คนร้ายลอบวางระเบิดน้ำหนัก 100 กก.ขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากยะลา-ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก อส.พลีชีพ 1 นาย จนท.-ชาวบ้านสาหัส 16 ราย ส่งผลกระทบรถไฟเส้นทาง 3 จชต.ทั้ง 20 ขบวนวิ่งได้แค่ยะลา เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.เข้ม คาดคนร้ายไม่ต่ำกว่า 6 คนลงมือ และต้องการแสดงศักยภาพต่อเนื่องช่วงที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยือนไทย
เมื่อเวลา 07.20 น.วานนี้ (18 พ.ย.) ร.ต.ท.ศรีธนน สำลี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งว่าขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากยะลา-จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1075 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟย่อยบ้านสโลว์บูกิตยือแร ระหว่างบ้านสโลว์กับบ้านสาโละ หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้รถไฟตกรางและมีผู้เสียชีวิต 1 รายสาหัส 16 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.รือเสาะ รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟตกอยู่ไหล่ทาง และจากการเข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต เป็น อส.คุ้มครองขบวนรถไฟนอนเสียชีวิตอยู่กลางตู้การ์ดภายในโบกี้ที่ 6 ในสภาพแขนซ้ายขาด ชื่อ ออส.พนากร ชุ่นแก้ว อายุ 35 ปีสังกัดกองร้อยบังคับการ และบริการส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 16 รายถูกนำส่งโรงพยาบาลรือเสาะ และส่งไปรักษาต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจที่เกิดเหตุบริเวณภายในโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นตู้การ์ดของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในมีสภาพที่ถูกระเบิดจนเสียหายยับเยินทั้งตู้ รวมทั้งตู้ข้างเคียงที่ถูกสะเก็ดระเบิดเช่นกันอีก 1 ตู้ ส่วนหลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร และพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องหนัก 90 กิโลกรัมที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม ก่อนลากสายไฟไปในป่ารกทึบข้างทางประมาณ 100 เมตร แล้วจุดชนวนด้วยแบ็ตเตอรี่
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย ซึ่งมีอาการสาหัส 8 รายและส่งรักษาต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาต่อมาคือ 1.อส.ชวนิต ชูประวัติ 2.อส.วินัย พรหมพูล 3.อส.ประสาน ชาตรี 4.นายสุขสวัสดิ์ เรืองนาม ขาขาด 2 ข้าง 5.ดช.มะเพาซัน ดาโอ๊ะ 6.ด.ช.มะเพาซี ดาโอ๊ะ 7.นายสุกรี โกเบ 8.นายกำพล หน่อแก้ว ส่วนอีก 1 รายคือนายสมมาตร แก้วประสิทธิ์ นอนรักษาตัวที่ รพ.รือเสาะ และอีก 7 รายแพทย์รักษาอาการบาดเจ็บก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้
สอบสวนทราบว่า เวลา 07.10 น.หลังจากขบวนรถไฟสายดังกล่าวแล่นออกจากสถานีรถไฟรือเสาะ ไปประมาณ 10 นาที โดยได้จอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสโลว์บูกิตยือแร และวิ่งออกจากสถานีรถไฟได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในกอสาคูริมทางรถไฟ และได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้กลางรางรถไฟ จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในระหว่างที่ขบวนรถไฟโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นห้องการ์ดแล่นผ่านแรงระเบิดส่งผลทำให้อานุภาพของระเบิดทะลุทะลวงสู่ภายในโบกี้ทำให้ อส.และตำรวจประจำขบวนรถไฟที่นั่งอยู่ถูกอานุภาพของระเบิดเสียชีวิตคาที่ และได้รับบาดเจ็บ และขบวนรถไฟได้ตกรางห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 200 เมตร หลังจากนั้นชาวบ้านที่ใช้บริการขบวนรถไฟสายดังกล่าวได้พากันหวีดร้อง และพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเองลงจากขบวนรถไฟ เกรงกลุ่มคนร้ายจะยิงถล่มซ้ำ
ส่วนสาเหตุคนร้ายวางระเบิดในครั้งเชื่อว่าคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพต่อเนื่อง ทั้งคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลา และระเบิดรถไฟที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เยือนประเทศไทย
**ระบุฝีมือกลุ่มนายรอแปอิง อุเซ็ง
พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มที่ลอบวางระเบิดมีประมาณ 6 คนทั้งฝังระเบิด ดูต้นทาง และจุดชนวน ซึ่งเป็นสมุนของนายรอแปอิง อุเซ็ง แกนนำระดับปฏิบัติการตัวเอ้ ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาหลายคดี และเคลื่อนไหวในพื้นที่หมู่ 9 บ้านสโลว์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายกำลังประชุมลับเพื่อวางแผนในการบุกจู่โจมตรวจค้นเพื่อไล่ล่านายรอแปอิง และสมุนทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงและจุดบอดเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลอบยิงขบวนรถไฟ หรือการวางระเบิด ทำให้ทุกฝ่ายต้องมีการนำแผนในการรักษาความปลอดภัยกลับมาทบทวนกันใหม่อีกรอบ เพราะไม่เช่นนั้นจะสร้างความเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และช่วงที่กลุ่มคนร้ายลอบนำระเบิดหนักถึง 90 กิโลกรัมไปฝังไว้เป็นช่วงดึก ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังมีการสับเปลี่ยนกำลังเป็นวงรอบปกติ โดยใช้จอบเสียมขุดและฝังระเบิดใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง และยังเป็นเส้นทางที่ไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้านแม้เพียงหลังเดียว
"ที่สำคัญพบว่าชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 เกรงกลัวการเป็นเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะนายรอแปอิง จะไม่มีการข่มขู่ แต่สังหารทิ้งเมื่อรู้ว่าใครเป็นสายให้ทางการ และนี่คือจุดบอดที่กำลัง 3 ฝ่ายต้องเร่งเข้าไปสร้างมวลชนเพื่อดึงชาวบ้านมาเป็นฝ่ายรัฐให้มากที่สุด"
**รถไฟทั้ง20ขบวน3จชต.วิ่งแค่ยะลา
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้การเดินรถไฟสายใต้เส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทั้งขบวนรถสายยาวจากกรุงเทพฯ และขบวนท้องถิ่นทั้ง 20 ขบวน ต้องวิ่งให้บริการประชาชนได้เพียงแค่สถานีรถไฟยะลาเท่านั้น ส่วนขบวนรถไฟสายใต้ไปกลับหาดใหญ่-กรุงเทพฯ ยังคงให้บริการตามปกติทุกขบวน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินรถไฟทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้นกว่เดิมด้วย โดยมีกำลัง อส. และตำรวจรถไฟ เกือบ 10 นาย พร้อมอาวุธครบมือประจำอยู่บนขบวนรถไฟ และตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณสถานีอย่างเข้มงวด
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้นมั่นใจว่าคนร้ายกำหนดเป้าหมายชัดเจนในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ รปภ.บนขบวนรถไฟ เนื่องจากคนร้ายเลือกกดชนวนระเบิดในโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ หากวิเคราะห์จากพื้นที่จุดเกิดเหตุยังพบด้วยว่าคนร้ายเลือกจุดซุกซ่อนระเบิดในทำเลที่เป็นป่ารกทึบและที่สำคัญเป็นจุดที่เตรียมขึ้นเนิน ซึ่งทำให้ขบวนรถไฟเคลื่อนที่ช้ากลายเป็นการล็อกเป้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าคนร้ายมีการวางแผนและศึกษารูปแบบการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสร้างผลกระทบอย่างหนักทั้งในแง่ของความเสียหายของรถไฟที่ต้องกู้ขบวนรถ เพื่อเปิดทางในการสัญจร คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากเป็นจุดที่ดำเนินการค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดในด้านเวลาที่ต้องดำเนินการได้เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้จำเป็นต้องหยุดการบริการรถไฟในบางพื้นที่ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ในส่วนของขวัญและกำลังใจของพนักงานรถไฟและเจ้าหน้าที่เสียขวัญหนักมากกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อมั่น และที่สาคัญต้องรอการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนเปิดบริการอีกรอบ".
เมื่อเวลา 07.20 น.วานนี้ (18 พ.ย.) ร.ต.ท.ศรีธนน สำลี ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งว่าขบวนรถไฟที่ 453 วิ่งต้นทางจากยะลา-จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1075 อยู่ห่างจากสถานีรถไฟย่อยบ้านสโลว์บูกิตยือแร ระหว่างบ้านสโลว์กับบ้านสาโละ หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้รถไฟตกรางและมีผู้เสียชีวิต 1 รายสาหัส 16 ราย จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.รือเสาะ รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟตกอยู่ไหล่ทาง และจากการเข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต เป็น อส.คุ้มครองขบวนรถไฟนอนเสียชีวิตอยู่กลางตู้การ์ดภายในโบกี้ที่ 6 ในสภาพแขนซ้ายขาด ชื่อ ออส.พนากร ชุ่นแก้ว อายุ 35 ปีสังกัดกองร้อยบังคับการ และบริการส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 16 รายถูกนำส่งโรงพยาบาลรือเสาะ และส่งไปรักษาต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ จากการเข้าตรวจที่เกิดเหตุบริเวณภายในโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นตู้การ์ดของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในมีสภาพที่ถูกระเบิดจนเสียหายยับเยินทั้งตู้ รวมทั้งตู้ข้างเคียงที่ถูกสะเก็ดระเบิดเช่นกันอีก 1 ตู้ ส่วนหลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร และพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องหนัก 90 กิโลกรัมที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม ก่อนลากสายไฟไปในป่ารกทึบข้างทางประมาณ 100 เมตร แล้วจุดชนวนด้วยแบ็ตเตอรี่
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย ซึ่งมีอาการสาหัส 8 รายและส่งรักษาต่อ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาต่อมาคือ 1.อส.ชวนิต ชูประวัติ 2.อส.วินัย พรหมพูล 3.อส.ประสาน ชาตรี 4.นายสุขสวัสดิ์ เรืองนาม ขาขาด 2 ข้าง 5.ดช.มะเพาซัน ดาโอ๊ะ 6.ด.ช.มะเพาซี ดาโอ๊ะ 7.นายสุกรี โกเบ 8.นายกำพล หน่อแก้ว ส่วนอีก 1 รายคือนายสมมาตร แก้วประสิทธิ์ นอนรักษาตัวที่ รพ.รือเสาะ และอีก 7 รายแพทย์รักษาอาการบาดเจ็บก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้
สอบสวนทราบว่า เวลา 07.10 น.หลังจากขบวนรถไฟสายดังกล่าวแล่นออกจากสถานีรถไฟรือเสาะ ไปประมาณ 10 นาที โดยได้จอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟสโลว์บูกิตยือแร และวิ่งออกจากสถานีรถไฟได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในกอสาคูริมทางรถไฟ และได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้กลางรางรถไฟ จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในระหว่างที่ขบวนรถไฟโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นห้องการ์ดแล่นผ่านแรงระเบิดส่งผลทำให้อานุภาพของระเบิดทะลุทะลวงสู่ภายในโบกี้ทำให้ อส.และตำรวจประจำขบวนรถไฟที่นั่งอยู่ถูกอานุภาพของระเบิดเสียชีวิตคาที่ และได้รับบาดเจ็บ และขบวนรถไฟได้ตกรางห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 200 เมตร หลังจากนั้นชาวบ้านที่ใช้บริการขบวนรถไฟสายดังกล่าวได้พากันหวีดร้อง และพยายามที่จะช่วยเหลือตัวเองลงจากขบวนรถไฟ เกรงกลุ่มคนร้ายจะยิงถล่มซ้ำ
ส่วนสาเหตุคนร้ายวางระเบิดในครั้งเชื่อว่าคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพต่อเนื่อง ทั้งคาร์บอมบ์ที่ จ.ยะลา และระเบิดรถไฟที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เยือนประเทศไทย
**ระบุฝีมือกลุ่มนายรอแปอิง อุเซ็ง
พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มที่ลอบวางระเบิดมีประมาณ 6 คนทั้งฝังระเบิด ดูต้นทาง และจุดชนวน ซึ่งเป็นสมุนของนายรอแปอิง อุเซ็ง แกนนำระดับปฏิบัติการตัวเอ้ ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาหลายคดี และเคลื่อนไหวในพื้นที่หมู่ 9 บ้านสโลว์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายกำลังประชุมลับเพื่อวางแผนในการบุกจู่โจมตรวจค้นเพื่อไล่ล่านายรอแปอิง และสมุนทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงและจุดบอดเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการลอบยิงขบวนรถไฟ หรือการวางระเบิด ทำให้ทุกฝ่ายต้องมีการนำแผนในการรักษาความปลอดภัยกลับมาทบทวนกันใหม่อีกรอบ เพราะไม่เช่นนั้นจะสร้างความเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และช่วงที่กลุ่มคนร้ายลอบนำระเบิดหนักถึง 90 กิโลกรัมไปฝังไว้เป็นช่วงดึก ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังมีการสับเปลี่ยนกำลังเป็นวงรอบปกติ โดยใช้จอบเสียมขุดและฝังระเบิดใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง และยังเป็นเส้นทางที่ไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้านแม้เพียงหลังเดียว
"ที่สำคัญพบว่าชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 9 เกรงกลัวการเป็นเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะนายรอแปอิง จะไม่มีการข่มขู่ แต่สังหารทิ้งเมื่อรู้ว่าใครเป็นสายให้ทางการ และนี่คือจุดบอดที่กำลัง 3 ฝ่ายต้องเร่งเข้าไปสร้างมวลชนเพื่อดึงชาวบ้านมาเป็นฝ่ายรัฐให้มากที่สุด"
**รถไฟทั้ง20ขบวน3จชต.วิ่งแค่ยะลา
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้การเดินรถไฟสายใต้เส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สถานีชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทั้งขบวนรถสายยาวจากกรุงเทพฯ และขบวนท้องถิ่นทั้ง 20 ขบวน ต้องวิ่งให้บริการประชาชนได้เพียงแค่สถานีรถไฟยะลาเท่านั้น ส่วนขบวนรถไฟสายใต้ไปกลับหาดใหญ่-กรุงเทพฯ ยังคงให้บริการตามปกติทุกขบวน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินรถไฟทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้นกว่เดิมด้วย โดยมีกำลัง อส. และตำรวจรถไฟ เกือบ 10 นาย พร้อมอาวุธครบมือประจำอยู่บนขบวนรถไฟ และตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณสถานีอย่างเข้มงวด
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าสำนักงานประจำการรถไฟศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้นมั่นใจว่าคนร้ายกำหนดเป้าหมายชัดเจนในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ รปภ.บนขบวนรถไฟ เนื่องจากคนร้ายเลือกกดชนวนระเบิดในโบกี้ที่ 6 ซึ่งเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ หากวิเคราะห์จากพื้นที่จุดเกิดเหตุยังพบด้วยว่าคนร้ายเลือกจุดซุกซ่อนระเบิดในทำเลที่เป็นป่ารกทึบและที่สำคัญเป็นจุดที่เตรียมขึ้นเนิน ซึ่งทำให้ขบวนรถไฟเคลื่อนที่ช้ากลายเป็นการล็อกเป้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าคนร้ายมีการวางแผนและศึกษารูปแบบการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสร้างผลกระทบอย่างหนักทั้งในแง่ของความเสียหายของรถไฟที่ต้องกู้ขบวนรถ เพื่อเปิดทางในการสัญจร คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากเป็นจุดที่ดำเนินการค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดในด้านเวลาที่ต้องดำเนินการได้เฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้จำเป็นต้องหยุดการบริการรถไฟในบางพื้นที่ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ในส่วนของขวัญและกำลังใจของพนักงานรถไฟและเจ้าหน้าที่เสียขวัญหนักมากกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อมั่น และที่สาคัญต้องรอการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนเปิดบริการอีกรอบ".