สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
สองเรื่อง-สองมาตราฐาน-สองขั้วคนชั่วกับคนดี-สองปีที่อยุติธรรมทำร้ายความยุติธรรม!
พฤศจิกายน ปี 2555 เกิดละครตอแหล “ลักลอบฆ่า”ที่ “ท่าขี้เหล็ก” ประเทศพม่า เมษายน ปี 2553 ชีวิตจริงต้องล้มตายคาถนนดินสอเชื่อมถนนราชดำเนิน ประเทศไทย!
6 พฤศจิกายน 2555 สองเรื่องของคนชั่วและคนดี เป็นข่าวโคจรมาพบกันบนถนนสื่อมวลชนทุกแขนงโดยมิได้นัดหมาย
ประธานาธิปดีประเทศพม่า“เต็งเส่ง” ได้เดินทางมาพบปะเจรจากับนายกฯ”หุ่นเชิด” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2555
แต่คงเจรจาต้าอ่วยกับนายกฯ “ปูกลวง”ไม่รู้เรื่อง หรือเพราะนายกฯ”ปูกลวง”เป็นหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจในการให้หรือไม่ให้อะไรกับ “เต็งเส่ง”กระมัง
รุ่งขึ้นของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555 “เต็งเส่ง”เลยต้องพบกับ”หน้าเหลี่ยม”เจ้าของรัฐบาลหุ่นเชิด”ยิ่งลักษณ์”อีกครา การที่ “เต็งเส่ง”ต้องพบกับนายกฯตัวจริงเสียงจริงของประเทศไทย ที่เป็นชาวมอนเตเนโกร ที่เมืองหลวง “เนปิดอ”ของประเทศพม่าโดยตรง
นั่นเพราะรัฐบาลทุกชาติในโลกใบนี้รู้ว่า ผู้ที่มีอำนาจใหญ่ท่วมฟ้าคับแผ่นดินประเทศไทยในวันนี้ มิใช่คนเป็นนายกฯพริตตี้สมองกลวง “ยิ่งลักษณ์” หากแต่เป็นนักโทษชายหนีคุก“หน้าเหลี่ยม”ซึ่งมีอำนาจเต็ม ในการจะยกทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย ให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้ไงล่ะครับ
ดังนั้น หากชาติใดในโลกจะมากอบโกยผลประโยชน์ในประเทศไทย รัฐบาลทุกชาติจะต้องเจรจาตกลงเรื่องผลประโยชน์ ทั้งใต้โต๊ะ-บนโต๊ะกับ “หน้าเหลี่ยม”ให้ลงตัวเสียก่อน จึงค่อยให้นายกฯหุ่นเชิด “ยิ่งลักษณ์” นำไปดำเนินการต่อตามกฏหมายไทยไงล่ะครับ
หลังพบและเจรจากับ”เต็งเส่ง”เรียบร้อยแล้ว “หน้าเหลี่ยม”มีโปรแกรมจะเดินทางต่อมายัง “ท่าขี้เหล็ก” ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอ.แม่สาย จ.เชียงรายของไทย เพื่อพบปะกับบรรดาคนเสื้อแดง ข้าราชการบางคนใน “สมเด็จเจ้ามูลเมือง” อีกทั้งนักการเมืองชั่วๆทั้งหลาย ที่เป็น “ทาสน้ำเงิน”และ “ทาสยศถาบรรดาศักดิ์” ซึ่งรอให้“หน้าเหลี่ยม”หยิบยื่นปรนเปรอให้นั่นเอง
แต่แล้ว..โปรแกรมดังกล่าวก็มาผันแปรอย่างกระทันหัน เมื่อคนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยประกาศว่า จะยกขบวนไปถามทักษิณว่า ทำไมไม่ให้ “คางคกตู่”ขวัญใจคนเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ทักษิณประกาศชัดเจนต่อที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงไว้ว่า
“คางคกตู่”แห่งชาวเสื้อแดงตัวนี้ เหมาะสมที่สุดที่จะได้เป็นรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป เพราะ “คางคกตัวนี้”มีบุญคุณอย่างใหญ่หลวงต่อ“คนในตระกูลเหลี่ยม”
ทว่า..เมื่อจะมีการปรับ ครม. “ปู3” ดันมี“ขาใหญ่สีเขียว”ที่มาสวามิภักดิ์ต่อ “นายใหญ่” ได้ยื่นคำขาดไปยังรัฐบาล “ปูกลวง”มิให้ “คางคกขึ้นวอ” งานใหญ่ที่ต้องชนกับความไม่พอใจของคนเสื้อแดงแบบนี้ จึงมีแต่ “นายใหญ่”คนเดียวเท่านั้น ที่กล้า “ถีบ-คางคกตกวอ”ได้แบบซึ่งๆ หน้า
แม้น “คางคกตัวอ้วนผู้น่ารัก”จะไม่กล้าหือไม่กล้าอือ อีกทั้งยังจำต้องอมและกลืนเลือด กับการกระทำอันแสนเลือดเย็นของ “นายใหญ่” แต่ชาวเสื้อแดงที่ถือ “คางคกตู่เป็นของขลัง”หายอมไม่ พวกเขาเตรียมเดินทางไป “ท่าขี้เหล็ก” เพื่อถามไถ่”นายใหญ่”แบบตรงไปตรงมาว่า หักหลัง “คางคกผู้น่ารัก”ของพวกเราชาวเสื้อแดงทำไม..?
เรื่องนี้..ชาย“หน้าเหลี่ยม”ตอบคำถามคนเสื้อแดงด้วยเหตุผลไม่ได้ ทำให้ “นายใหญ่”เกิดโรคเบื่อสีแดงอย่างรุนแรง จนไม่อยากพบไม่อยากเห็นคนใส่เสื้อแดงขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ลูกชายยอดกตัญญู “โอ๊กอ๊าก”จึงต้องออกมา “เลี้ยงแกะ”ช่วยพ่อ ด้วยการตะโกนปาวๆว่า “เจ้าข้าเอ้ย..มีคนจะฆ่าพ่อโอ๊กอ๊ากที่ท่าขี้เหล็ก..”
ละครตอแหลลวงโลกเรื่อง“ไล่ล่าฆ่าเหลี่ยม ณ ท่าขี้เหล็ก” ที่อำนวยการสร้างโดย“เด็กชายเลี้ยงแกะโอ๊กอ๊าก” ทำให้ “หน้าเหลี่ยม”ใช้เป็นข้ออ้างในการยกเลิก การเยือน “ท่าขี้เหล็ก”ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2555 ทันที
6 พฤศจิกายน 2555 วันที่ “เด็กเลี้ยงแกะโอ๊กอ๊าก” สร้างละครตอแหลเรื่อง “ไล่ล่าฆ่าเหลี่ยม ณ ท่าขี้เหล็ก”นั่นแหละ ที่กองบัญชาการกองทัพบก นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ในเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.2553 พร้อมกับญาติทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 20 คน
ได้ไปยื่นหนังสือถึง ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เร่งติดตามคดีในเหตุการณ์เดือนเมษายน 2553 โดยนางนิชาระบุว่า
“พวกเราเกิดความไม่มั่นใจ ในการดำเนินการของหน่วยงานรัฐ เพราะทหารถูกเรียกไปสอบในส่วนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำ ซึ่งมีการส่งคดีเข้าสู่ศาลหลายคดีแล้ว แต่ในส่วนของทหารที่เป็นผู้ถูกกระทำ คดีกลับไม่คืบหน้า จึงขอให้ทบ.ช่วยเร่งรัดติดตามคดีความให้” โดยนางนิชาได้กล่าวต่อไปว่า
“ชีวิตสามีของเรา และของคนอื่นๆก็ตายไปแล้ว แต่เราอยากจะใช้กรณีนี้ รักษาชีวิตของทหารคนอื่น นั่นคือ เหตุผลที่ญาติของผู้เสียชีวิตจะต้องต่อสู้ในจุดนี้ เราไม่ได้ต่อสู้เพื่อสามีของเรา เพราะไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว แต่เพื่อเอากรณีสามีเรา หรือ คนอื่นๆในการรักษามาตรฐานต่อไป พวกเราห่วงคดีนี้ เพราะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงกลัวจะเกิดผลกระทบต่อคดีความนี้”
ส่วน นางกาญจนา เมืองอำพัน มารดาของ ส.ท.อนุพงษ์ เมืองอำพัน กล่าวว่า
“รู้สึกอึดอัดใจกับการนำเสนอข่าวของสื่อที่โจมตีว่า ฝ่ายทหารกระทำความผิดอยู่ฝ่ายเดียว ทุกวันนี้ช้ำใจ เราอยากจะมีที่พึ่งพิงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง และอยากให้ ทบ.ช่วยเหลือ-เร่งรัด และขอวอนสื่อให้ช่วยกันรักษาความเป็นธรรมนี้ด้วย”
“โอ๊กอ๊าก”ยังโชคดีมีโอกาสโกหกว่า พ่อกำลังถูกลอบฆ่า อีกทั้ง“โอ๊กอ๊าก”ยังมีโอกาสร้องขอความเห็นใจจากผู้คนว่า วันนี้ครอบครัว “โอ๊กอ๊าก”ไม่สมบูรณ์แบบ แถมยังมีโอกาสตอแหลได้อีกว่า พ่อจอมขี้โกงและจอมโหด ถูกยัดเยียดความผิดให้จนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
ทุกวันนี้ พ่อ “โอ๊กอ๊าก”ยังมีชีวิตอยู่อย่างครบอาการ 32 มีเงินทองมหาศาลที่โกงชาติมากมายไว้ให้ครอบครัว “โอ๊กอ๊าก”เสวยสุข แถม“โอ๊กอ๊าก”กับน้องๆผู้ร่ำรวยทรัพย์ศฤงคาร จะพบพ่อเมื่อไหร่-ที่ใดในโลกนี้..ก็ไปพบได้ในทันที
แต่ พ.อ.ร่มเกล้า กับทหารหาญของชาติหลายคน ถูก “ชายชุดดำ”ที่พ่อ “โอ๊กอ๊าก”ปลุกระดม ให้ออกมาสู้เพื่อพ่อ “โอ๊กอ๊าก” ฆ่าตายอย่างทารุณด้วยอาวุธสงครามคาถนน
แถมทหารหาญที่ยอมพลีชีวิตจนนำสันติสุข กลับคืนมาสู่ชาติไทยได้อีกครั้ง ยังถูกรัฐบาล “อาปู”ของ “โอ๊กอ๊าก”ยัดข้อหา ให้กลายเป็น“ฆาตกรฆ่าคนเสื้อแดง”อีกด้วย
เรื่องชั่วกลับกลายเป็น-เรื่องดี เรื่องที่ดีกลับกลายเป็น-เรื่องชั่วเช่นนี้ เกิดได้ก็แต่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะวันนี้ประเทศไทยมีคนชั่วครองเมืองนั่นเอง..จริงไหม?
ละครตอแหลที่ “ท่าขี้เหล็ก”กับชีวิตจริง ที่เกิดขึ้นข้างๆอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น จึงแตกต่างกันชนิด..ฟ้ากับดิน!
เวทีละครชีวิตจริง..คนดีตายจากลูกเมียไปแล้ว แต่คนชั่วยังไม่ตายจากลูกเมีย ยังลอยหน้าลอยตาโกหกผู้คนผ่านสื่อมวลชนอยู่ทุกวี่วัน
ทั้งนี้เพราะความอยุติธรรมยังชนะความยุติธรรมเพียงแค่ชั่วคราวครับ!
ทุกครั้งที่ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ออกมาตามคดีสามีของเธอ รวมทั้งตามคดีของทหารอีกหลายคน ที่ถูกคนชั่วฆ่าตายอย่างทารุณ ผมได้แต่ร่วมร้องไห้ไปกับเธออยู่ในหัวใจว่า
หลับเถิดทหารกล้า..วันข้างหน้าความยุติธรรมจะคืนกลับสู่ชาติไทย หากวันนั้นมาถึง คนชั่วต้องได้รับกรรมที่ทำไว้ คนดีที่เป็นทหารกล้าจะได้รับเกียรติยศ สมศักดิ์ศรีคนดีของชาติไทย เสียงแซ่ซร้องจะดังก้องทั่วผืนแผ่นดินไทยอย่างแน่นอน
ผมเชื่อมั่นไม่เคยคลอนแคลนเสมอว่า..คนทำชั่วต้อง-ได้ชั่ว คนทำดีต้อง-ได้ดีครับ!