ซินเดอเรลล่า! ทรงโต “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” คิดแค่คืนเดียว รวดเร็วปานจรวด ตัดสินใจหมั้นสะท้านเมืองกับอดีตเจ้าสัวมือถือหมื่นล้านอย่าง “บุญชัย เบญจรงคกุล” ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ที่หอศิลป์ของฝ่ายชายย่านวิภาวดี หนุ่มโรแมนติก เจอกับสาวพูดตรงยอดกตัญญู ผู้ที่ตามหารักแท้มาหลายครั้งกับคนในและนอกวงการ เช่นเดียวกับฝ่ายชายที่ผ่านการแต่งงานถึง 5 ครั้งด้วยวัย 58 ปี ทั้งชีวิตไขว่คว้าโหยหาคู่ชีวิตที่ “ใช่” จนกระทั่งเขาและเธอได้มาพบและคบกันด้วยระยะเวลาเพียงเดือนเศษ เวลาอาจไม่ใช่ประเด็น เมื่อเส้นทางรักของทั้งคู่ต่างมาราธอนไม่แพ้กัน รอยแผลแห่งรักของเจ้าสัวและนางเอก จึงไม่ต้องใช้เหตุผลอธิบาย ใช้ศิลปะและธรรมะทำปฏิกิริยาทางเคมีเข้ากันก็พอ
“ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ตัดสินใจเพียงข้ามคืนด้วยตัวเอง นี่เป็นคำเปิดเผยแบบสั้นๆกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ถึงการตัดสินใจลงเอยกับเจ้าสัวหมื่นล้าน อย่าง “บุญชัย เบญจรงคกุล” ที่รู้จักและเจอกันเพียงเดือนเศษ ตำนานรักสุดฮือฮาประหนึ่งสายฟ้าแลบ เมื่อ "ตั๊ก" นักแสดงสาว ฉายา “อึ๋มผ่าซาก” ในวงการบันเทิง ขึ้นภาพในอินสตาแกรม ว่าเธอและเจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตเจ้าของค่ายมือถืออย่างดีแทค งานหมั้นสายฟ้าแลบนี้เกิดขึ้นอย่างฉับไวเพราะเจ้าสัวผู้สูงวัยเป็นใจร้อน ถูกใจคบกันมา1 เดือนก็ขอเป็นแฟน เป็นแฟนอยู่ได้ไม่กี่วันก็คืบคลานว่องไวราวดุจกามนิตหนุ่มเข้าไปขอดาราสาวกับ “แม่เล็ก” ทันที ฝ่าย“เล็ก ธนาภา ชีพนุรักษ์” ไฟเขียว ตั๊กจึงตัดสินใจหมั้นและดูใจกันไปด้วย
ความรักของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นเมื่้อ ตั๊ก ได้รับเชิญให้ไปเป็นแบบในการวาดภาพที่หอศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA) ของฝ่ายชาย และได้มีการพูดคุยกันปกติตามประสาแขกที่มาร่วมงาน จากนั้นได้ติดต่อกันมาเรื่อยๆ ทั้งคู่มีจริตในเรื่องที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น ธรรมะ การนั่งสมาธิ งานศิลปะ
ปฐมบทแห่งรักนี้ … นอกจากเจ้าสัวจะเข้าตามตรอก ออกทางประตูแล้ว ระหว่างการคบหาไปมาหาสู่กันนั้น เธอยังเป็นแบบให้กับภาพเขียนสีน้ำมันของบุญชัย ภาพนั้น “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ใส่ชุดบิกินีสีแดง เอามือขวาวางไว้เหนือศีรษะ แล้วมีลายเซ็นของบุญชัยตรงล่างซ้ายของภาพ เมื่อหอศิลป์คือ จุดพบรัก ดังนั้นก็จะใช้หอศิลป์ MOCA แห่งนี้เป็นที่หมั้นหมาย
นอกจากภาพวาดดังกล่าวแล้ว เจ้าสัวบุญชัยยังสะสมภาพตั๊กตั้งแต่วัย 16 ปีที่รับบท “นางพิมพิลาไลย” ใน “ขุนแผน” และนำภาพนั้นมาเป็นแบบ รวมถึงภาพวาดอีกมากมายในอดีตที่ตั๊กไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ความเซอร์ไพรส์บวกกับโรแมนติกของฝ่ายชายทำให้เธอยอมรับว่า “รัก” ผู้ชายวัยต่างกันคนนี้เข้าให้แล้ว
ความโสดที่ไม่สดกับเสhนทางรักหนใหม่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เจ้าสัวบุญชัย ก้าวเข้ามาทักทายหัวใจรักของ “ตั๊ก บงกช” บุญชัยเข้าไปขอลูกสาวกับแม่ตั๊กอย่างเป็นทางการ เพราะ เขาหย่าขาดกับภรรยาคนล่าสุดอย่าง “แก้ว เบญจา บารมีย์” แล้ว คงเหลือแต่ธุรกิจที่ทำร่วมกันเท่านั้น
ฝั่งของนางเอกตั๊กมีแม่ที่คอยตอบคำถามสื่อให้ ส่วนฝั่งของเจ้าสัวบุญชัยมีเพียงเลขาฯส่วนตัวที่บอกเพียงว่าข่าวดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องจริงที่เจ้าสัวบุญชัย จะตอบคำถามเองในวันหมั้น และบรรดาลูกน้องคนสนิทของเจ้าสัวบุญชัย เชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้ “พี่ใหญ่” ชื่อที่ลูกน้อง รวมทั้งตั๊กเรียกเจ้าสัวบุญชัย นั้นคงตัดสินใจดีแล้วกับกรณีดังกล่าว อีกทั้งเชื่อว่าคนโสดวัย 58 และไม่มีพันธะใดๆในเวลานี้จะตัดสินใจหมั้นหมายกับสาวคนไหนก็คงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด แถมคนใกล้ชิดยังเปิดเผยอีกว่า ทั้งเจ้าสัวบุญชัย และตั๊ก นั้นเดินทางไปไหนมาไหน ร่วมบุญและมีกิจกรรมเดินสายธรรมะด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วอย่างเปิดเผย
สำหรับสินสอดนั้น แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยเพียงว่าเจ้าสัวบุญชัยไม่ได้ระบุ แค่เป็นการยืนยันว่า รักจริงด้วยแหวนและเกียรติยศของลูกผู้ชาย เท่านั้น! ซึ่งตรงกับคำพูดของแม่ตั๊กที่เคยบอกว่าสินสอดยังไม่ได้คุยกัน เพราะระดับเศรษฐีหมื่นล้าน คงต้องจัดการให้อย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน
ตั๊ก บงกช ให้สัมภาษณ์สั้นๆกับหนังสือพิมพ์ข่าวสด ต่อกรณีโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตอบรับหมั้นแบบฟ้าแลบครั้งนี้ สาเหตุมาจากฝ่ายชายเป็นถึงอภิมหาเศรษฐี ซึ่งกรณีดังกล่าว ดาราสาวปฏิเสธ
“ไม่ใช่เลย เพราะเราคุยกันแล้ว หลังจากที่เราคบกัน ต่างคนต่างทำมาหากิน ตั๊กมีงาน มีเงิน ไม่ต้องมาเลี้ยงตั๊ก”
การพบรักกับหนุ่มต่างวัยที่ห่างกัน 30 ปีครั้งนี้ จึงมากไปด้วยคำถาม? ที่ตั๊กและเจ้าสัวบุญชัย คงเตรียมตัวคำถามไว้แล้วอย่างแน่นอน แต่สำหรับตั๊กคงตอบตัวเองได้ไม่ยาก เพราะชีวิตรักที่ผ่านมา ไม่เคยมีมหาเศรษฐีที่ขอเป็นแฟนแบบตรงๆ แถมโจมตีเข้าขอเลยอีกต่างหาก ของแบบนี้จึงไม่ต้องคิดนาน...
อยากมีแฟนดีๆกับเขาซักคน
ตำแหน่งคุณนายที่ 6 ของ “ตั๊ก บงกช” จะครองใจเจ้าสัวหมื่นล้านได้ด้วยสายใยรักแบบฉับไว หรือไม่ คงต้องเป็นกำลังใจให้กับความรักต่างวัย ต่างอาชีพ แต่โคจรมาพบกันและถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ไม่แน่ความรักครั้งนี้อาจทำให้ตั๊ก ได้ทำตามฝันของเธอนั่นคือการหาทุนสร้างหนังเรื่องต่อไปของเธอ ที่ไม่ต้องหาสปอนเซอร์ที่ไหนไกล เพราะคือคนรู้ใจของเธอนี่เอง
ที่ผ่านมา ตั๊กเคยคบหาทั้งหนุ่มไทยอย่างเดย์ ไทเทเนี่ยม ,จอห์นนี่ อันวา,ดาจิม แร็ปไทย,โจอี้ บอย ที่ว่ากันว่าทิสท์และตรงใจเธอแทบทุกประการแต่ก็ไปกันไม่รอด แม่ไม่ปลื้มบ้าง ไปกันไม่ได้บ้าง รักก็จางและจบลงในที่สุด หรือรักต่างวัยกับเสี่ยโต้ง กมล เอี้ยวศิวิกูล ก็จบรวดเร็วในเวลาอันสั้น รวมไปถึง เปิ้ล นาคร ศิลาชัย หรือ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษณ์ ก็ลงเอยด้วยเลิกราเช่นเดียวกัน จะเหลียวหันคบฝรั่งตาน้ำข้าวชาวฝรั่งเศส ก็พูดจากันไม่รู้เรื่องเลิกรากันไปเหมือนกัน หรือแม้แต่ “เจ มณฑล จิรา” ก็มีข่าวด้วยกันแต่ก็จบลงไม่สวยงามนัก
รวมถึงผู้ชายคนล่าสุด “จ๊อบ” ไตรรงค์ ชัยนรานนท์ ว่าที่นักแสดงในหนังของเธอ ที่ว่ากันว่า เป็นคู่กรณีความบาดหมางของเธอกับ ญาญ่า ญิ๋ง
เรียกว่านักร้อง ฮิปฮอป พิธีกรตลก ฝรั่ง ต่างวัย ก็ลงเอยด้วยเลิกทุกราย ครั้งนี้เป็นความรักอีกครั้งหนึ่งของเธอที่เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยมีแม่เป็นกองเชียร์ที่มั่นใจในการมองลูกเขยคนนี้ ว่าดี ติดดินและรักจริงราวกับลูกเขยในฝัน ไม่แปลกที่แม่เล็กจะดีใจกับการเข้าตามตรอก ออกตามประตูของว่าที่ลูกเขยเจ้าสัวเพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีแฟนตั๊กคนไหนที่ทำแบบนี้มาก่อน แม่เล็กจึงประทับใจในความแมนๆจุดนี้ของเจ้าสัวบุญชัยไม่น้อย
หลังจากทั้งคู่ตัดสินใจหมั้นหมายกันแล้วนั้น แน่นอนว่าพิธีแต่งงานจะเกิดขึ้นทันทีหลังเรือนหอเสร็จ ซึ่งคาดหมายว่าปีหน้า ตั๊กเอ่ยว่าเจ้าสัวบุญชัยอยากได้ทายาททันทีหลังแต่งซัก2-3 คน นั่นแปลว่า หลังจากนี้อีกไม่นาน เราจะได้เห็นตั๊กในบทบาทแม่อีกด้วย
ความรักของสาวตั๊กทุ่มเทมาตลอด แต่ยังไม่ใช่รักแท้ กับเจ้าสัวนักรักที่ผ่านการใช้ชีวิตคู่กับภรรยามาถึง 5 คนจึงไม่น่าแปลกที่เจ้าสัวบุญชัยจะตัดสินใจเลือก “ตั๊ก” สตรีผู้ที่ไม่เคยมีข่าวนอกใจแฟน “ซื่อสัตย์” และ “มั่นคง” ต่อชายที่เธอรัก และนี่อาจเป็นคำตอบที่เหตุใดเจ้าสัวหมื่นล้านจึงขอตัดสินใจขอตั๊กแต่งงานและอยากมีทายาทร่วมกัน
รักลงล็อก! เจ้าสัวบุญชัย ชายผู้ตอบโจทย์ “ตั๊ก”
นอกจาก “บุญชัย เบญจรงคกุล” จะมีหัวใจที่รัก “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” สาวคนล่าสุดที่ประกาศหมั้นหมายกันไปแล้วนั้น สิ่งที่นอกจากหัวใจที่ตรงกันแล้ว ความมุ่งมั่นในหน้าที่การงานที่ผันมาเจอกัน อย่างเรื่องของการทำภาพยนตร์ ก็เข้ามาเกี่ยวข้องของคนทั้งคู่ ตั๊กผันตัวไปเป็นผู้กำกับและทำหนังซึ่งหาทุนด้วยตัวเอง และยังคงดำเนินการอยู่ และลงตัวที่ เจ้าสัวบุญชัย ก็กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการ เปิดธุรกิจใหม่ ภายใต้บริษัท บีบีพิคเจอร์ส โดยการผลิตหนังสำนึกรักบ้านเกิด เชิดชูวีรบุรุษอย่าง “ขุนรองปลัดชู” เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ด้วยทุน 40 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าธุรกิจนี้น่าจะเป็นไปได้สวย แต่ทว่าบริษัทนี้ได้ชื่อว่าเป็นของ “แก้ว เบญจา บารมีย์” แต่หากว่าที่ผู้กุมบังเหียนค่ายหนังนี้จะมีดารามากความสามารถอย่างตั๊กอีกซักบริษัทหนึ่งก็คงไม่แปลกหรือเหลือบ่ากว่าแรงเจ้าสัวบุญชัยอย่างแน่นอน
และนี่คงเป็นที่จับตามองอีกข้อหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทยหลังจากนี้ ว่าตั๊กแจ้งเกิดจาก “เสี่ยเจียง สมศักด์ เตชะรัตนประเสริฐ” แต่หลังจากนี้ ตั๊กจะเติบโตในสายการแสดง ผู้กำกับอีกหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป แม้ว่าเจ้าสัวบุญชัยจะเอ่ยว่าไม่อยากให้ว่าที่ภรรยาคนนี้ทำงานอีก แต่ตั๊กคงไม่ยอมลดฝันครั้งนี้อย่างง่ายๆ
ในระยะหลังมานี้ตั๊กอยากทำหนังและหาทุนด้วยตัวเอง และอยากใช้ประสบการณ์ในวงการพัฒนางาน การเขียนบท และอีกหลายประการเพื่อสร้างสรรค์ผลงานด้านกำกับ แต่เธอยอมรับว่าด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง จึงทำให้หนังเรื่องแรกของเธออย่าง “ปาย อินเลิฟ” ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่นี่คือความฝันของตั๊กนักแสดงหนังที่เธอบอกเสมอว่า การทำงานเบื้องหลัง และการเป็นผู้กำกับคือความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอในวงการนี้ พร้อมคำสบประมาทมากมาย
“ตั๊กมุ่งหน้ากับการใช้ชีวิตให้มีความสุข ตั๊กอยู่ในวงการมานาน ต้องเดินตามความฝันของคนอื่น ตอนนี้ก็อยากจะเดินตามความฝันของตัวเองจริงๆ แต่ก็ยังชอบความบันเทิง ถึงได้อยากสร้างความบันเทิงให้คนอื่นดูบ้าง อยากจะลองทำเอง อยากลองเปลี่ยนงานดู ว่าเราจะทำเบื้องหลังได้ไหม ก็สนุกดี ตั๊กอยากกำกับหนัง ตั๊กก็ได้กำกับหนัง แล้วก็อยากให้คนได้ดูหนังตั๊ก แค่นั้นแหละ ตั๊กไม่ได้ทำเพราะความสะใจ แต่ทำเพราะว่าอยากทำ และก็ทำได้ ถ้ามีงานให้ทำในด้านที่ชอบก็จะทำ แต่ถามว่าความฝันสูงสุดอยากทำหนังใหญ่ไหม อยากทำนะ แต่ความสามารถคงต้องใช้ทางด้านวิชาการมาช่วย เพราะว่าการเรียนรู้สำคัญที่สุด”
ตั๊กเคยมีข่าวสนิทสนมกับชายวัยใกล้เคียงกับเจ้าสัวบุญชัย ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน นั่นคือ “เสี่ยโต้ง กมล เอี้ยวศิวิกูล” ที่คบหาและเป็นนายทุนกันอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็เลิกราจากกันไปแบบไม่สวยนัก และรวดเร็วเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ปิดฉากตำนานรักรุ่นพ่อไป จากนั้นตั๊ก ต้องหาสปอนเซอร์รายใหม่ ต่อไปจนกระทั่งแม่มาล้มป่วยและได้พบกับเส้นทางสายใหม่ที่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงชีวิตได้หลายอย่าง หาเลี้ยงแม่ที่ป่วยหนักจนต้องเลิกทำน้ำพริกเพราะทำไม่ไหว ส่วนโปรเจกต์หนังยังคงฝังใจตั๊กมาตลอดอาจพบทางสว่างและมีหนทางพัฒนาและทักถอต่อฝันของเธอได้แน่เมื่อว่าที่สามีมีโครงการทำหนังรอเธออยู่ แต่ในปีนี้ ตั๊ก มาโด่งดังและทุ่มสุดตัวกับหนังเรื่อง “จันดารา ปฐมบท” ของหม่อมน้อย ม.ล.พันธ์เทวนพ เทวกุล” โป๊ แรง แซงหน้าดาราในเรื่อง และปีของเธออีกครั้ง และจะแปลกอะไรถ้าเจ้าของทุนทำหนังของเธอกับเจ้าของหัวใจคือคนคนเดียวกัน
เรียบง่ายสไตล์ “ตั๊ก”
ในช่วงเวลานี้ ตั๊กกำลังเตรียมชุดใส่ในวันหมั้นกับเจ้าสัว โดยชุดที่ใส่ก็เป็นดีไซเนอร์ที่ดาราสาวคุ้นเคยกันดี อย่าง “โจ้ เซอร์เฟซ” หรือ “โจ้ อธิษฐ์ ฐิรกิตสัฒน์” เพราะนอกจากจะคุ้นเคยกันแล้ว ยังรู้ขนาดกันดีอีกด้วย จากการร่วมงานในจันดาราและต้มยำกุ้งด้วยกันมาก่อน ซึ่งตั๊กจะเลือกชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 มาใช้ในพิธีหมั้น อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวการจัดเตรียมงานนั้น คนใกล้ชิดยืนยันว่าตั๊กต้องการความเรียบง่ายและไม่ได้ยึดติดแบรนด์เนมแต่ประการใด เพราะโดยชีวิตปัจจุบัน ก็ไม่ได้ใช้ของราคาแพง หน้าที่ในการเตรียมงานหมั้นนั้นมีเพียงเรื่องเสื้อผ้า และมีลุงอีก 2 คน รับหน้าที่ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงนั่นคือ อดีตท่านผู้ว่าฯสุพรรณบุรี “วิพัฒน์ คงมาลัย” และ “นักร้องชื่อดังที่มีศักดิ์เป็นลุงของตั๊ก อย่าง “แอ๊ด คาราบาว” ให้เกียรติมาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงด้วย แต่หน้าที่อื่นเจ้าสัวบุญชัยรับดูแลงานหมั้นเองทั้งหมด พร้อมเซอรไพรส์ที่ว่ากันว่าซินเดอเรลล่าอย่างตั๊กคงจะยิ้มไม่หุบเป็นแน่
ตา-ผม-นม-บั้นท้าย สเปกโดนใจเจ้าสัว
นอกจากความสวยใสแบบไทยและเป็นสาวในวงการแล้ว แน่นอนว่าสเปกอีกประการที่เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล โปรดปราน ดาราสาวตั๊ก คงหนีไม่พ้นดวงตาที่เป็นประกายดวงตาสดใสของสาวตั๊กที่เอาชนะใจเจ้าสัวนักรักที่ ออกตัวว่าคนชอบศิลปะย่อมชอบความสวยความงามเป็นเรื่องธรรมดา
นอกจากนี้เจ้าสัวบุญชัย ยังโปรดปรานสาวผมสวยดำขลับ ไม่ต้องปรับสี เรียกว่าดำเงางามธรรมชาติยิ่งชอบ ยิ่งดวงตาและสีผมดำขลับด้วยแล้วยิ่งบาดใจเจ้าสัว
แต่ข้อที่เด่นและโดนใจมากที่สุด คือ หน้าอกหน้าใจ ไซส์ตู้มๆ กับ บั้นท้ายดินระเบิด หน้าไทยๆ เรียกว่าเป็นของถูกใจของเจ้าสัวบุญชัยเลยทีเดียว สำหรับตั๊กนั้นนับว่ามีบุคลิกภาพหลายประการโดนใจเจ้าสัว เมื่อเทียบกับ2 สาว ในวงการบันเทิงอดีตภรรยาอย่าง “ปูดำ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์” และ “แก้ว เบญจา บารมีย์” ที่นอกจากผมสวยแล้วสรีระของทั้งคู่ยังงดงามอีกด้วย
“ปูดำ” โนคอมเมนต์ “ตั๊ก” หมั้น “บุญชัย” บอกเป็นคนอื่นมา 10 กว่าปีแล้ว
เรื่องราวของเจ้าสัวบุญชัย กับตั๊กนั้น อยู่ในกระแสสังคม เพราะต่างมีฐานทางสังคมและเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งคู่ แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าสัวบุญชัยจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องราวดังกล่าว อาจเพราะบรรดาลูกๆของเจ้าสัวต่างมีครอบครัวและมีอิสระในการใช้ชีวิตส่วนตัว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนในครอบครัว อีกทั้งไม่มีลูกคนใดในครอบครัวที่สนิทสนมหรือคุ้นเคยกับตั๊กมาก่อนแต่ในกรณีดังกล่าว นี้ 1 ในอดีตภรรยา อย่าง “ปูดำ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์” เปิดเผยว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเพราะเลิกรามานานแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันมา 10 กว่าปีแล้ว จึงไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆกับกรณีดังกล่าว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่ประการใด
เรื่องราวความรักเพียงแค่ข้ามเดือนของเจ้าสัวหมื่นล้านกับดาราหนังไทย จะลงเอยอย่างไร ต้องคอยดูว่าตำแหน่งคุณนายที่ 6 ของตั๊กจะสวยหรูดังเช่นซินเดอเรลล่าหรือไม่ และยังมีสิ่งเซอร์ไพรส์จากว่าที่สามีต่างวัยอีกมากมายที่เป็นที่จับตามองจากสังคมที่ไม่ควรกะพริบตาด้วยประการทั้งปวง...
ไม่อวดรวย สปอร์ต มีธรรมะ
ลูกเขย ของ “เล็ก ธนาภา”
กลายเป็นแม่ซินเดอเรลล่า "เล็ก ธนาภา ชีพนุรักษ์" แม่บังเกิดเกล้าของดาราสาวทำหน้าที่แทนลูกสาวในการตอบคำถามสื่อในวันที่เรื่องราวความรักของตั๊กและบุญชัย ได้ฤกษ์หมั้น ในวันที่ 19พ.ย. 2555 ซึ่งเรื่องราวความรักของเจ้าสัวบุญชัยและตั๊กนั้น จะได้รับการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันหมั้น ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (MOCA) อาคารเบญจจินดา ริมถนนวิภาวดี พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวันและตอบคำถามสื่อมวลชนทุกแขนงอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทันทีที่ตั๊กประกาศหมั้นในอินสตาแกรม โดยมีภาพคู่กับเจ้าสัวบุญชัยออกมา ผู้ที่คอยตอบคำถามให้ลูกสาวหนีไม่พ้น “เล็ก ธนาภา” แม่ตั๊กทั้งออกทีวี ให้สัมภาษณ์และฮอตอีกครั้งในกระแสสังคม แม่เล็กเปิดเผยกับ “เอเอสทีวีผู้จัดการสุดสัปดาห์” ว่า ท่ามกลางกระแสข่าวมากมายเช่นนี้ ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ทำแทนได้ แต่น้อมรับและญาติพี่น้องต่างร่วมยินดีกับการหมั้นของตั๊กในครั้งนี้ อีกทั้งการมีลูกเขยวัย 58 ปี ทำให้แม่ยายคนนี้รู้สึกฝากผีฝากไข้ได้ ราวกับลูกเขยในฝันที่รอคอย
บทสนทนาที่แสนคึกคักและน้ำเสียงที่ดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกของ “แม่เล็ก” ทำให้เดาได้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ แม่เปรียบเสมือนโฆษกและพีอาร์ส่วนตัวของลูกสาวไปโดยปริยาย และดูเหมือนลูกเขยมหาเศรษฐี อันดับที่ 13 ของนิตยสารฟอร์บส์ คนนี้ จะเอาชนะใจว่าที่แม่ยายได้อย่างดี
“ทุกคนก็มาร่วมยินดีด้วย ญาติ เพื่อนฝูง ต่างก็โทร.มายินดี" ธนาภาเอ่ยถึงแข่าวหมั้นของลูกสาวและเจ้าสัวบุญชัยเป็นการทักทาย และเล่าต่อว่า ในวันที่ เจ้าสัวเข้ามาขอลูกสาวนั้น มาเพียงลำพัง และตนเองก็นั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน และก่อนหน้านี้ ตนทราบเรื่องราวของเจ้าสัวบุญชัยผ่านตั๊ก ที่ใช้สรรพนามเรียกว่า “พี่ใหญ่” ซึ่งแม่ตั๊กยืนยันว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่มาที่ไปของผู้ชายคนนี้เป็นใคร จนกระทั่งมาทราบจากนักข่าวพร้อมๆกัน
“แม่นั่งดูทีวี เขาเข้ามาขอ ไม่รู้จักมาก่อน ตั๊กเขาเล่าให้ฟัง แต่ก็ไม่รู้ มาชวนไปทานข้าว ธรรมดามาก ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นอภิมหาเศรษฐีอะไรเลย ก็เพิ่งมารู้จากนักข่าวนี่แหละ ก็เลยฮอตเลยช่วงนี้”
แม่ตั๊กเล่าต่อว่าตั๊กและเจ้าสัวบุญชัย เจอกันที่พิพิธภัณฑ์และจะหมั้นหมายกันในที่ที่เจอกันในครั้งแรก ในวันที่ 19 พ.ย. นี้ หากแต่ความประทับใจเท่าที่ทราบนั้น แม่ตั๊กเล่าว่าว่าที่ลูกเขย บอกว่าชอบในความกตัญญูรู้คุณคนของตั๊กและการดูแลแม่อย่างดีในช่วงเวลาป่วย อีกทั้งระยะหลังยังอยู่ในสายธรรมะด้วยกัน จึงทำให้ทั้งคู่มีความสนิทสนมกัน
“เขาเจอกันที่วัดปฏิบัติธรรม วัดปากน้ำ เขามาสายนี้กัน คุยกันถูกคอ เท่าที่เขาเล่าเนี่ย เขาไม่ได้ชอบตรงที่ตั๊กตรงๆนะ แต่เขาก็ยอมรับว่าชอบที่ตั๊กเปลี่ยนไปมาก ดูแลแม่ ทำทุกอย่างเพื่อจะดูแลแม่อย่างดี เขาเห็นตรงนั้น แล้วมันตรงข้ามกับนิสัยในข่าวบางอย่างของตั๊ก เขาตามข่าวมาแล้ววันหนึ่งเขารู้จักกัน ก็รักและชอบในตรงนั้น”
เมื่อถามถึงว่าระยะเวลาในการคบหากันของตั๊กและเจ้าสัวบุญชัย เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ แม่ตั๊กเอ่ยว่าเพียง 1 เดือนเศษ แต่ทุกครั้งที่มีการออกไปไหนมาไหน ลูกสาวจะชวนตนไปด้วยเสมอ จนในระยะหลัง ป่วยจึงไม่สะดวกตามไป แต่จุดที่ประทับใจคือการดูแลเอาใจใส่ตนขอเจ้าสัวบุญชัย ที่วันไหนตั๊กติดถ่ายหนังหรือมีงาน เจ้าสัวคนนี้จะดูแลตนแทนลูกได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
“เขาก็พาไปหาหมอ บางทีตั๊กเขาไปถ่ายหนังอะไรแบบนี้ เขาก็จะโทร.มาคุณแม่เดี๋ยวผมพาคุณแม่ไปหาหมอเอง เราก็บอกว่าเดี๋ยวให้เด็กที่บ้านพาไป เขาก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวผมพาไปเอง เขาก็นั่งรถไปด้วยกัน นั่งรอหมอกับเรานะ ซึ่งเขาก็ดูแลเราดีมาก”
แต่ที่สุดประทับใจคือรวยจริง ไม่โอ้อวด
“สิ่งสำคัญเขาติดดิน นิสัยดีมาก ไม่ขี้คุย ไม่ขี้อวด ไม่ขี้โอ่ รวมกันหลายๆอย่าง ชอบตรงนี้ ฉันไม่รู้เลยนะ ว่าเขาเป็นใคร”
เดิมทีเดียวแม่ของสาวตั๊ก ขึ้นชื่อเรื่อง หวงลูกสาว แต่มาถึงลูกเขยที่อายุห่างจากลูกสาว 30 ปีอย่างนี้ กลับถูกใจและหาที่ติไม่เจอสำหรับแม่เล็กทีเดียว
“เรื่องส่วนตัวความเป็นส่วนตัวแม่ไม่ก้าวก่าย มีอะไรลูกมันต้องเล่าให้เราฟังอยู่แล้วใช่มั้ย เขาคุยกันถูกคอ เลยวัยที่จะมาจีบแบบวัยรุ่น เขาก็คุยกันในสายธรรมะมากกว่า เราเองเรามองว่า
โอเคมาก ถึงเขาจะอายุมากกว่าตั๊ก แต่เราไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ามีแฟนวัยรุ่น เราต้องกังวลว่าอนาคตข้างหน้าต้องเป็นอย่างไร”
แม่ตั๊กเอ่ยตอบ แต่เสียงลอดจากปลายสายคล้ายเสียงของตั๊กแว่วมาว่า “แม่ก็บอกไปเลยว่าหนูชอบมีแฟนแก่” จึงทำให้รู้ว่าเจ้าสาววัย 28 อย่างตั๊กที่ยังเก็บตัวเงียบ รอเปิดใจวันวันหมั้นทีเดียวนั้น พร้อมแล้วกับการตอบคำถามสื่อในวันนั้นในฐานะคู่หมั้นของเจ้าสัวบุญชัย
กระแสเมาท์ว่าสินสอดในครั้งนี้ กับตำแหน่งว่าที่ภรรยาเจ้าสัวหมื่นล้านนั้น แม่ตั๊กยืนยันว่าไม่มีการเรียกสินสอด เพียงเพราะได้ยินการชวนเข้าไปอยู่ในเรือนหอในเนื้อที่ 32 ไร่ ย่านรามอินทรา ซึ่งเมื่อบ้านเสร็จ พิธีฉลองมงคลสมรสจะเกิดขึ้นในทันที โดยมีบ้านอีกหลังไว้ต้อนรับว่าที่แม่ยายอย่างสมเกียรติ หรือแม้ว่าใครจะบอกว่าการแต่งงานครั้งนี้ของตั๊กและเจ้าสัวบุญชัยคือการตกถังข้าวสารใบโต แต่แม่ของตั๊กก็บอกว่าไม่สามารถห้ามความคิดใครได้
“เรื่องสินสอดไม่ได้เรียกค่ะ ไม่ เพราะไม่รู้จะเรียกทำไม เรื่องเรือนหอที่กำลังสร้างอยู่เขาก็บอกว่าผมจะรับคุณแม่ไปอยู่ด้วยนะ เราก็โอ้โห...ทุกอย่างมันใช่อย่างที่เราคิดไว้ และก็จะสร้างบ้านให้กับดิฉันหลังหนึ่งให้อยู่บริเวณเรือนหอเขาด้วยกัน”
"...เรื่องตกถังข้าวสารแม่ไม่กลัวเรื่องนั้น เพราะมันเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ถามว่าเขารวยไหม เขาก็รวยซิ ถามว่าฉันรวยไหม ฉันก็รวยนะ ฉันก็มีเงินของฉัน ฉันก็อยู่ในส่วนของฉัน ฉันก็อยู่ในถิ่นของเขา เขารวยเขาก็อยู่ในถิ่นเขา แต่ถามว่าเขารวยแล้วเขาดีมั้ย เขาเป็นคนดี เขาเป็นคนดีที่ฉันหาไม่ได้แต่เงินฉันหาได้ ความดีของเขาหาไม่ได้เพราะฉะนั้นก็อยากได้น่ะ อยากได้เขาเพราะเขาดีน่ะ มั่นใจว่าเขาจะดูแลตั๊กได้”
สำหรับเรื่องราวความรักของตั๊กและเจ้าสัวบุญชัย แม่ของตั๊กพูดเพียงว่าฝ่ายตั๊กและเจ้าสัวจะตอบคำถามสื่อพร้อมกันในวันหมั้นที่ 19 พ.ย. นี้ที่หอศิลปะร่วมสมัยของเจ้าสัวบุญชัย ทุกคำถามจะมีคำตอบที่นั่น ที่พบรักของคนทั้งคู่ ซึ่งแม่ทิ้งท้ายเพียงว่า “แม่ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้" และอยากให้ฟังเรื่องราวของความรักของคนทั้งคู่ด้วยปากในวันหมั้นสะท้านวงการครั้งนี้
จาก “วาสนา” ถึง “แก้ว เบญจา” รักที่ไม่สมหวังของเจ้าสัวบุญชัย
ถึงจะประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจจนร่ำรวยติดอันดับที่ 13 ของประเทศไทย แต่ในด้านชีวิตรัก “บุญชัย เบญจรงคกุล” อดีตเจ้าพ่อ Dtac กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเขาผ่านการใช้ชีวิตคู่กับภรรยาคนแล้วคนเล่ามาถึง 5 คน ก่อนที่จะมาประกาศแต่งงานกับ “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ดาราสาวมากความสามารถ โดยเฉพาะความรักครั้งที่ 5 ที่เจ้าสัวบุญชัยยอมรับว่าทำให้เขาเสียน้ำตามากที่สุดและเป็นรักที่เขาทุ่มเทหัวใจให้มากที่สุดกับผู้หญิงที่ชื่อ “แก้ว เบญจา บารมีย์”
“แก้ว เบญจา บารมีย์” ชื่อเดิมคือ “เบญจวรรณ ภูษณะพงษ์” เธอเคยเป็นนางเอกภาพยนตร์ในช่วงปี พ.ศ. 2527 - 2528 โดยประเดิมเรื่องแรกคือเปรียวแสดงคู่กับ “วสุ แสงสิงแก้ว” หรือ “จิ๊บ รด.” ก่อนจะมาแสดงภาพยนตร์เรื่องหัวใจทะลุดิน แสดงคู่กับ “ทูน หิรัญทรัพย์” และแสดงภาพยนตร์เรื่องแพแตก ที่นำแสดงโดย “สายัณห์ สัญญา” และ “นันทิดา แก้วบัวสาย”
“แก้ว เบญจา” เป็นนางแบบที่มีผลงานถ่ายแบบในนิตยสารวัยรุ่นสมัยนั้นอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี แก้วก็บินไปศึกษาต่อทางด้านเลขานุการที่ประเทศอังกฤษ โดยทิ้งงานในวงการบันเทิงไทยเอาไว้เพียงเท่านั้น
เวลาผ่านไป 5 ปี แก้วเดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารกึ่งผับ โดยร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ ดาราและนางแบบเปิดร้านชื่อ VEGA ที่ซอยหลังสวน ในตอนนั้น VEGA เป็นสถานที่รวมตัวของนักธุรกิจหนุ่ม สาวสวย ทั้งแวดวงไฮโซ นักการเมือง และคนมีชื่อเสียงจนสถานที่เล็กลงไปถนัดตา แก้วกับเพื่อนๆ จึงตัดสินใจย้ายมาเปิดร้านที่สุขุมวิท 39 ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าโดยใช้ชื่อว่า Vega Cafe Pub And Restaurant และที่นี่เองที่เป็นสถานที่ที่ทำให้แก้วได้พบกับเจ้าสัวบุญชัยผู้ซึ่งกลายมาเป็นคนรักในเวลาต่อมา
บุญชัยชอบไปนั่งที่ร้าน Vega Cafe Pub And Restaurant ตั้งแต่เมื่อ 16 ปีก่อน เมื่อได้พบปะกันมากขึ้นความสัมพันธ์ระหว่างบุญชัยกับแก้วก็พัฒนาไปมากขึ้น ด้วยความที่แก้วเป็นผู้หญิงในสเปกของบุญชัยทำให้เธอกลายมาเป็นภรรยาคนที่ 5 ของบุญชัยในเวลาต่อมา แต่ก็ยังไม่ได้เปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้มากนัก
หลังจากที่บุญชัยเริ่มหันไปศึกษาธรรมะ เขาก็ขอให้แก้วเลิกธุรกิจผับบาร์แล้วมาทำธุรกิจร้านดอกไม้แทน โดยบุญชัยได้เลี้ยงดูฉันภรรยาคนหนึ่งแม้จะยังไม่ได้มีการจดทะเบียนหรือเปิดเผยต่อสาธารณชนแต่อย่างใด
ระยะเวลาสิบกว่าปีที่บุญชัยดูแลแก้วอยู่นั้น ว่ากันว่าอดีตนางเอกภาพยนตร์รายนี้ได้ทรัพย์สมบัติจากบุญชัยไปไม่น้อยและสุขสบายจนถึงขนาดที่ว่าไม่ต้องทำอะไรเลยก็อยู่ได้
แต่แก้วก็ยอมรับว่าเธอหมดรักในตัวบุญชัยมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2552 แล้ว แต่ก็ยังทู่ซี้แต่งงานกับเจ้าสัว ความรักของทั้งคู่ กลายเป็นข่าวรายวัน หมดรักแล้วแต่ง แต่งแล้วเลิก เลิกแล้วก็งอนง้อ เพราะบุญชัยลุ่มหลงที่ตัวแก้ว เบญจา คนนี้มาก แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ทั้งคู่เลิกราหย่าร้างอีกครั้งไปเมื่อตอนต้นปี พ.ศ. 2555 นี้
ในทางธุรกิจ แก้วกับบุญชัยทำธุรกิจค่ายเพลงชื่อ บีบี. เรคคอร์ด ร่วมกันตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2552 โดยมีศิลปินส่วนหนึ่งที่มาจากการแนะนำของเพื่อนสนิทของแก้วอย่าง “ตุ๊ก เดือนเต็ม สาลิตุล” และแม้จะสิ้นรักแต่แก้วก็ยังไม่คิดจะยุติหรือถอนตัวจากธุรกิจค่ายเพลง และนี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แก้วยังไม่ตีตัวออกจากบุญชัยแบบเต็มร้อย ประกอบกับฝ่ายเจ้าสัวเองที่พยายามทำทุกทางเพื่อให้แก้วกลับมารักตน
หลังจากนั้นไม่นานแก้วก็ยื่นคำขาดให้บุญชัยยกย่องเธอในฐานะภรรยาหมายเลขหนึ่งเหนือกว่าทุกๆ ภรรยาของเขา ห้ามหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนที่ผ่านมาสิบกว่าปี เมื่อเจ้าสัวรับปาก งานแต่งงานระหว่างบุญชัยกับแก้วจึงเกิดขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553 โดยจัดงานขึ้นที่บ้านและเรือนหอของแก้วที่ย่านพระราม 9 ซึ่งงานนี้เชิญแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงแค่ 30 -40 คนเท่านั้น
หลังจากแต่งงานกับ แก้วได้ใช้นามสกุลเบญจรงคกุลอยู่เพียงปีเศษๆ เพราะความรู้สึกที่มีต่อบุญชัยที่หมดไปนานแล้วนี่เองได้ย้อนกลับมาทำให้แก้วคิดที่จะตีจากบุญชัยไปอีกครั้ง
แก้ว เบญจาเคยตกเป็นข่าวว่ากุ๊กกิ๊กกับ “เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร” นักร้องหนุ่มที่ไปโด่งดังที่ประเทศไต้หวัน ตั้งแต่ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับบุญชัยในปี พ.ศ. 2553 หลังจากนั้นในช่วงหนึ่งปีก่อนจะหย่าร้าง ก็มีเสียงซุบซิบกันว่าแก้วพาครูสอนฟิตเนสมาสอนท่าออกกำลังกายแบบสองต่อสองถึงบ้าน หลังจากนิ่งเงียบอยู่นานในที่สุดบุญชัยก็ลุกขึ้นมาประกาศหย่าในช่วงต้นปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา
ถือเป็นการปิดฉากความรักที่คาราคาซังมานานกว่า 16 ปีระหว่างแก้ว เบญจากับเจ้าสัวบุญชัยเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะว่ากันว่าทรัพย์สินที่บุญชัยประเคนให้ตั้งแต่เริ่มคบกันมาจนถึงปัจจุบันน่าจะไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แม้จะหย่าขาด แต่เจ้าสัวและแก้วยังอยู่ในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังเดียวกัน เพียงแต่อยู่กันคนละปีกของบ้านเท่านั้น
หากย้อนไปก่อนหน้าที่บุญชัยจะสร้างตำนานรักกับแก้ว เบญจา เจ้าสัวนักรักรายนี้เคยมีความรักกับผู้หญิงมาแล้วถึง 4 คน คนแรกชื่อ “วาสนา” ซึ่งแยกไปมีครอบครัวใหม่นานแล้ว บุญชัยมีลูกกับวาสนาด้วยกันหนึ่งคนคือ “หนึ่ง ศุภรัตน์”
ภรรยาคนที่สองของบุญชัยคือ “วรรณา” มีลูกด้วยกันสองคนคือ “เพชร บุญญาภาณิ์” กับ “คิด คณชัย” ซึ่งบุญชัยให้การเลี้ยงดูและให้ใช้นามสกุลเดียวกันมาตั้งแต่ต้น ภรรยาคนที่สามชื่อ “เบญจมาศ” ที่ตอนนี้ไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย บุญชัยมีลูกกับเบญจมาศด้วยกันสองคนคือ “แก้ว กัลยา” กับ “เบ็น เบญจามิน”
ภรรยาคนที่สี่เป็นคนแรกที่อยู่ในวงการบันเทิงนั่นคือ “ปูดำ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์” ดาราและรองนางสาวไทย ปี พ.ศ. 2529 ที่ไม่มีลูกด้วยกันและดูเหมือนจะจากกันกับบุญชัยแบบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ เพราะปูดำบอกว่าเธอลาขาดจากบุญชัยมานานสิบกว่าปีแล้ว และไม่เคยได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย ปูดำตัดพ้อว่าสำหรับเธอกับบุญชัยขอเรียกว่าไม่ใช่คนรู้จักกันเลยจะดีกว่า และไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างบุญชัยกับตั๊กที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกด้วย
ชีวิตรักของบุญชัยกับว่าที่ภรรยาคนที่หกอย่าง “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” ซึ่งเป็นสาวไทย สวยเข้มตรงสเปกของบุญชัยทุกประการ แต่ติดตรงที่ทั้งคู่อายุห่างกัน 30ปีจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป ที่แน่ๆ ความรักทั้ง 5 ครั้งของบุญชัยต้องยอมรับว่า “จบไม่ค่อยสวย” สักเท่าไหร่จริงๆ