xs
xsm
sm
md
lg

ปั่นราคาให้พ่อ - หลอกล่อเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พานทองแท้ ชินวัตร
ตรงเป้า
ศรรามา


กำหนดเยือนพม่าของ “ทักษิณ ชินวัตร” วันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2555 เป็นปฏิบัติการปกติของทักษิณในการบินว่อนไปโน่นไปนี่ เหมือนเจ้าไม่มีศาล ถ้าเป็นประเทศใกล้ชิดแผ่นดินไทย อย่างเช่น ลาว กัมพูชา หรือท่าขี้เหล็ก คนเสื้อแดงนับหมื่นก็จะหลั่งไหลไปแสดงความจงรักภักดี เพราะการเดินทางง่ายและสะดวกไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

การที่ทักษิณเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ได้ในทุกวันนี้ เพราะผลงานของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกหนังสือเดินทางให้ ซึ่งในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยกเลิกหนังสือเดินทางของทักษิณ ทำให้ทักษิณต้องไปขอใช้สัญชาติมอนเตเนโกร ใช้หนังสือเดินทางของมอนเตเนโกร ทำให้สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรปไม่อนุญาตให้ทักษิณเข้าประเทศ

เมื่อกระทรวงการต่างประเทศไทย ออกหนังสือเดินทางใหม่ให้ทักษิณ ทุกประเทศเข้าใจว่าทักษิณต้องคดีการเมือง ไม่ใช่คดีอาญา รัฐบาลไทยจึงรับรองความประพฤติของทักษิณ ถ้าเป็นนักโทษหนีคุก กระทรวงการต่างประเทศ มิอาจออกหนังสือเดินทางให้ได้ ผลงานชิ้นนี้ทำให้นายสุรพงษ์ ได้รับการสมนาคุณถ่างขานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง ซ้ำยังได้ครองรองนายกฯอันดับ 2 ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กลับเป็นรองนายกฯ อันดับ 3

ทักษิณจึงคุยโวโอ้อวด ว่า สามารถเข้าประเทศไหนก็ได้ในโลก ยกเว้นประเทศไทย ก็ไม่เห็นมีใครห้ามไม่ให้ทักษิณเข้าไทย อยากเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเข้ามาแบบหลบๆ ซ่อนๆ เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เข้ามาแบบเปิดเผย ก็ต้องเข้าคุก เพราะเป็นนักโทษหนีคุก

ยังไม่ทันเข้าพม่า ก็กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามยาเสพติดของพม่า ไปตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งที่ท่าขี้เหล็ก อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ทักษิณจองไว้เป็นที่พักในบ้านไม่มียาเสพติด แต่มีจรวด อาร์พีจี 3 ลูก พร้อมเครื่องยิง จับชายชาวไทยใหญ่ เป็นผู้ต้องหา

ที่ว่าเป็นข่าวใหญ่ เพราะ นายพานทองแท้ ชินวัตร หยิบเรื่องนั้นมาขยายความในเฟซบุ๊ก ระบุชัดเป็นแผนลอบสังหารทักษิณ ซึ่งจะมาเยือนท่าขี้เหล็ก อ้างว่า เป็นข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ไทยซึ่งประสานงานกับพม่าแล้วขุดคุ้ยถึงความหลังที่ทักษิณถูกลอบสังหารมา 4 ครั้ง

หลายต่อหลายครั้งที่พานทองแท้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ผู้คนมากมายในแผ่นดิน ไม่เชื่อว่าเขาจะเขียนเอง ไม่เชื่อว่าเขาจะมีสติปัญญาและความรอบรู้ขนาดนั้น เอาแค่คดีลอบสังหารทักษิณที่สะพานข้ามสี่แยกบางพลัด ที่มีการพบวัตถุระเบิดจำนวนมากอยู่ในรถเก๋งจอดไว้บนถนนใต้สะพาน ถูกเชื่อมโยงว่าจะระเบิดรถทักษิณที่แล่นข้ามสะพานไม่มีใครเรียกว่า“คาร์บอมบ์” แต่ยกย่องให้เป็น “คาร์บ๊องส์”เพราะวัตถุระเบิดเหล่านั้น อานุภาพของมัน สามารถทำลายอาคารบ้านเรือนในละแวกนั้นวอดวายเป็นจุลพานทองแท้กลับเอาคำให้การของ“จ่ายักษ์” พยานในคดีนั้นมาเอ่ยอ้าง จ่ายักษ์เป็นใครใน กอ.รมน.รู้ดี แล้วคนอย่างพานทองแท้ รู้เรื่องนี้แค่ไหนเชียว

ช่วงที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี สังคมรู้จักพานทองแท้ ฐานะลูกนายกฯ ซึ่งมีอาการสะลึมสะลือง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา สิ่งที่ซ่อนอยู่ในกะโหลกซึ่งเรียกขานว่า “มันสมอง”แต่ในกะโหลกของนายพานทองแท้ มันเป็นแค่ “วุ้น” เวลาทักษิณจะเดินทางไปราชการที่ไหนในประเทศ มักจะพาพานทองแท้ไปด้วย เพื่อเขย่าวุ้นให้เป็นมันสมอง ถึงขนาดส่งไปเมืองนอก อ้างให้ไปเรียนภาษาอังกฤษ แต่สภาพของพานทองแท้ ขณะนั้น กลับเป็นผลดีแก่ทักษิณ ที่จะต้องเดินทางไปเชียงใหม่โดยสายการบินไทยกับลูกชาย วันนั้นพานทองแท้ดันตื่นสาย ไม่รู้เมื่อคืนไปมั่วอะไรมา สองพ่อลูกยังไม่ทันถึงดอนเมือง เครื่องบินลำนั้นเกิดระเบิดเสียก่อน เท่านั้นเองกลายเป็นเรื่องลอบสังหารทักษิณ แต่เจ้าของบริษัทผู้ผลิตสอบสวนสาเหตุแล้ว พบว่า พนักงานเปิดเครื่องปรับอากาศขณะเติมน้ำมัน ฮาลั่นทั่วประเทศ

กลับไปที่ท่าขี้เหล็ก ผู้ต้องหาชาวไทยใหญ่ให้การว่า จรวดอาร์พีจี นั้น มีคนมาฝากไว้นานแล้ว หน่วยราชการไทย โดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ออกมาระบุว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องลอบสังหารทักษิณ แต่พอรุ่งขึ้นอีกวัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เรียก พล.ท.ภราดร ไปพบที่ทำเนียบ แถมเลี้ยงข้าวกลางวันอีกมื้อ พล.ท.ภราดร ออกมาให้สัมภาษณ์หน้าตาเฉย ว่า เป็นขบวนการลอบสังหารทักษิณจริง เพราะข้อมูลใหม่ที่ได้มานั้นมันมี “ความสัมพันธ์” สอดคล้องต้องกันกับขบวนการค้าเสพติด

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พล.ท.ภราดร พูดชัดถ้อยชัดคำ ข้อมูลดังกล่าวนั้นได้มาจาก พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 5 ซึ่งคุมภาคเหนือตอนบน ประชาชนจึงถึงบางอ้อ คุณภาพของสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีแค่นี้เอง ก็แล้ว พล.ต.ท.สุเทพ เก่งกาจขนาดไหนถึงรู้ว่า จรวด 3 ลูกนั้น เตรียมไว้สังหารทักษิณ

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเห็นว่า ไม่น่าจะเชื่อมโยงกับการลอบสังหาร และเตือนสื่ออย่าหลงไปประโคมข่าว ส่วนเรื่องข้อมูลอะไรนั่นให้ไปถามเจ้าของเฟซบุ๊กเอง โดย พล.อ.อ.สุกำพล เรียกพานทองแท้ ว่า“หนูน้อย” ซึ่งตรงข้ามกับ พล.ท.ภราดร เรียกพานทองแท้ ว่า“ท่าน”ทุกคำ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เสียงแข็งแต่ตอนแรก มาถึงตอนนี้แม้เสียงจะอ่อนยวบยาบ แต่ปากยังแข็งเช่นเดิม บ่ายเบี่ยงไปเรื่องการข่าวของทหารกับตำรวจไม่เหมือนกัน ตอนนี้สั่ง พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา เข้าท่าขี้เหล็ก หาข้อมูลเพิ่มเติม สั่ง พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา สิงห์ตาปรือเลขาฯ คู่ใจ ไปสืบสวนข้อเท็จจริงไปยุ่มย่ามอะไรในบ้านเมืองของเขา

ร.ต.อ.เฉลิม พูดง่ายเหมือนเด็กเล่นขายของเหมือนเล่นกลแล้วถูกคนดูจับได้ไล่ทัน นี่คือ คำพูดของเขา “ถ้าพบว่าไม่ใช่เรื่องลอบสังหารทักษิณก็จบ” ก็แค่นั้นเองสำหรับรองนายกรัฐมนตรีประเทศไทย

ทักษิณรู้ดีอะไรจะเกิดขึ้นที่ท่าขี้เหล็ก ไม่ใช่เรื่องลอบสังหาร แต่เป็นการส่งสัญญาณจากทางการพม่าเลยยกเลิกการเยือนท่าขี้เหล็ก แต่ยังคงเข้าพบ นายพลเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า แล้วบินกลับฮ่องกงทันที

ที่น่าสนใจ คือ ข้อวิเคราะห์ของ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า เป็นละครตบตาคนเสื้อแดง ยกเรื่องลอบสังหารมาบังหน้า เพราะทีมงานของทักษิณไม่มั่นใจในความปลอดภัย

เนื่องจากคนเสื้อแดงนับหมื่นที่แห่กันไปต้อนรับหากมีใครจุดประเด็น......ทำไม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ทั้งๆ ทักษิณเคยรับปากไว้ความวุ่นวายจะเกิดขึ้นทันทีรัฐบาลพม่าไม่ยอมให้มีเหตุการณ์อย่างนี้แน่นอน
นิทานอีสปเรื่องเด็กเลี้ยงแกะที่พานทองแท้โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กออดอ้อนให้คนเสื้อแดงไปวิงวอนพ่อไม่ให้มาท่าขี้เหล็กนั้น นอกจากปั่นราคาให้พ่อแล้ว ยังเป็นการยืมมือแกนนำเสื้อแดงสร้างละครตบตา และตบหน้าคนเสื้อแดงอย่างเจ็บแสบ
กำลังโหลดความคิดเห็น