ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลังจาก ‘ธีรศักดิ์ สุวรรณยศ’ ถูกกระทรวงการคลัง ตั้งกรรมการสอบในข้อหา ปล่อยสินเชื่อไม่ชอบมาพากล..
สื่อหลายสำนักเชื่อว่า นี่คือการส่งสัญญาณบางอย่างที่มีนัยยะซ่อนเร้น อาจสะเทือนถึง ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไอแบงก์ คนต่อไป !!
มีคำถามตามมา หลังจากกระทรวงการคลัง และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ตั้งกรรมการสอบสวน ผู้บริหารไอแบงก์ ว่า มีการปล่อยสินเชื่อไม่ชอบมาพากล มูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท ในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยหรือ ไอแบงก์
แต่แล้ว เมื่อวิรุฬ เตชะไพบูลย์ นั่งเก้าอี้ รมช.คลัง ควบคุมไอแบงก์
ผลการสอบสวนก็ไม่ปรากฎว่า ธีรศักดิ์ หรือ เสี่ยอี๊ด มีมลทิน
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยสินเชื่อไม่ชอบมาพากล ประมาณ 8 โครงการ มูลค่าเป็นหลักพันล้านบาทในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ไอแบงก์ โดยธปท.ได้ส่งข้อมูลให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
หลังจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการปล่อยกู้ ของไอแบงก์
แต่แล้วก็ไม่มีอะไรในกอไผ่
ต่างกับธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
คำสั่งปลด “โสฬส สาครวิศว" ออกจากตำแหน่งเอ็มดี เอสเอ็มอีแบงก์ หลังจากผลสอบสวน พบว่า สร้างความเสียหายในการปล่อยสินเชื่อกว่า 300 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) บอกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์ มีมติเลิกจ้างนายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการธนาคาร เนื่องจาก กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับของบอร์ด โดยได้แก้ไขสาระสำคัญในโครงการสินเชื่อชะลอเลิกจ้างจนเป็นเหตุให้มีการปล่อยสินเชื่อเกินวงเงินที่กำหนด ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านเครดิตและเสียหายแก่ธนาคาร เบื้องต้น ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 311 ล้านบาท
"บอร์ดมีมติให้เลิกจ้างนายโสฬส โดยไม่บอกกล่าวและไม่ต้องจ่ายสินไหมทดแทน โดยให้มีผลทันทีนับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมเป็นต้นไป” นริศอธิบาย
โดยคณะกรรมการมีมติแต่งตั้งให้ นายพงษ์ศักดิ์ ชาเจียมเจน กรรมการธนาคาร ทำหน้าที่รักษาการแทน
พิชัย ชุณหวชิระ ประธานบอร์ดบริหารเอสเอ็มอีแบงก์ ขยายความว่า นายโสฬส ได้เข้าไปแก้ไขรายละเอียดหลักเกณฑ์ของโครงการสินเชื่อชะลอเลิกจ้าง 6 ครั้ง จนทำให้วงเงินสินเชื่อโครงการดังกล่าวเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดจำนวนมาก โดยเป้าหมายมีจำนวน 6 พันล้านบาท แต่อนุมัติไปถึง 2.2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มีการทำสัญญาไปแล้ว 1.9 หมื่นล้านบาท และ เบิกจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 1.3 หมื่นล้านบาท
แต่สำหรับไอแบงก์แล้ว “ธีรศักดิ์” นั่งบริหารจนครบวาระ
เพียงแต่ไม่ได้ต่ออายุเท่านั้น
โดยส่งไม้ต่อให้อดีตผู้จัดการทั่วไป แคปปิตอล โอเค วัย 47 มาทำหน้าที่แทน
มนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) บอกนักข่าวว่า “คณะกรรมการไอแบงก์ได้เห็นชอบให้ นายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการ บมจ. ท่าอากาศยานไทย อดีตผู้จัดการทั่วไป บริษัท แคปปิตอล โอเค เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของธนาคาร โดยอยู่ระหว่างการเจรจาค่าผลตอบแทน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ในเดือน ธ.ค.นี้”
ธานินทร์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากว่าไม่มีประสบการณ์ทางด้านการเงิน แต่เข้าบริหารไอแบงก์เพราะ มียี่ห้อ“แคปปิตอล โอเค” ในเครือชินวัตรแปะหน้าผาก
เคยทำงานเป็น กรรมการผู้จัดการ แมคไทยจำกัด
แต่การขายสินเชื่อ เงินฝาก ไม่เหมือนกับการขายแม็คโดนัล
ธานินทร์จึงถูกสบประมาทอย่างรุนแรง
“คณะกรรมการสรรหาได้ประชุมเมื่อวันที่ 18 กันยายน และเชิญนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการ บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และเป็นอดีตผู้จัดการทั่วไป บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด มาแสดงวิสัยทัศน์และมีมติเลือกนายธานินทร์ เสนอต่อบอร์ด เพื่อลงมติเลือกเป็นกรรมการผู้จัดการไอแบงก์และเสนอต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป”แหล่งข่าวอธิบาย
“ในที่ประชุมมีการทักท้วงคุณสมบัติของนายธานินทร์ว่า ไม่ใช่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เพราะเป็นเพียงผู้จัดการทั่วไปเท่านั้น นอกจากนี้ คุณสมบัติที่กำหนดยังระบุว่า ต้องเคยผ่านการบริหารงานในสถาบันการเงิน และมีเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่แคปปิตอล โอเคมีเงินทุนหมุนเวียนไม่ถึงเกณฑ์ คณะกรรมการสรรหาจึงได้เขียนระบุในที่ประชุมไว้ว่า หากคุณสมบัติผู้สมัครไม่ครบ ให้ถือว่าเป็นความผิดของผู้สมัครเอง เพราะแรงสนับสนุนทางการเมืองต้องการให้นายธานินทร์ได้รับตำแหน่งนี้”
การเข้าทำหน้าที่โดยผิดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติ อาจจะเป็นที่มาของการฟ้องร้องในภายหลังได้
ทำให้ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเอาชีวิตการทำงานไปฝากไว้กับ ธานินทร์
นอกจากนี้ ธานินทร์ ยังเป็นประธานบริษัท 988 พลัส จำกัด ที่ปรึกษา CEO บริษัทเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นกรรมการบริษัทศัลยกรรมเพอร์เฟคเท็น จำกัด บริษัทอีซีท็อปอัพ จำกัด บริษท แวง จำกัด บริษัทเอ็มบาสซี่ ซีนีมา จำกัด บริษัทอินโนเวทีฟ จำกัด บริษัทอินโนเวทีฟ เอนเอจี แมเนจเมนท์ จำกัด
ธานินทร์ จบปริญญาตรีวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สถาบันศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แต่นั่นไม่ได้บอกว่า ธานินทร์มีความสามารถทางการเงิน
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีผู้มาสมัครตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไอแบงก์ถึง 5 คน ได้แก่ นายรักษ์ วรกิจโภคาทร รองกรรมการผู้จัดการไอแบงก์ นายรัชสุวรรณ ปิดพยันต์ รองกรรมการผู้จัดการประจำสำนักกรรมการ ผู้จัดการไอแบงก์ นายกฤษดา กวีญา อดีตประธานกรรมการบริหารไอแบงก์ นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข อดีตผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย
แต่ไม่มีใคร “เส้นใหญ่” เท่ากับธานินทร์
“ธีรศักดิ์” บอกกับนักข่าวว่า ได้วางแผนพัฒนาไอแบงก์ไว้ 5 ปี ตั้งแต่ 2555-2559 เพื่อก้าวไปสู่ธนาคารอิสลาม อันดับ 3 ในเอเชีย ซึ่งปัจจุบัน ibank อยู่ในอันดับ 7 โดยมี เมย์แบงก์อยู่ในอันดับ 1 ตามมาด้วยธนาคารซีไอเอ็มบี และ RHB ตามลำดับ
ที่ผ่านมาธนาคารได้วางแผนพัฒนา องค์กรออกเป็น 3 ระยะ คือ 1.พลิกฟื้นให้มีกำไร ซึ่งในปี 2553 ที่ผ่านมาธนาคาร สามารถดำเนินการพลิกฟื้นจากการขาดทุนสะสะสมที่มีอยู่ประมาณ 853 ล้านบาท มาเป็นกำไรในปี 2554 ประการที่ 2 ธนาคารได้มีการพัฒนาระบบงานให้เป็นมาตรฐานสากล ลดความซ้ำซ้อน ลดต้นทุน ทั้งด้านไอทีและการพัฒนาบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ core banking และ ระบบไอทีอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาใช้งบฯ ลงทุนประมาณ 1.7 พันล้าน และประการสุดท้าย คือ การเข้า Retail Banking เต็มรูปแบบ
ในปี 2555 นี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ ในส่วนของเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2555 เน้นให้บริการลูกค้ารายย่อยและ SMEs โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพอร์ตรายย่อยและ SMEs จากปัจจุบันร้อยละ 66 เป็นร้อยละ 78 และจะลดสัดส่วนลูกค้าธุรกิจรายใหญ่จากปัจจุบันร้อยละ 34 ให้เหลือเพียงร้อยละ 22
“ตามแผนดำเนินธุรกิจภายใน 5 ปี (ปี 55-59) ภาย ในปี 59 พอร์ตสินเชื่อจะเพิ่มเป็น 313,098 ล้านบาท เน้นพอร์ตลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็น 45% เอสเอ็มอี 40% และ Corporate ที่ 15%”ธีรศักดิ์ประกาศแผนไว้
แต่เขาคงไม่มีโอกาสได้สานต่อ
คงต้องปล่อยให้ คนของชินวัตร บริหารไอแบงก์ ไปตามระเบียบ !!