วานนี้ (30 ต.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน มีมติยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันที่ 9 พ.ย. และจะเปิดเผยรายชื่อว่าจะอภิปรายใครบ้างในวันดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาลแล้ว ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 25-26 พ.ย. และลงมติในวันที่ 27 พ.ย. และหากอภิปราย 2 วันไม่เสร็จสิ้นจะอภิปรายเพิ่มในวันที่ 27 พ.ย. และลงมติในวันที่ 28 พ.ย. ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทย จะร่วมลงชื่อในญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
นายจุรินทร์ ยอมรับว่า การที่รัฐบาลปรับครม. ก็กระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้าง เพราะเห็นว่าเป็นการปรับเพื่อจะให้มีผลในการรับมือกับการอภิปรายไว้วางใจ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ประเมินว่า จะมีการอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว จึงปรับเพื่อหวังผลรับมือเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการปรับเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งหมด แต่เป็นการปรับเพื่อหวังผลทางการเมือง
ส่วนการที่ไม่ปรับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว. พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง ก็เพื่อให้นายบุญทรง มารับหน้าเสื่อในการถูกอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว แทนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับครม. ในครั้งนี้ เป็นการแบ่งเค้กกันภายในกลุ่มเครือญาติ หรือ 3 ก๊ก ภายในพรรคเพื่อไทย หรือจะเรียกว่าเป็น ครม. 3 ก๊ก ก็ได้
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะร่วมกับปชป.ในการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ส่วน ส.ส ของพรรค จำนวนทั้งสิ้น 34 คน จะลงชื่อทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องรอทำความเข้าใจภายในพรรคอีกที แต่เบื้องต้นมีลงชื่อแน่นอน 27 คน
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมพรรค น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ว่าที่โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ได้มีการพูดถึงเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าต้องรอ กกต.รับรองคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน คาดว่าไม่เกิน 15 พ.ย.นี้ ซึ่งในเบื่องต้น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จะร่วมลงชื่อในญัตติขอเปิดอภิปปรายไม่ไว่วางใจ แต่ในขั้นการลงมติ ขอสงวนสิทธิ์ ฟังคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าชี้แจงได้หรือไม่ โดยพรรคจะมีการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการลงมติต่อไป
** เผยมีเรื่องทุจริต -ยื่นถอดถอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า วิปฝ่ายค้านกับวิปรัฐบาล ตกลงกันแล้วว่าจะอภิปรายประมาณวันที่ 25 พ.ย. โดยวางกรอบไว้ว่าไม่เกิน 3 วัน บวกวันลงมติอีก 1 วัน เป็น 4 วันโดยวันที่ 28 พ.ย. เป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุม จึงคิดว่าเริ่มต้นที่วันที่ 25 พ.ย. น่าจะเดินได้
ทั้งนี้ที่เผื่อเวลา 4 วัน เพราะไม่ทราบว่าจะมีการประท้วงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่วิปรัฐบาลเป็นฝ่ายหารือมาเอง จึงเชื่อว่า จะไม่มีการเบี้ยวเรื่องเวลาในภายหลัง ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะมีประด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งจะต้องยื่นถอดถอนตามรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนอีสานโพลที่สำรวจว่าฝ่ายค้านสอบตกนั้น ต้องดูในรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้พรรคยอมรับว่าต้องทำงานหนักในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อมัการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วก็จะทำให้ประชาชนได้ทราบความจริงจากการถ่ายทอดสด ก็จะเห็นการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะขณะนี้ก็ทำอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งตนสังเกตว่า คณะกรรมการ หรือ ดีเอสไอ ใครต่อใคร พยายายามเรียกสอบสวนเรื่องนั้น ขอเอกสารเรื่องนี้ อยู่ตลอด ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เจ้าหน้าที่ต้องให้ความเป็นธรรมในการจัดเวลาด้วย ส่วนอาจจะเป็นช่วงเดียวกับที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดำเนินการเรื่องถอดยศ ส่งผลกระทบหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคนมองออก ว่ากระบวนการนี้เป็นอย่างไร ซึ่งกรรมการต้องสอบข้อเท็จจริง
ส่วนการแถลงผลงาน 1 ปีของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกับกาอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะชี้ให้เห็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามหมวดของรัฐธรรมนูญ หรือไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งข้อมูลจะไม่ซ้ำซ้อนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นในแง่ของความล้มเหลว ปัญหาการทุจริต จะเรียกว่าวุฒิภาวะผู้นำด้วยหรือเปล่า ไม่ทราบ
**“เหลิม”ยันจำนำข้าวไม่มีทุจริต
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตนคาดการณ์ไม่ผิด ว่าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องการอภิปราย ก็มีเพียงเรื่องที่ที่ว่าโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลว ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ตนยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีการทุจริต เพราะนายกฯได้กวาดขันตรวจสอบลงลึกตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบทุกช็อต ทุกโครงการ ไม่มีหรอก เป็นเพียงพิธีกรรม
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า มีหลักฐานการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในหลายพื้นที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ที่มีปรากฏความผิด เราก็จับกุมแล้ว ที่ไม่รู้รัฐบาลจะทำอย่างไร ตนสั่งตรวจโกดังกว่า 500 โกดัง ก็ไม่พบการกระทำผิด และจะตรวจอีก แต่ไม่ได้ตรวจ เพราะฝ่ายค้านยื่นญัตติ
เมื่อถามต่อว่า กรณีที่มีการฮั้วกันระหว่างโรงสี ชาวนา และผู้ส่งออก ซึ่งจับได้ยากจะทำอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่างานนี้รัฐบาลขายเองแบบจีทูจี ผู้ส่งออกไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง นี่จึงเป็นประเด็นวุ่นวาย เพราะผู้ค้าส่งออกขาดประโยชน์ ขาดรายได้ เพราะขี่คอชาวนามานาน ตอนนี้รัฐบาลกำหนดราคาเองในการรับจำนำ ทำให้ชาวนาลืมตาอ้างปากได้ พวกที่เคยมีรายได้ก็ทำให้รายได้หด จึงออกมายุ่งย่ามอยู่แถวนี้ ไม่มีหรอก ฮั้วกันไม่ได้ พ่อค้าส่งออกรัฐบาลชุดนี้ไม่ให้เกียรติ และชาวนาก็ยังไปพูดว่า ผู้ที่ขายข้าวได้เป็นหัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะคนอีสานทำนาเยอะ และคนอีสานก็เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่หัวคะแนน แต่เขาชอบนโยบาย จึงไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าฝ่ายค้านจะมีอะไรออกมาโชว์หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเคยค้านมาก่อน ทรงนี้ไม่มีหลักฐานได้แต่ลีลา
เมื่อถามว่า เรื่องปัญหาความไม่สงบภาคใต้ หนักใจหรือไม่ เพราะยังไม่มีการกำหนดรองนายกฯ คนไหนมารับผิดชอบ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนจะไปหนักใจยังไง เขายังไม่ได้มอบหมายตน เมื่อถามต่อว่า ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีนายกฯยังไม่ได้หารือกับตน มีแต่การสั่งการ
**"อีสาน-เสื้อแดง"เกียร์ว่างดู"ปู"ขึ้นเขียง
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ได้มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ศึกษาธิการ เป็นประธาน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนพ.ย. โดยมีมีสายข่าวรายงานว่า ฝ่ายค้านเตรียมจะหยิบยกเรื่องส่วนตัวขึ้นมาโจมตีรัฐบาล แต่ทางคณะยุทธศาสตร์ ก็ไม่หนักใจ เพราะมั่นใจว่าทั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะชี้แจงได้
อย่างไรก็ตาม ทางคณะยุทธศาสตร์ไม่สบายใจในกรณีการปรับครม.ที่ผ่านมา เพราะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคมาก ไม่ว่ากรณีที่ส.ส.อาวุโสภาคอีสาน ไม่พอใจที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ข้ามหัว ส.ส.อีสานจำนวนมาก หรือกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี สร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มส.ส.เสื้อแดง จะทำให้ ส.ส.เหล่านี้ ใส่เกียร์ว่างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะนั่งฟังอย่างเดียว จะไม่ประท้วง หรือลุกขึ้นช่วยรัฐมนตรีที่ถูกอภิปาย ซึ่งคณะยุทธศาสตร์ฯ เห็นว่าทางพรรคต้องเร่งทำความเข้าใจกับส.ส. เหล่านี้โดยด่วน
นายจุรินทร์ ยอมรับว่า การที่รัฐบาลปรับครม. ก็กระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจบ้าง เพราะเห็นว่าเป็นการปรับเพื่อจะให้มีผลในการรับมือกับการอภิปรายไว้วางใจ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ประเมินว่า จะมีการอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว จึงปรับเพื่อหวังผลรับมือเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการปรับเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งหมด แต่เป็นการปรับเพื่อหวังผลทางการเมือง
ส่วนการที่ไม่ปรับ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว. พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง ก็เพื่อให้นายบุญทรง มารับหน้าเสื่อในการถูกอภิปรายเรื่องโครงการรับจำนำข้าว แทนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับครม. ในครั้งนี้ เป็นการแบ่งเค้กกันภายในกลุ่มเครือญาติ หรือ 3 ก๊ก ภายในพรรคเพื่อไทย หรือจะเรียกว่าเป็น ครม. 3 ก๊ก ก็ได้
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย มีมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะร่วมกับปชป.ในการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ส่วน ส.ส ของพรรค จำนวนทั้งสิ้น 34 คน จะลงชื่อทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องรอทำความเข้าใจภายในพรรคอีกที แต่เบื้องต้นมีลงชื่อแน่นอน 27 คน
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมพรรค น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ว่าที่โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ได้มีการพูดถึงเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่าต้องรอ กกต.รับรองคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน คาดว่าไม่เกิน 15 พ.ย.นี้ ซึ่งในเบื่องต้น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จะร่วมลงชื่อในญัตติขอเปิดอภิปปรายไม่ไว่วางใจ แต่ในขั้นการลงมติ ขอสงวนสิทธิ์ ฟังคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าชี้แจงได้หรือไม่ โดยพรรคจะมีการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางการลงมติต่อไป
** เผยมีเรื่องทุจริต -ยื่นถอดถอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า วิปฝ่ายค้านกับวิปรัฐบาล ตกลงกันแล้วว่าจะอภิปรายประมาณวันที่ 25 พ.ย. โดยวางกรอบไว้ว่าไม่เกิน 3 วัน บวกวันลงมติอีก 1 วัน เป็น 4 วันโดยวันที่ 28 พ.ย. เป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุม จึงคิดว่าเริ่มต้นที่วันที่ 25 พ.ย. น่าจะเดินได้
ทั้งนี้ที่เผื่อเวลา 4 วัน เพราะไม่ทราบว่าจะมีการประท้วงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่วิปรัฐบาลเป็นฝ่ายหารือมาเอง จึงเชื่อว่า จะไม่มีการเบี้ยวเรื่องเวลาในภายหลัง ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะมีประด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งจะต้องยื่นถอดถอนตามรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนอีสานโพลที่สำรวจว่าฝ่ายค้านสอบตกนั้น ต้องดูในรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้พรรคยอมรับว่าต้องทำงานหนักในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามเมื่อมัการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วก็จะทำให้ประชาชนได้ทราบความจริงจากการถ่ายทอดสด ก็จะเห็นการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ชัดเจน
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะขณะนี้ก็ทำอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งตนสังเกตว่า คณะกรรมการ หรือ ดีเอสไอ ใครต่อใคร พยายายามเรียกสอบสวนเรื่องนั้น ขอเอกสารเรื่องนี้ อยู่ตลอด ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เจ้าหน้าที่ต้องให้ความเป็นธรรมในการจัดเวลาด้วย ส่วนอาจจะเป็นช่วงเดียวกับที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ดำเนินการเรื่องถอดยศ ส่งผลกระทบหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคนมองออก ว่ากระบวนการนี้เป็นอย่างไร ซึ่งกรรมการต้องสอบข้อเท็จจริง
ส่วนการแถลงผลงาน 1 ปีของรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกับกาอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะชี้ให้เห็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตามหมวดของรัฐธรรมนูญ หรือไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งข้อมูลจะไม่ซ้ำซ้อนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นในแง่ของความล้มเหลว ปัญหาการทุจริต จะเรียกว่าวุฒิภาวะผู้นำด้วยหรือเปล่า ไม่ทราบ
**“เหลิม”ยันจำนำข้าวไม่มีทุจริต
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตนคาดการณ์ไม่ผิด ว่าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องการอภิปราย ก็มีเพียงเรื่องที่ที่ว่าโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลว ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ตนยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่มีการทุจริต เพราะนายกฯได้กวาดขันตรวจสอบลงลึกตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบทุกช็อต ทุกโครงการ ไม่มีหรอก เป็นเพียงพิธีกรรม
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า มีหลักฐานการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในหลายพื้นที่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ที่มีปรากฏความผิด เราก็จับกุมแล้ว ที่ไม่รู้รัฐบาลจะทำอย่างไร ตนสั่งตรวจโกดังกว่า 500 โกดัง ก็ไม่พบการกระทำผิด และจะตรวจอีก แต่ไม่ได้ตรวจ เพราะฝ่ายค้านยื่นญัตติ
เมื่อถามต่อว่า กรณีที่มีการฮั้วกันระหว่างโรงสี ชาวนา และผู้ส่งออก ซึ่งจับได้ยากจะทำอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่างานนี้รัฐบาลขายเองแบบจีทูจี ผู้ส่งออกไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง นี่จึงเป็นประเด็นวุ่นวาย เพราะผู้ค้าส่งออกขาดประโยชน์ ขาดรายได้ เพราะขี่คอชาวนามานาน ตอนนี้รัฐบาลกำหนดราคาเองในการรับจำนำ ทำให้ชาวนาลืมตาอ้างปากได้ พวกที่เคยมีรายได้ก็ทำให้รายได้หด จึงออกมายุ่งย่ามอยู่แถวนี้ ไม่มีหรอก ฮั้วกันไม่ได้ พ่อค้าส่งออกรัฐบาลชุดนี้ไม่ให้เกียรติ และชาวนาก็ยังไปพูดว่า ผู้ที่ขายข้าวได้เป็นหัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะคนอีสานทำนาเยอะ และคนอีสานก็เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่หัวคะแนน แต่เขาชอบนโยบาย จึงไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าฝ่ายค้านจะมีอะไรออกมาโชว์หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเคยค้านมาก่อน ทรงนี้ไม่มีหลักฐานได้แต่ลีลา
เมื่อถามว่า เรื่องปัญหาความไม่สงบภาคใต้ หนักใจหรือไม่ เพราะยังไม่มีการกำหนดรองนายกฯ คนไหนมารับผิดชอบ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนจะไปหนักใจยังไง เขายังไม่ได้มอบหมายตน เมื่อถามต่อว่า ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีนายกฯยังไม่ได้หารือกับตน มีแต่การสั่งการ
**"อีสาน-เสื้อแดง"เกียร์ว่างดู"ปู"ขึ้นเขียง
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ได้มีการประชุมคณะยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ศึกษาธิการ เป็นประธาน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนพ.ย. โดยมีมีสายข่าวรายงานว่า ฝ่ายค้านเตรียมจะหยิบยกเรื่องส่วนตัวขึ้นมาโจมตีรัฐบาล แต่ทางคณะยุทธศาสตร์ ก็ไม่หนักใจ เพราะมั่นใจว่าทั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะชี้แจงได้
อย่างไรก็ตาม ทางคณะยุทธศาสตร์ไม่สบายใจในกรณีการปรับครม.ที่ผ่านมา เพราะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคมาก ไม่ว่ากรณีที่ส.ส.อาวุโสภาคอีสาน ไม่พอใจที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ข้ามหัว ส.ส.อีสานจำนวนมาก หรือกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี สร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มส.ส.เสื้อแดง จะทำให้ ส.ส.เหล่านี้ ใส่เกียร์ว่างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะนั่งฟังอย่างเดียว จะไม่ประท้วง หรือลุกขึ้นช่วยรัฐมนตรีที่ถูกอภิปาย ซึ่งคณะยุทธศาสตร์ฯ เห็นว่าทางพรรคต้องเร่งทำความเข้าใจกับส.ส. เหล่านี้โดยด่วน
