จากสนามม้า สู่ลานพระรูปทรงม้า!

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

“เสธ.อ้าย” ประกาศลั่นกลองรบ เปิดศึกหวังแตกหักกับรัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน กำหนดการชุมนุมใหญ่วันที่ 24 หรือ 25 เดือนนี้ เป็นการวัดดวงและประเมินกระแสของประชาชนว่ารู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอย่างไรหรือไม่ขณะที่นักการเมืองขี้ฉ้อกังฉินกำลังเร่งโกงกินทั้งโคตรอย่างสะบั้นหั่นแหลกสะสมทรัพย์สินเผื่อไว้สำหรับการลี้ภัยต่างประเทศ

จากการตั้งเป้าไว้ 1 ล้านคน คราวนี้ “เสธ.อ้าย” บอกว่าได้เท่าไหร่ เอาเท่านั้น ถ้าไม่มากพอก็จะเป็นการชุมนุมครั้งสุดท้าย “ถ้ามึงอยู่ กูก็ไป” พิสูจน์ว่าคนไทยยอมแพ้เครือข่ายนักการเมือง ข้าราชการชั่วร้ายเลวทรามจนขาดจิตสำนึกถึงความรักชาติ

ถ้าการประชุมเครือข่ายองค์กรต่างๆ วันที่ 10 เดือนนี้จุดกระแสต่อต้านขับไล่รัฐบาลไม่ได้ตามที่หวัง ย่อมทำให้ฝ่ายอื่นๆ ท้อแท้เช่นกัน! ครั้งแรกมีคนไปร่วมในสนามม้ากว่า 3 หมื่นคน นับว่าไม่เลวนักสำหรับนักปลุกระดมมือใหม่ ซุ่มบ่มตัวในสนามม้า

เมื่อนัดชุมนุมรอบใหม่ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เท่ากับว่า “เสธ.อ้าย” เปิดเงื่อนไขใหม่ และมีพื้นที่สำหรับให้คนมาร่วมโดยไม่จำกัด ถ้าเต็มลานพระรูปฯ ขยายต่อเนื่องถึงถนนราชดำเนิน ลามไปถนนพิษณุโลกได้แล้ว โอกาสชนะย่อมมีพอสมควร

ไม่ต้องถึง 1 ล้านคนหรอก ขอให้ได้ 1 แสนกว่าคน รัฐบาลแม่นางโพยและเครือข่ายบักเหลี่ยมร้ายก็นั่งไม่ติด เหงื่อแตก รีบเก็บทรัพย์สินเงินทองเตรียมหนีแน่ๆ! เริ่มต้นได้ 1 แสนคน ประกาศชุมนุมยืดเยื้อ ย่อมดึงคนให้เข้าร่วมมากขึ้นต่อเนื่อง

ข้อสำคัญ ต้องกำหนดแผนให้ดี รอบคอบ รวมทั้งยุทธศาสตร์ โลจิสติกส์ เสบียงอาหาร น้ำดื่ม และบริการส้วมสาธารณะ! กินได้ ถ้าไม่มีที่ขับถ่าย การชุมนุมก็ไปไม่รอด เพราะการประท้วงด้วยการอดอาหารทำได้หลายวัน ถ้าไม่ขับถ่าย 2-3 วันก็ชักตาตั้งแล้ว

เอาเหอะน่า! เป็นถึงระดับเสธ. ทหาร นายพลเอกผ่านศึกสงคราม ความล้มเหลวยุคกบฎ 26 มีนาคม 2520 มาก่อน เห็นการชุมนุมหลายยุค “เสธ.อ้าย” ย่อมรู้ดีว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร ใช้กลยุทธแบบไหนในการเอาชนะศึกซึ่งฝ่ายตัวเองเป็นฝ่ายรุก! แถมยังมีนายทหารนายอื่นๆ ทั้งในและนอกราชการเข้าช่วยวางแผนทั้งเร้นลับ เปิดเผย

เมื่อเรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมสู้ศึกแตกหักชิงเมืองจากเครือข่ายบักเหลี่ยมร้าย ก็อย่าให้ประชาชนผิดหวัง ถึงอย่างไร ก็ต้องสู้ต่อไป อย่าให้เป็นศึกครั้งสุดท้าย! จุดติดแล้วอย่าให้มอดดับง่ายๆ อย่างน้อยต้องมีเชื้อไฟให้ชาวบ้านเห็นว่าโอกาสชนะยังมี

ไม่ต้องห่วงว่าจะมีมวลชนเสื้อแดง นักจัดม็อบสู้แล้วรวย ออกมาเผชิญหน้ากลางเมืองตามคำขู่ของพวกขี้คุกเดนตะราง! แกนนำแดงรุ่นนี้รวยพอ คุ้นกับความสบาย ไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยง รู้ดีว่าถ้าพลาดท่า มี 3 ทางเลือก คืออยู่วัด คุก หรือหนีไปอยู่เขมร

โอกาสเป็นไปได้มากที่สุดคือ อย่างแรก! การขนเอามวลชนออกมาเป็นความโง่เขลาเบาปัญญา ถ้าเกิดการเผชิญหน้า ปะทะกันด้วยกำลังอาวุธ เท่ากับเปิดทางให้กองทัพโดยนายทหารรักชาติออกมาปกป้องบ้านเมืองก่อนเป็นสงครามกลางเมือง

ยิ่งถ้าเป็นแบบนั้น 3 ทางเลือกจะเหลือเพียงอย่างเดียว – ต้องหนีตายให้ทัน! อย่าคิดว่าแกนนำเสื้อแดงรวยแล้วจะอยู่สู้จนตัวตาย ไว้ลายนักรบ! ไม่มีใครรักบักเหลี่ยมจริงถึงกับต้องสละชีวิตให้หรอก ทุกคนจ้องเอาตัวรอดไปใช้เงินกับลูก เมีย ผัว ทั้งนั้น

มีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยตัวจริง หวังสู้แล้วรวยบ้าง? แม้แต่คนซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นนักสู้เพื่อมวลชน ผลสุดท้ายขอชีวิตสุขสบายไม่ต่างจากเศรษฐีระดับกลาง! แกนนำมวลชนเสื้อแดงคือหลักฐาน ข้อพิสูจน์ว่าขณะนี้บางคนรวยไม่เงียบมากนัก มีระดับพันๆ ล้านบาท บ้านหลายหลัง โฉนดเป็นปึกๆ หลังจากดูดเงินบริจาคได้เป็นอำมาตย์ไม่นาน

เดี๋ยวนี้ใช้ชีวิตแบบเศรษฐีใหม่ จะให้ไปยืนตากแดด โก่งคอพูดข้ามวันข้ามคืน หลอกพวกเสื้อแดงให้ออกมากินข้าวกล่อง คงไม่มีน้ำอดน้ำทนเหมือนแต่ก่อน เมื่อรู้สึกว่าเดิมพันชีวิตของตัวเอง การมีส่วนได้เสียมากขึ้น! ไม่อยากตาย ติดคุก เมื่อมีเงินร่ำรวย

การชุมนุมที่ผ่านมา เป็นการหลอกแด๊กส์บักเหลี่ยมเร่ร่อน จนตกกระไดพลอยโจนเมื่อสถานการณ์ลุกลามใหญ่โต ทำให้นักจุดม็อบเรียกเงินหลอกตัวเองว่าเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เส้นทางชีวิตไม่ต่างจากนักต้มตุ๋น 18 มงกุฏ

ดังนั้น เมื่อ “เสธ.อ้าย” และเครือข่ายองค์กรต่างๆ กล้านำ ย่อมมีคนกล้าตาม! การปลุกเร้าอารมณ์คนให้เข้าชุมนุมมากถึง 1 แสนคนไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อมีองค์ประกอบเอื้ออำนวย ยิ่งถ้ามีนักการเมืองระดมคนเข้าร่วมด้วย ตัวเลขคนหลายหมื่นเป็นไปได้แน่

ข้อสำคัญ แกนนำจากองค์กรต่างๆ อย่าแก่งแย่ง ฟัดกันเองจนระส่ำระสาย! ต้องมีแผนรองรับว่าถ้ามีคนเป็นแสนๆ จะทำอย่างไรไม่ให้รวนเร ยืนระยะจนกว่าจะชนะ และคาดการณ์ได้ว่าจะต้องถูกก่อกวนโดยกองกำลังเถื่อนแบบที่พันธมิตรเคยโดนมาก่อน

“เสธ.อ้าย” และพรรคพวกจะตอบโต้ รับมืออย่างไร ถ้าเกิดความรุนแรง? อย่าหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจ ประวัติศาสตร์การชุมนุมโดยมวลชนไม่เคยปรากฎว่ามีตำรวจจำนวนมากเข้าเป็นแนวร่วม มีแต่เป็นตัวเร่งจุดชนวนวิกฤติเลือดตกยางออก

สถานการณ์สุกงอมจนเน่าเละแน่ๆ ถ้าปล่อยให้กลุ่มกังฉินโกงทั้งโคตรอยู่กินเมืองโดยไร้แรงต้าน ประเทศไทยมีหวังโดนลากพาให้ไปสู่การล้มละลาย ขายทรัพย์สินใช้หนี้ต่างชาติ เปิดช่องให้เครือข่ายบักเหลี่ยมร้ายใช้ตัวแทน นอมินีเข้ายึดครองแผ่นดิน

แต่ละวันผ่านไป มีแต่ข่าวร้ายๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมชั่วขายชาติโดยนักการเมืองโกงทั้งโคตร 2-3 ตระกูลผูกขาดการทุจริตเด็ดขาด! ดังนั้น “เสธ.อ้าย” ต้องประกาศศึกแตกหัก ส่งเสียงดังๆ ให้รู้ซึ้งถึงในหัวใจคนไทยว่า “แผ่นดินนี้เพื่อคนดี” เท่านั้น!