ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.จับมือกนอ.ดันนิคมฯเอเชียเป็นโครงการต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เตรียมผุด 2 โครงการผลิตพลาสติกชีวภาพทั้งPLA-PBS ในนิคมฯดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อชุมชนรอบข้างและสังคม ด้านบอร์ดบางจากเผยตั้ง"วิเชียร อุษณาโชติ "พิจารณาเห็นว่ามีความเหมาะสม อ้างไม่มีข้อห้ามของบริษัทฯหากอยู่ครบวาระ 4ปีมีอายุเกิน 60ปีไม่ได้
วานนี้ (31 ต.ค.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ลงนามโครงการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในนิคมฯเอเชียกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและยั่งยืนของอุตสาหกรรม ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยการลงนามครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในนิคมฯเอเชีย เพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายGreen Roadmapซึ่งจะไม่เป็นเพียงแค่พื้นที่อุตสาหกรรม แต่จะพัฒนาเป็นสวนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ(PTT ECO-TP) ครบถ้วนตามข้อกำหนดตามมาตรฐานเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 5 มิติ 22 ด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนและสังคม
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พื้นที่นิคมฯเอเชียมีทั้งสิ้น 1.4 พันไร่ จ.ระยอง ได้จัดแบ่งเป็นโซนพื้นที่อุตสาหกรรมไบโอพลาสติกและอุตสาหกรรมสีเขียว มีเนื้อที่ 400 กว่าไร่ และพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นๆ
ขณะเดียวกันก็กันพื้นที่สร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อเป็นแนวกันชนด้วยการปลูกป่านิเวศประมาณ 200 ไร่ด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PBS ขนาดกำลังผลิต 2 หมื่นตัน/ปี ใช้เงินลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2555 แล้วเสร็จผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2558 โดยโครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างปตท.กับมิตซูบิชิ เคมิคอลคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558
นอกจากนี้ มีโครงการผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PLA ขนาด 1.4 แสนตัน/ปี ซึ่งโครงการนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับ NatureWorks ประเทศสหรัฐฯเข้ามาตั้งโรงงานผลิตPLA แห่งที่ 2 ในไทย เงินลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ซึ่งปัจจุบันความต้องการใช้PLAในตลาดโลกเติบโตขึ้นปีละ 20-30% ทำให้กำลังการผลิตโรงแรกที่สหรัฐฯคาดว่าจะเต็มกำลังการผลิตได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งการเร่งสรุปการตั้งโรงงานแห่งที่ 2 นี้จะทำให้มีกำลังการผลิตใหม่รองรับความต้องการใช้ในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นได้ทันท่วงทีรวมทั้ง ปตท.อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งโรงงานผลิตวัตถุดิบ คือ Lactic Acid ใช้ในการผลิตPLA หรือจะซื้อจากผู้ประกอบการอื่นที่มีโรงงานตั้งอยู่ในไทยอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในนิคมฯจะตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาไบไอเคมิคอล เซนเตอร์ (R&D LAB) ซึ่งจะเปิดให้บริการเช่าในการทำแล็บวิจัยและพัฒนาด้านไบโอพลาสติกกับลูกค้าโดยมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนให้กับลูกค้าด้วย
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าขณะนี้โลกให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแนวทางการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมให้เป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป็นวิสัยทัศน์ของกนอ.ที่ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับนิคมฯเข้าสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศมาตั้งแต่ปี 2553 โดยกำหนดว่าในอีก 5 ปีแรก(2553-2556) จะต้องมีนิคมฯเชิงนิเวศ 15แห่งและในปี2562 นิคมฯทั้งหมดในไทยจะต้องเป็นนิคมฯเชิงนิเวศ ซึ่งปัจจุบันมีนิคมฯที่อยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อเป็นนิคมฯเชิงนิเวศแล้ว 11 นิคม
***ตั้ง"วิเชียร"เหมาะสม-ไม่เกี่ยงอายุ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติแต่งตั้งที่ประชุมนายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งตามสัญญาจ้างในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
ทางคณะกรรมการสรรหาฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่านายวิเชียร ซึ่งเป็นผู้บริหารบางจากฯที่มีความเหมาะสมที่สุด แม้ว่าอายุนายวิเชียรจะเกิน 60 ปีหากอยู่ครบวาระ 4 ปีก็ตาม เนื่องจากกฎระเบียบของบางจากไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของบอร์ดฯจะพิจารณาทำสัญญาว่าจ้างให้นายวิเชียร์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ครบวาระ 4 ปี หรือจะอยู่ในตำแหน่งนี้จนถึง
60 ปีเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้ บางจากฯได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยกำหนดคุณสมบัติต้องมีอายุ 45-55 ปี ซึ่งมีผู้สมัคร 3 รายเป็นเป็นคนในบางจากเอง 2 รายและคนภายนอก 1 รายแต่เมื่อพิจารณาแล้วไม่เหมาะสม จึงพิจารณาจากคนในบริษัทระดับรองผู้จัดการใหญ่ลงมา จึงไม่ได้กำหนดคุณสมบัติด้านอายุไว้ สุดท้ายเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่านายวิเชียรมีความรู้ความสามารถ สานต่องานที่ทำไว้ และพัฒนาบางจากให้เติบโตยิ่งขึ้น
นายวิเชียร อุษณาโชติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ Ohio State University, USA เข้าทำงานที่บริษัท บางจากฯ ตั้งแต่ปี 2528 เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายผลิตการตลาด สายธุรกิจการตลาด สายวางแผนและจัดหา จนถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น ปัจจุบันมีอายุ 57 ปี
วานนี้ (31 ต.ค.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ลงนามโครงการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในนิคมฯเอเชียกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและยั่งยืนของอุตสาหกรรม ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยการลงนามครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในนิคมฯเอเชีย เพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามนโยบายGreen Roadmapซึ่งจะไม่เป็นเพียงแค่พื้นที่อุตสาหกรรม แต่จะพัฒนาเป็นสวนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ(PTT ECO-TP) ครบถ้วนตามข้อกำหนดตามมาตรฐานเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 5 มิติ 22 ด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนและสังคม
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พื้นที่นิคมฯเอเชียมีทั้งสิ้น 1.4 พันไร่ จ.ระยอง ได้จัดแบ่งเป็นโซนพื้นที่อุตสาหกรรมไบโอพลาสติกและอุตสาหกรรมสีเขียว มีเนื้อที่ 400 กว่าไร่ และพื้นที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นๆ
ขณะเดียวกันก็กันพื้นที่สร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อเป็นแนวกันชนด้วยการปลูกป่านิเวศประมาณ 200 ไร่ด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีแผนจะลงทุนตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PBS ขนาดกำลังผลิต 2 หมื่นตัน/ปี ใช้เงินลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2555 แล้วเสร็จผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2558 โดยโครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างปตท.กับมิตซูบิชิ เคมิคอลคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558
นอกจากนี้ มีโครงการผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PLA ขนาด 1.4 แสนตัน/ปี ซึ่งโครงการนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับ NatureWorks ประเทศสหรัฐฯเข้ามาตั้งโรงงานผลิตPLA แห่งที่ 2 ในไทย เงินลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ซึ่งปัจจุบันความต้องการใช้PLAในตลาดโลกเติบโตขึ้นปีละ 20-30% ทำให้กำลังการผลิตโรงแรกที่สหรัฐฯคาดว่าจะเต็มกำลังการผลิตได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าซึ่งการเร่งสรุปการตั้งโรงงานแห่งที่ 2 นี้จะทำให้มีกำลังการผลิตใหม่รองรับความต้องการใช้ในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นได้ทันท่วงทีรวมทั้ง ปตท.อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งโรงงานผลิตวัตถุดิบ คือ Lactic Acid ใช้ในการผลิตPLA หรือจะซื้อจากผู้ประกอบการอื่นที่มีโรงงานตั้งอยู่ในไทยอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ในนิคมฯจะตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาไบไอเคมิคอล เซนเตอร์ (R&D LAB) ซึ่งจะเปิดให้บริการเช่าในการทำแล็บวิจัยและพัฒนาด้านไบโอพลาสติกกับลูกค้าโดยมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนให้กับลูกค้าด้วย
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าขณะนี้โลกให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแนวทางการพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมให้เป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป็นวิสัยทัศน์ของกนอ.ที่ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับนิคมฯเข้าสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศมาตั้งแต่ปี 2553 โดยกำหนดว่าในอีก 5 ปีแรก(2553-2556) จะต้องมีนิคมฯเชิงนิเวศ 15แห่งและในปี2562 นิคมฯทั้งหมดในไทยจะต้องเป็นนิคมฯเชิงนิเวศ ซึ่งปัจจุบันมีนิคมฯที่อยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อเป็นนิคมฯเชิงนิเวศแล้ว 11 นิคม
***ตั้ง"วิเชียร"เหมาะสม-ไม่เกี่ยงอายุ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติแต่งตั้งที่ประชุมนายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แทนนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งตามสัญญาจ้างในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
ทางคณะกรรมการสรรหาฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่านายวิเชียร ซึ่งเป็นผู้บริหารบางจากฯที่มีความเหมาะสมที่สุด แม้ว่าอายุนายวิเชียรจะเกิน 60 ปีหากอยู่ครบวาระ 4 ปีก็ตาม เนื่องจากกฎระเบียบของบางจากไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของบอร์ดฯจะพิจารณาทำสัญญาว่าจ้างให้นายวิเชียร์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ครบวาระ 4 ปี หรือจะอยู่ในตำแหน่งนี้จนถึง
60 ปีเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้ บางจากฯได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยกำหนดคุณสมบัติต้องมีอายุ 45-55 ปี ซึ่งมีผู้สมัคร 3 รายเป็นเป็นคนในบางจากเอง 2 รายและคนภายนอก 1 รายแต่เมื่อพิจารณาแล้วไม่เหมาะสม จึงพิจารณาจากคนในบริษัทระดับรองผู้จัดการใหญ่ลงมา จึงไม่ได้กำหนดคุณสมบัติด้านอายุไว้ สุดท้ายเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่านายวิเชียรมีความรู้ความสามารถ สานต่องานที่ทำไว้ และพัฒนาบางจากให้เติบโตยิ่งขึ้น
นายวิเชียร อุษณาโชติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ Ohio State University, USA เข้าทำงานที่บริษัท บางจากฯ ตั้งแต่ปี 2528 เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายผลิตการตลาด สายธุรกิจการตลาด สายวางแผนและจัดหา จนถึงปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น ปัจจุบันมีอายุ 57 ปี