โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
บ้านนี้ เมืองนี้มักมีเรื่องของคนชั่วร้ายแสดงพฤติกรรมอัปรีย์จัญไรซ้ำเติม ทุกข์เข็ญให้ชาวบ้านนอกเหนือจากการที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อให้อยู่รอดจากผลพวงของการเมืองสกปรก เหล่าทุรชนกังฉินมุ่งโกงกินทรัพย์สินแผ่นดิน
หลังจากตัวตลกซกมกใช้ปากเปิดประตูคุกเข้าไปเสริมเติมประสบการณ์ชีวิตของการเป็นขี้คุกเดนตะราง ชาวบ้านนึกว่าจะไม่มีเรื่องตลกร้ายมาสร้างสภาวะหัวร่อมิออก ร่ำไห้มิได้! ที่ไหนได้ “เสี่ยโต้ง” ออกลีลาโกหกสีขาวแบบโต้งๆ บอกว่าตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นการยกเมฆเอาใจนักลงทุน
จากนั้นเสี่ยโต้งยังโกหกสีขาวต่อเนื่อง อ้างว่าการกุตัวเลขนั้นเป็นการทำเพื่อชาติ แม่นางโพยปูโพรกเน่าในขานรับด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว อ้างว่านั่นเป็นเพราะเสี่ยโต้งมีความปรารถนาดี คงเหมือนงานแหลเชิงด้านกลางสายฝนเรื่องการกระชากตัวเลขค่าครองชีพช่วยเหลือชาวบ้าน! ยกเลิกกองทุนน้ำมัน
การกระชากค่าครองชีพให้ลง มันไม่ง่ายเหมือนการกระชากกระโปรงให้หลุดในโรงแรมหรอกเน้อ อี่นาย! เอาเป็นว่าเสี่ยโต้งมีตัวช่วย ตามประสาคนรู้ใจกัน มีประสบการณ์ชีวิตบางช่วงเวลาร่วมกัน ด้วยความสุขสันต์เพื่อชาติ! ฮ่า!
จากนั้น เสี่ยโต้งบินไปเจรจาการค้ากับประเทศจีนวันอาทิตย์ เถียงว่าไม่ได้ไปพบบักเหลี่ยมร้ายตามที่มีบางคนสงสัย แม่นางโพยวีนแตก อยากรู้ว่าข่าวรั่วได้ไง ทั้งๆ ที่ปิดเป็นความลับ! เสี่ยโต้งกลับมาวันจันทร์ก็ลาป่วยทันที
เป็นการโกหกสีขาวเรื่องเจรจาการค้า ทั้งการป่วยหรือไม่ อย่าสงสัย! ใช้แนวโน้มของพฤติกรรมเป็นตัวประเมินน่าจะแม่นยำกว่า เมื่อโกหกเรื่องอื่นๆ ได้ ย่อมโกหกต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นเพื่อสุขภาพจิต เสี่ยโต้งพูดอะไร ไม่ต้องฟัง!
ตลกร้ายของเสี่ยโต้งตามมาด้วยเรื่องตลกฝืดตามประสาพี่ๆ น้องๆ ของคนแต่งเครื่องแบบสีเทา และสีเขียวในกระทรวงกลาโหม มีหลายฉาก หลายบท ซดกันด้วยคำแถลง คำฟ้อง และพานดอกไม้ขอขมาตามประสาชายชาติทหาร ทำเอาชาวบ้านงง ไม่นึกว่าชายชาติทหารจะยอมกันง่ายๆ ไร้แรงฮึด สู้ไม่อึด
คราวนี้เป็นการลบล้างพิธีกรรม ความเชื่อ หลักการดั้งเดิมในยุคนายพลเอกเสื้อคับผู้วายชนม์ที่นิยมประเพณีกองทัพที่ว่า “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” เพราะการโยกย้ายในกระทรวงกลาโหม และเหตุต่อเนื่องนั้นเป็นการ “ฆ่าน้องที่ชอบฟ้องนาย และมีพวกเดียวกันยอมขายเพื่อนเอาตัวรอด”
เรื่องนี้ยังไม่จบ จะนำไปสู่การงัดข้อรอบใหม่ ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจัดการปรปักษ์เพื่อรักษาผลประโยชน์ ตำแหน่งของตัวเองหรือไม่ ถ้าว่างก็รอชมเถอะ! สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะเป็นการช่วงชิงอำนาจกันของกลุ่มก๊วนมีสี โดยมีบักเหลี่ยมร้ายบงการชักใยอยู่เบื้องหลัง
แม่นางโพยปูโพรกเน่าในยังเป็นตัวประกอบเจื้อยแจ้วไร้สาระตามเดิม!
จะเป็นศึกยืดเยื้อระหว่างสีหรือไม่ ชาวบ้านไม่ควรเสียเวลาเดา คนมีสียุคนี้ต่างจากยุคก่อนซึ่งนิยมตบเท้ารักษาศักดิ์ศรี ไม่ให้ใครมาหยาม! ยุคนี้ไม่ตบเท้า บางกลุ่มใช้ยุทธการตบทรัพย์จากงบประมาณ แลกกับการอยู่นิ่งเฉยด้วย
นอกจากทอดทิ้งประชาชน ศึกเหนือเสือไต้ กองทัพเขมรต่ำดำดินรุกเข้ามายึดแผ่นดินไทย ก็ยังเฉย แถมยังถอนทหารออกมาอำนวยความสะดวกเพื่อยุทธการขายชาติ มีบักเหลี่ยมร้ายเป็นตัวประสานผลประโยชน์อีกนั่นแหละ
บอกแล้วไง! แกนนำชนเผ่าเสื้อแดงแสดงเจตนารมณ์ “สู้แล้วรวย” ดูดเงินบักเหลี่ยมร้าย แต่แกนนำเสื้อเขียวยึดหลัก “ไม่สู้แล้วรวย” หลังจากเห็นตัวอย่างแบบไม่สวยของรุ่นพี่ ซึ่งมีทั้งรวยเงียบ และเป็นผีโม่แป้งให้บักเหลี่ยม
ตลกร้ายยังไม่จบ ชาวบ้านต้องมาอกสั่นขวัญแขวน เมื่อได้ยินคำประกาศมาดมั่นจากปากทั่นเสนาบดีปลอดฉลาด ว่าจะปล่อยน้ำเข้าเมืองหลวงทดสอบความพร้อมของผู้บริหาร กทม.ว่าจะ “เอาอยู่” มั้ย ถ้าน้ำท่วม
ได้ยินแล้วแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าจะมีคนคิดแผลงๆ เพี้ยน ชาวบ้านจึงพร้อมใจสวดชยันโตโคตรเหง้าเหล่ากอคนต้นคิดเรื่องทดสอบปล่อยน้ำเข้ากรุง ตะโกนถามดังๆ “แม่งกินข้าวอิ่ม หายใจทิ้งจนเบื่อแล้วไม่มีอะไรทำหรือไงฟะ”
ทุกวันนี้ยิ่งหวาดผวา ไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำท่วมซ้ำอีกรอบ หรือฝนแล้งกันแน่! อย่างน้อยที่สุด ชาวบ้านมั่นใจว่าความคิดแบบนี้ต้องมาจากทั่นเสนาบดีปลอดฉลาดเท่านั้น คนสติปัญญาปกติที่ไหนจะมีทัศนคติเชิงซาดิสต์เข้าขั้น
ถ้าแม่นางโพยปูโพรกเน่าใน เห็นดีเห็นงาม แม่ทรามเชยน่าจะถูกวิเคราะห์ปัญหาด้านจิตบกพร่องอีกรอบ! ชิชะ! กระเตงเสี่ยโต้งยังไม่พอ จะยังมาอ้อล้อกับทั่นเสนาบดีปลอดฉลาดมาดแมน นักพิฆาตลูกเสือ ลูกจระเข้อีก
ความคิดแบบทั่นเสนาบดีปลอดฉลาดไม่ธรรมดา เคยจวกผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำว่ารู้น้อยกว่าตัวทั่น! แบบว่าเป็นสุดยอดปลอดฉลาด ไม่มีใครเกิน ว่างั้นเถอะ! ยิ่งได้คุมงบประมาณก้อนใหญ่ ก็ยิ่งยกระดับความกร่างกร้าวห้าวห่าม
คนมองโลกในแง่ร้ายสงสัยว่านี่เป็นแผนหยาบๆ หวังเจาะยาง เตะตัดขาคุณชายผู้ว่า กทม. ซึ่งประกาศจะชิงเก้าอี้ในสมัยที่ 2! ถ้าทั่นเสนาบดีปลอดฉลาดปล่อยน้ำเข้ามา แล้วเกิดปัญหาในบางพื้นที่ เท่ากับเปิดจุดอ่อนให้เห็นว่า กทม. ไม่พร้อม ขาดประสิทธิภาพในการรับมือภัยพิบัติ ความเสี่ยงน้ำท่วม
ถ้าปีที่แล้วผู้ว่าฯ ไม่ใช่คุณชาย เมืองหลวงคงจมน้ำเน่าทุกตารางนิ้ว เนื่องจากความโง่แกมบัดซบของคนระดับรัฐมนตรีที่จุ้นจ้าน เสือกสั่งการเรื่องคุมน้ำในเขื่อน ส่งผลให้น้ำท่วมทั้งประเทศ ชาวบ้านตายหลายร้อยคน
สั่งให้ชาวบ้านขับรถไปให้น้ำท่วมจนถึงท้องเครื่องบินที่ดอนเมือง!!
ทุกวันนี้ยังจ่ายเงินชดเชยไม่ครบ ทั้งไม่กี่ร้อย ไม่กี่พันบาท! ไม่กระเหี้ยนกระหือรือเหมือนจ่ายให้พวกเดนนรกเผาบ้านเผาเมืองรายละ 7 ล้านกว่าบาท
ถ้าปล่อยน้ำแล้วผิดพลาด อย่าหวังว่าทั่นเสนาบดีปลอดฉลาดจะรับผิดชอบ ขนาดโดนไล่ออกจากราชการ เป็นตราประทับมัวหมอง ยังไม่รู้สึก!
ค่าโง่แกมบัดซบมีราคาแพง 3.5 แสนล้านบาท ที่ชาวบ้านต้องจ่าย แต่พวกนักการเมืองกังฉินรอตีกินจากโครงการต่างๆ เก็บเงินเผื่อลี้ภัยหนีตาย ถ้าประชาชนพร้อมใจกันลุกฮือขับไล่พวกอัปรีย์กาลีเมืองให้พ้นจากแผ่นดินไทย