ASTVผู้จัดการรายวัน“หม่อมอุ๋ย”ควง ป.ป.ช.-ทีดีอาร์ไทย อัดจำนำข้าว ชี้ดันทุรังต่อ รัฐจะเจ๊งสูงถึง 1.26 ล้านล้านบาทในปี 62 หนุนปรับหลักเกณฑ์หรือใช้การประกันรายได้จะดีกว่า ด้านป.ป.ช. เผยคดีโกงข้าวมีเข้ามาเพียบ จับตาขายจีทูจีน่าจะมีปัญหา จี้รัฐคายข้อมูล “นิพนธ์”ห่วงหนี้สาธารณะพุ่งปรี๊ด ระวังพังเหมือนกรีซ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการอภิปราย “นโยบายจำนำข้าว เจ๋ง เจ๊า เจ๊ง?” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการรับจำนำข้าวที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยจะต้องมีการปรับและทบทวนวิธีการให้ความช่วยเหลือใหม่
เพราะหากยังดึงดันที่จะใช้การรับจำนำข้าวต่อไป ก็มีแต่เกิดผลเสียต่องบประมาณ และทำให้ประเทศชาติเสียหาย
ทั้งนี้ มีการประเมินว่าหากรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการจำนำข้าว ด้วยการรับจำนำข้าวในราคาที่สูง และมีความเสี่ยงจากการระบายข้าวได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคารับจำนำมาก จะทำให้รัฐบาลประสบปัญหาการขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/55 คาดว่าจะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านบาท และปีการผลิต 2555/56 คาดว่าจะขาดทุนมากขึ้นเป็น 2.1 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2562 รัฐบาลจะขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวสูงถึง 1.26 ล้านล้านบาท
“ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลคิดไม่เป็น และไม่มีประสบการณ์ หากรัฐบาลยังยืนยันจะใช้โครงการจำนำต่อไป โดยไม่ปรับหลักเกณฑ์ใดๆ จะทำให้ประสบปัญหาขาดทุน และประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะหนี้สินพ้นตัว จึงเห็นว่าการใช้วิธีการประกันรายได้ของรัฐบาลที่แล้ว จะทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์ทั่วถึงเท่าเทียมกันมากกว่า และเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวนาฐานะดี กับชาวนายากจนน้อยกว่าด้วย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
นางสิริลักษณา คอมันตร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลส่งเข้ามาให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบเป็นจำนวนมาก และพบว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอน อีกทั้งเป็นนโยบายที่มีการส่งเสริมให้มีการทุจริต ซึ่งรัฐบาลเองก็ยอมรับว่ามีการออกใบรับรองเกษตรกรไม่ถูกต้อง มีการจำนำข้าวข้ามเขต มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว และมีปัญหาทุจริตอีกมากมาย ดังนั้น นโยบายจำนำข้าวนั้น ไม่ได้มีแค่ เจ๋ง เจ๊า เจ๊ง เท่านั้น แต่ยังมีเจี๊ยะอีกด้วย
ส่วนการขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ก็พบว่ามีปัญหา รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า รัฐบาลได้ขายข้าวให้รัฐบาลต่างประเทศ ในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลก ซึ่งจะเป็นการเอาเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนประชาชนต่างประเทศ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลการขายข้าวแบบจีทูจี ต่อ ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ผลจากการจำนำข้าว ทำให้ไทยกำลังจะมีปัญหาหนี้สาธารณะสูง อาจจะมีปัญหาเช่นเดียวกับกรีซ ขณะที่รัฐบาลขาดความชัดเจนในการแสวงหารายได้ ส่วนโครงการจำนำข้าว ก็พบว่า คนที่ได้ประโยชน์จะเป็นคนที่มานาเป็นจำนวนมาก โรงสี นักการเมือง และคู่แข่งของไทย ทั้งเวียดนาม อินเดีย แต่ชาวนาที่ยากจน กลับเป็นผู้ที่เสียประโยชน์
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการอภิปราย “นโยบายจำนำข้าว เจ๋ง เจ๊า เจ๊ง?” ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย วานนี้ (19 พ.ย.) ว่า ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการรับจำนำข้าวที่ได้ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยจะต้องมีการปรับและทบทวนวิธีการให้ความช่วยเหลือใหม่
เพราะหากยังดึงดันที่จะใช้การรับจำนำข้าวต่อไป ก็มีแต่เกิดผลเสียต่องบประมาณ และทำให้ประเทศชาติเสียหาย
ทั้งนี้ มีการประเมินว่าหากรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการจำนำข้าว ด้วยการรับจำนำข้าวในราคาที่สูง และมีความเสี่ยงจากการระบายข้าวได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคารับจำนำมาก จะทำให้รัฐบาลประสบปัญหาการขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/55 คาดว่าจะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านบาท และปีการผลิต 2555/56 คาดว่าจะขาดทุนมากขึ้นเป็น 2.1 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2562 รัฐบาลจะขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวสูงถึง 1.26 ล้านล้านบาท
“ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลคิดไม่เป็น และไม่มีประสบการณ์ หากรัฐบาลยังยืนยันจะใช้โครงการจำนำต่อไป โดยไม่ปรับหลักเกณฑ์ใดๆ จะทำให้ประสบปัญหาขาดทุน และประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะหนี้สินพ้นตัว จึงเห็นว่าการใช้วิธีการประกันรายได้ของรัฐบาลที่แล้ว จะทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์ทั่วถึงเท่าเทียมกันมากกว่า และเกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวนาฐานะดี กับชาวนายากจนน้อยกว่าด้วย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
นางสิริลักษณา คอมันตร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลส่งเข้ามาให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบเป็นจำนวนมาก และพบว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอน อีกทั้งเป็นนโยบายที่มีการส่งเสริมให้มีการทุจริต ซึ่งรัฐบาลเองก็ยอมรับว่ามีการออกใบรับรองเกษตรกรไม่ถูกต้อง มีการจำนำข้าวข้ามเขต มีการสวมสิทธิ์จำนำข้าว และมีปัญหาทุจริตอีกมากมาย ดังนั้น นโยบายจำนำข้าวนั้น ไม่ได้มีแค่ เจ๋ง เจ๊า เจ๊ง เท่านั้น แต่ยังมีเจี๊ยะอีกด้วย
ส่วนการขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ก็พบว่ามีปัญหา รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า รัฐบาลได้ขายข้าวให้รัฐบาลต่างประเทศ ในราคาที่ต่ำกว่าตลาดโลก ซึ่งจะเป็นการเอาเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนประชาชนต่างประเทศ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลการขายข้าวแบบจีทูจี ต่อ ป.ป.ช. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ผลจากการจำนำข้าว ทำให้ไทยกำลังจะมีปัญหาหนี้สาธารณะสูง อาจจะมีปัญหาเช่นเดียวกับกรีซ ขณะที่รัฐบาลขาดความชัดเจนในการแสวงหารายได้ ส่วนโครงการจำนำข้าว ก็พบว่า คนที่ได้ประโยชน์จะเป็นคนที่มานาเป็นจำนวนมาก โรงสี นักการเมือง และคู่แข่งของไทย ทั้งเวียดนาม อินเดีย แต่ชาวนาที่ยากจน กลับเป็นผู้ที่เสียประโยชน์