงรางตามเดิม
ก่อนที่รถปั้นจั่นจะลากโบกี้ดังกล่าวไปเก็บไว้ที่สถานีรถไฟรือเสาะ เพื่อขนย้ายไปยังโรงงานมักกะสันอีกทอดหนึ่ง และหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการกู้โบกี้ห้องการ์ดแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทางต้องทำการซ่อมแซมรางดังกล่าวให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม โดยต้องมีการเปลี่ยนหมอนรางรถไฟ จำนวนกว่า 10 ท่อน และต้องใช้ดี.อี.คลิป ในการล็อกรางรถไฟให้อยู่ติดกับไม้หมอน ซึ่งการซ่อมแซมจุดนี้ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงค่ำ และรถไฟทั้ง 14 ขบวน ที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ จะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามคลี่คลายคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายอับดุลฮัจซัน สีกะ กลุ่มมะซูเพียน ยะกูมอ และกลุ่มของนายสะแปอิง อุเซ็ง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะมาแล้วหลายครั้ง
และเมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานตันหยงมัส แขวงบำรุงการทางรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายเจษฏา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผกก.สภ.ระแงะ ได้ร่วมเป็นประธานเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณ 2 ฟากของแนวเขตเส้นทางรถไฟ จำนวน 60 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรื้อฟื้น และเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 ในการวางมาตรการรักษาปลอดภัยขบวนรถไฟทั้ง 14 ขบวน ที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ผ่านพื้นที่รับผิดชอบ 3 สถานี คือ สถานีรถไฟมะรือโบ สถานีรถไฟตันหยงมัส และสถานีรถไฟป่าไผ่ ซึ่งมีระยะทางยาว 24 ก.ม. ผ่าน 14 หมู่บ้าน 4 ตำบล คือ ต.มะโบรือตก ต.ตันหยงมัส ต.เฉลิม และ ต.ตันหยงลิมอ
โดยพื้นที่ล่อแหลม และเสี่ยงภัยซึ่งเกิดเหตุร้ายหลายครั้งต่อขบวนรถไฟ คือที่ ม.1 บ้านมะรือโบ ม.9 บ้านสะโล ต.มะรือโบตก ม.6 บ้านสโลตราแดะ ต.เฉลิม และ ม.5 บ้านตราแดะ ต.บาโงสโต ซึ่งทั้ง 4 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ขอสนับสนุนชุด ชรบ.ร่วมกับประชาชน และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่งตัวแทนร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองในการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางก่อนรถไฟขบวนต่างๆ จะแล่นผ่าน
และภายหลังเสร็จจากการประชุมการรื้อฟื้น และเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 แล้ว นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นรถตรวจทางของแขวงบำรุงทางสถานีรถไฟตันหยงมัส ตั้งแต่สถานีรถไฟตันหยงมัส จดสถานีรถไฟป่าไผ่ เพื่อดูสภาพภูมิประเทศ และความพร้อมในการวางกำลัง รปภ.เส้นทางรถไฟ หากขบวนรถไฟสายต่างๆ ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเนินดินที่มีต้นไม้ขึ้นรกทึบ มีความเห็นตรงกันว่า จะนำรถแบ็กโฮมาปรับผิวดินให้ต่ำลง แถมตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณแนวทางรถไฟให้ราบ และมีความโปร่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเคลื่อนไหวใช้สถานที่ดังกล่าว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 พ.ย.) นายกำพล ปานกำเนิด สารวัตรแขวงรถจักรหาดใหญ่ จ.สงขลา และ ร.ต.มังกร สดสุข ผบ.ร้อยลาดตระเวน 51 กอ.รมน.ส่วนหน้า ได้ร่วมเดินทางด้วยขบวนรถกู้ภัย และรถปั้นจั่นจากโรงจักรทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเครื่องจักรกล และเจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทาง จำนวน 80 คน เดินทางมายังสถานีรถไฟสโลว์บูกิ๊ตยือแร ม.9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อมาทำการกู้โบกี้ห้องการ์ดของขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟ จ.ยะลา จดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่ตกรางจากเหตุถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่หลักกิโลเมตรที่ 1,076 เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 35 ราย
ซึ่งผลการดำเนินการในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถซ่อมแซมรางรถไฟจนสามารถใช้การได้บางส่วน และสามารถเก็บกู้โบกี้โดยสารที่ตกรางได้ จำนวน 2 โบกี้ ซึ่งล่าสุด หลังจากรถปั้นจั่นเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และแขวงบำรุงทางได้ช่วยกันนำเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เร่งซ่อมส่วนเพลาหลัง และเพลาหน้าของตู้การ์ดที่ถูกระเบิดจนได้รับความเสียหายตกรางทั้ง 2 ช่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้สลิงคล้องตู้โบกี้ของรถไฟเพื่อใช้ปั้นจั่นยกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเพลาหน้ากับช่วงเพลาหลัง เพื่อนำล้อที่ตกรางกลับนำมาใส่ให้ลงรางตามเดิม
ก่อนที่รถปั้นจั่นจะลากโบกี้ดังกล่าวไปเก็บไว้ที่สถานีรถไฟรือเสาะ เพื่อขนย้ายไปยังโรงงานมักกะสันอีกทอดหนึ่ง และหลังจากเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการกู้โบกี้ห้องการ์ดแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่แขวงบำรุงทางต้องทำการซ่อมแซมรางดังกล่าวให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม โดยต้องมีการเปลี่ยนหมอนรางรถไฟ จำนวนกว่า 10 ท่อน และต้องใช้ดี.อี.คลิป ในการล็อกรางรถไฟให้อยู่ติดกับไม้หมอน ซึ่งการซ่อมแซมจุดนี้ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงค่ำ และรถไฟทั้ง 14 ขบวน ที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ จะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามคลี่คลายคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้มีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายอับดุลฮัจซัน สีกะ กลุ่มมะซูเพียน ยะกูมอ และกลุ่มของนายสะแปอิง อุเซ็ง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเคยร่วมก่อเหตุวางระเบิดคาร์บอมบ์ และ จยย.บอมบ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะมาแล้วหลายครั้ง
และเมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานตันหยงมัส แขวงบำรุงการทางรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายเจษฏา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และ พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผกก.สภ.ระแงะ ได้ร่วมเป็นประธานเชิญตัวแทนผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณ 2 ฟากของแนวเขตเส้นทางรถไฟ จำนวน 60 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรื้อฟื้น และเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 ในการวางมาตรการรักษาปลอดภัยขบวนรถไฟทั้ง 14 ขบวน ที่วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ผ่านพื้นที่รับผิดชอบ 3 สถานี คือ สถานีรถไฟมะรือโบ สถานีรถไฟตันหยงมัส และสถานีรถไฟป่าไผ่ ซึ่งมีระยะทางยาว 24 ก.ม. ผ่าน 14 หมู่บ้าน 4 ตำบล คือ ต.มะโบรือตก ต.ตันหยงมัส ต.เฉลิม และ ต.ตันหยงลิมอ
โดยพื้นที่ล่อแหลม และเสี่ยงภัยซึ่งเกิดเหตุร้ายหลายครั้งต่อขบวนรถไฟ คือที่ ม.1 บ้านมะรือโบ ม.9 บ้านสะโล ต.มะรือโบตก ม.6 บ้านสโลตราแดะ ต.เฉลิม และ ม.5 บ้านตราแดะ ต.บาโงสโต ซึ่งทั้ง 4 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ขอสนับสนุนชุด ชรบ.ร่วมกับประชาชน และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่งตัวแทนร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองในการลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางก่อนรถไฟขบวนต่างๆ จะแล่นผ่าน
และภายหลังเสร็จจากการประชุมการรื้อฟื้น และเพิ่มมาตรการแผนพิทักษ์ม้าเหล็ก 55 แล้ว นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นรถตรวจทางของแขวงบำรุงทางสถานีรถไฟตันหยงมัส ตั้งแต่สถานีรถไฟตันหยงมัส จดสถานีรถไฟป่าไผ่ เพื่อดูสภาพภูมิประเทศ และความพร้อมในการวางกำลัง รปภ.เส้นทางรถไฟ หากขบวนรถไฟสายต่างๆ ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเนินดินที่มีต้นไม้ขึ้นรกทึบ มีความเห็นตรงกันว่า จะนำรถแบ็กโฮมาปรับผิวดินให้ต่ำลง แถมตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณแนวทางรถไฟให้ราบ และมีความโปร่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเคลื่อนไหวใช้สถานที่ดังกล่าว