เมื่อ เวลา 07.30 น. วานนี้ (31ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนมลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 8 พ.ย. ว่า การเดินทางไปสหรัฐฯนั้น จะไปเยี่ยมเยือนกองกำลังทางบกสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) ตามคำเชิญของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อพูดคุยถึงการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง 2 กองทัพ เช่น เรื่องการศึกษา การส่งกำลัง การจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆในระบบเอสเอ็มเอส และการช่วยเหลือของกองทัพสหรัฐฯที่มีไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยจะเข้าเยี่ยมคำนับ พล.ท. Francis J. Wiercinski ผบ.กองกำลังทางบกสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก และ พล.ร.อ.Samuel J. Locklear, III, ผบ.กอง กำลังสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก เพื่อหารือเรื่องการศึกษา เนื่องจากเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น อีกทั้งอุปกรณ์ที่กองทัพบกไทยใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่มาจากประเทศตะวันตก อุปกรณ์บางชิ้นส่วนก็เก่า จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ และบางสิ่งจำเป็นต้องมีการจัดซื้อใหม่ โดยเฉพาะอากาศยาน เช่น เครื่องเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์ค ที่ขณะนี้ทางสภาฯสหรัฐอเมริกา ได้อนุมัติ ขายให้ไทย แต่ปัญหาของเรา คือ ต้องหางบประมาณจัดซื้อ ซึ่งจะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลเป็นปีต่อไปตามงบประมาณที่เรามีอยู่
นอกจากนี้ ยังไปแสดงความเห็นใจและเสียใจกับกองทัพบกสหรัฐฯ ในฐานะเป็นกองทัพของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ที่เกิดขึ้นด้วย จากการติดตามข่าวทราบว่า รุนแรงพอสมควร และมีผู้เสียชีวิต บ้านเรือเสียหาย ส่วนการช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในอเมริกาคงทำได้เพียงให้ผู้ช่วยทูตทหารแจ้งเตือนระดมรวบรวมประชาชนและเขาไปยังจุดที่สหรัฐฯ เตรียมไว้ให้ ต้องยอมรับว่า ทางสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับเรื่องนี้ไว้ดีมาก เป็นสิ่งที่เราควรศึกษาไว้ในเรื่องารการเตรียมตัวก่อนพายุจะเข้า ส่วนเรื่องประเด็นการเมืองหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนั้นคงไม่ได้พูด คุยกัน เพราะถือว่าไม่ใช่หน้าที่
สำหรับการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นนั้นได้รับคำเชิญจากผบ.ทบ.ประเทศ ญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โดยจะมีการหารือความร่วมมือเรื่องการศึกษา เนื่องจากมีทหารไทยจบการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก และบางส่วนเมื่อจบการศึกษาแล้วเขาก็จะส่งคนของเขามาเป็นผู้ช่วยทูตทหาร ทำให้การทำงานที่ผ่านมาสามารถได้ผลดี เพราะเขารู้วัฒนธรรมประเพณีของไทย พร้อมทั้งหารือความร่วมมืออื่นๆ เช่น การแลกเปลี่ยนความร่วมมือการบรรเทาภัยพิบัติที่ญี่ปุ่นมีคุณภาพและขีดความ สามารถในการดำเนินงานสูง
"กองทัพบกไทยพร้อมก้าวไปสู่อาเซียน สิ่งที่เราเตรียมอยู่คือทำอย่างไรให้เราสามารถแลกเปลี่ยนการศึกษาระหว่างกัน มากขึ้น เพราะการศึกษาร่วมกันเป็นบ่อเกิดแห่งความเข้าใจกัน วันนี้การสอนของเราในโรงเรียนต่างๆยังสอนเป็นภาษาไทย ทำให้นักเรียนต่างประเทศเรียนค่อนข้างยาก ดังนั้นผมได้ให้นโยบายว่าภายในปีหน้าหลักสูตรต่างๆของกองทัพบกไทยจะต้องสอน เป็นภาษาอังกฤษได้ เพื่อให้มีแรงจูงใจให้กับนักเรียนต่างประเทศ แต่ยังคงต้องมีชั่วโมงเรียนภาษาไทยให้กับนักเรียนต่างประเทศด้วย เพื่อปรับให้ทันสมัยขึ้นและเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น" ผบ.ทบ. กล่าว
นอกจากนี้ ยังไปแสดงความเห็นใจและเสียใจกับกองทัพบกสหรัฐฯ ในฐานะเป็นกองทัพของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแซนดี้ที่เกิดขึ้นด้วย จากการติดตามข่าวทราบว่า รุนแรงพอสมควร และมีผู้เสียชีวิต บ้านเรือเสียหาย ส่วนการช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในอเมริกาคงทำได้เพียงให้ผู้ช่วยทูตทหารแจ้งเตือนระดมรวบรวมประชาชนและเขาไปยังจุดที่สหรัฐฯ เตรียมไว้ให้ ต้องยอมรับว่า ทางสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับเรื่องนี้ไว้ดีมาก เป็นสิ่งที่เราควรศึกษาไว้ในเรื่องารการเตรียมตัวก่อนพายุจะเข้า ส่วนเรื่องประเด็นการเมืองหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนั้นคงไม่ได้พูด คุยกัน เพราะถือว่าไม่ใช่หน้าที่
สำหรับการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นนั้นได้รับคำเชิญจากผบ.ทบ.ประเทศ ญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โดยจะมีการหารือความร่วมมือเรื่องการศึกษา เนื่องจากมีทหารไทยจบการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก และบางส่วนเมื่อจบการศึกษาแล้วเขาก็จะส่งคนของเขามาเป็นผู้ช่วยทูตทหาร ทำให้การทำงานที่ผ่านมาสามารถได้ผลดี เพราะเขารู้วัฒนธรรมประเพณีของไทย พร้อมทั้งหารือความร่วมมืออื่นๆ เช่น การแลกเปลี่ยนความร่วมมือการบรรเทาภัยพิบัติที่ญี่ปุ่นมีคุณภาพและขีดความ สามารถในการดำเนินงานสูง
"กองทัพบกไทยพร้อมก้าวไปสู่อาเซียน สิ่งที่เราเตรียมอยู่คือทำอย่างไรให้เราสามารถแลกเปลี่ยนการศึกษาระหว่างกัน มากขึ้น เพราะการศึกษาร่วมกันเป็นบ่อเกิดแห่งความเข้าใจกัน วันนี้การสอนของเราในโรงเรียนต่างๆยังสอนเป็นภาษาไทย ทำให้นักเรียนต่างประเทศเรียนค่อนข้างยาก ดังนั้นผมได้ให้นโยบายว่าภายในปีหน้าหลักสูตรต่างๆของกองทัพบกไทยจะต้องสอน เป็นภาษาอังกฤษได้ เพื่อให้มีแรงจูงใจให้กับนักเรียนต่างประเทศ แต่ยังคงต้องมีชั่วโมงเรียนภาษาไทยให้กับนักเรียนต่างประเทศด้วย เพื่อปรับให้ทันสมัยขึ้นและเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น" ผบ.ทบ. กล่าว