ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ ที่มีขึ้นเมื่อ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ตำแหน่งหลักเป็นไปตามโผของ"ทักษิณ" คือ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาธิการพรรค
การวางตัวภูมิธรรม ให้มาเป็น"แม่บ้าน"ของพรรคในครั้งนี้ ถือว่ามีนัยสำคัญที่น่าติดตามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมือง ย่อมรู้ว่าภาพของเขาเปรียบเสมือน สัญญลักษณ์ หรือตัวแทนของฝ่ายล้มเจ้า โค่นอำมาตย์ คนหนึ่ง
ช่วงชีวิตวัยรุ่นของภูมิธรรม เขาเป็นคนยุค 14 ตุลาฯ ได้เข้าเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ช่วง"เฟรชชี่" เขาคัดค้านประเพณีการรับน้องใหม่ ที่รุ่นพี่ใช้ระบบ"ว๊าก" ห้ามน้องใหม่ขึ้นตึก 1 ของคณะ ห้ามนั่งโต๊ะรุ่นพี่ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่มีเหตุผล จึงตั้งกลุ่มเพื่อฉีกม่านประเพณีของจุฬาฯ ซึ่งยุคนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่โตมาก
ต่อมา เขาก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ก่อการจัดตั้ง พรรคจุฬา-ประชาชน ร่วมกับ เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และอีกหลายๆ คน นำพรรคจุฬา-ประชาชน ต่อสู้กับพรรคอนุรักษ์จุฬาฯ เพื่อชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ จนกระทั่งในปี 2519 พรรคจุฬา-ประชาชน ชนะเลือกตั้ง ส่ง เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ขึ้นเป็นนายกองค์การนิสิตฯ ได้สำเร็จ
หลังเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ภูมิธรรม เดินทางเข้าป่า ร่วมเคลื่อนไหวกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) อยู่ทางเขตงานอีสานใต้ ใช้ชื่อจัดตั้งว่า "สหายใหญ่"
สุดท้ายต้องออกจากป่า มาในสภาพ "ซ้ายอกหัก" ก็มาทำงานเป็นเอ็นจีโอ รับบทบาทนักจัดตั้ง ผลักดันโครงการอาสาสมัครเพื่อสังคม (คอส.) และทำงานด้านนี้อยู่นานถึง 10 ปี ก่อนเข้าสู่วงการเมือง โดยเข้าร่วมจัดตั้งพรรคไทยรักไทย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
จากประสบการณ์ที่บ่มเพาะ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจในฐานะ นักวางแผนระดับมันสมอง เป็นนักจัดตั้งมวลชน ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้พรรคไทยรักไทย มีส.ส.เกินครึ่งของสภา แม้จะมาจากการควบรวมพรรค ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงก็ตาม
เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตัวเขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี แต่ก็ยังทำงานอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย มาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนหาเสียงเลือกตั้ง จัดตั้งมวลชนคนเลื้อแดง เคลื่อนไหวโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย ร่างปฏิญญาฟินแลนด์ ก่อตั้งรัฐไทยใหม่ คนวงในต่างรับรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง ผลักดัน ในฐานะแกนนำคนหนึ่ง
เมื่อเขามานั่งในตำแหน่ง "แม่บ้านพรรคเพื่อไทย" ที่เป็นแกนนำรัฐบาล นอกเหนือจากงานปฏิรูปโครงสร้าง แนวทางการดำเนินงานของพรรคแล้ว ย่อมหมายรวมถึงการกำหนดทิศทางสังคมไทย ประเทศไทยในอนาคตด้วย
แน่นอน"ซ้ายอกหัก"อย่างเขาย่อมไม่ลืมอุดมการณ์โค่นล้ม"ระบอบอำมาตยาธิปไตย"
ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทย วางตัวภูมิธรรมให้มารับบทบาทนี้ เสมือนเป็นสัญญาณว่า จากนี้ไป ระบอบทักษิณจะเดินหน้าเต็มตัว สู่เป้าหมาย "รัฐไทยใหม่" โดยไม่ต้องแอบ ซ่อน อีกต่อไป
ก็ไม่รู้ว่า"ขุนศึก"ของระบอบอำมาตยาธิปไตย อย่าง"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะรู้ร้อน รู้หนาว กับสัญญาณอันตราย ที่กำลังท้าทายนี้หรือไม่ !!