xs
xsm
sm
md
lg

ประกายไฟจะลามทุ่ง

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

ขณะที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยทักษิณกำลังปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 เครือข่ายประชาชนที่ทนไม่ได้กับรัฐบาลหุ่นก็นัดชุมนุมกันที่สนามม้านางเลิ้ง ไล่รัฐบาล ยุติวิกฤตชาติ

ก่อนการชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยาม ซึ่งมีพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นประธาน จะเกิดขึ้นสายตาของผู้คนส่วนหนึ่ง รวมทั้งรัฐบาลมองการชุมนุมครั้งนี้อย่างดูแคลน โพลบางสำนักบอกว่าเรียกผู้คนมาชุมนุมได้ไม่น่าจะเกิน 1,500 คน ชุมนุมครั้งเดียวก็จอดเพราะจุดไม่ติด ต่างจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมให้ดูเป็นตัวอย่างที่อุดรธานี ที่คนเสื้อแดงเป็นพันเป็นหมื่นออกมาชุมนุมเรียกร้องให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำทักษิณ ชินวัตร ผู้เสมอบิดาบังเกิดเกล้าของพวกเขากลับประเทศให้ได้

แต่การณ์หาได้เป็นอย่างที่ฝ่ายรัฐบาลและบรรดากองเชียร์รัฐบาลคาดคิดไม่ ตั้งแต่เช้าวันที่ 28 ตุลาคม ผู้คนที่ทนไม่ได้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทยอยกันไปที่สนามม้านางเลิ้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดคะเนว่า 5,000-6,000 คน สื่อที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างออกหน้าออกตาบอกว่าน่าจะ 2,000-3,000 คน

ดูจากสีหน้าของพล.อ.บุญเลิศที่เคยประกาศชัดถ้อยชัดคำว่า ถ้าหากผู้ชุมนุมมาน้อย แค่ร้อยแค่พันก็เลิกไม่เดินหน้าต่อ แต่การที่จะยังมีการนัดชุมนุมครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ต่อไปอีก โดยให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมวันที่ 28 ตุลาคม ช่วยหาแนวร่วมเพิ่มมาให้ได้ 1 ต่อ 100 ก็แสดงให้เห็นว่า พล.อ.บุญเลิศพอใจกับจำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุม มองเห็นความเร่าร้อน จริงจังของผู้เข้าร่วมชุมนุมว่าอยู่ในสภาพที่ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

การไม่มีประสบการณ์กับการจัดการชุมนุม การไม่ค่อยจะมีกิจกรรมทางการเมือง นอกจากเคยมีชื่ออยู่ในกลุ่มคิดและยึดอำนาจด้วยกำลังทหารหลายสิบปีก่อน ความใกล้ชิดกับพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ อาจจะทำให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พล.อ.บุญเลิศ ถูกจับตามองว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ ยิ่งก่อนการชุมนุม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเล่นบทเป็นมือตีนของทักษิณไปร่วมรับประทานอาหาร ดื่มไวน์กันอย่างเริงรื่น ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือจริงจังกับการชุมนุมครั้งนี้ลดทอนลง

แต่สภาพทนไม่ได้ ทนไม่ไหวกับนายกรัฐมนตรี ที่ไร้เดียงสา และรัฐบาลหุ่นที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ทำให้ผู้คนที่ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวเข้าร่วมการชุมนุมอย่างคึกคัก ผู้มีชื่อเสียงในการคลื่อนไหว นักกิจกรรมกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมอย่างไม่ถือเขา ถือเรา

เป้าหมายอย่างเดียว คือ ไล่รัฐบาลหุ่นไร้เดียงสานี้ออกไป เพื่อมิให้ประเทศไทยถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องอีกต่อไป หนึ่งปีที่ผ่านมาก็เป็นความอัปยศอดสูเพียงพอแล้วที่รัฐบาลนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนนี้ทำกับประเทศไทย

ความไม่ประสีประสาทางการเมืองทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ พูดทำตามบทที่เขียนให้พูด เขียนให้ทำจะไม่ทำเพื่อคนคนเดียว จะทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่พอมีการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพี่ชาย จะมีการออกกฎหมายปรองดองเพื่อพี่ชาย ก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องของสภา ครั้นถามถึงงานสภานางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่เข้าประชุมมีกระทู้ถามก็ไปดูน้ำ ดูคลอง หลบไปเลี่ยงมา แล้วก็อ้างประชาธิปไตย อ้าง 15 ล้านเสียงที่เลือกเข้ามา

รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลก็นับวันเหิมเกริมวางก้าม ถือว่ามีเสียงข้างมากในสภา นึกอยากจะทำอะไรก็ได้ เป็นต้น จะเลื่อนยศให้ ทักษิณ ชินวัตร เป็นพลตำรวจเอก ฝ่ายค้านไม่พอใจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เชิญ คนเขาด่าว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ออกหนังสือเดินทางให้ทักษิณ เพราะทักษิณเป็นนักโทษหนีคุกหนีตะราง ทักษิณกลับตั้งให้มันเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง เหมือนกับจะบอกคนไทยว่า กูจะจัดการอย่างไรก็ได้กับประเทศนี้ เพราะกูมี 15 ล้านเสียง ประเทศนี้ต้องอยู่ภายใต้การบงการของกู

นโยบายประชานิยม หรือที่จริงก็คือ นโยบายซื้อเสียงด้วยงบประมาณแผ่นดิน หรือภาษีของประชาชนนับวันจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ นโยบายรถยนต์คันแรกผู้ที่ได้ประโยชน์คือบริษัทผลิตรถยนต์ แทนที่ประเทศจะได้ภาษี กลับเพิ่มปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ต่อไปก็จะเพิ่มปัญหาขยะ เศษเหล็ก

ที่สร้างความฉิบหายวายวอดก็คือ นโยบายรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาด โดยอ้างชาวนา ทำให้ข้าวล้นโกดังตลาดส่งออกข้าวเสียหาย โดยที่ความเป็นจริงก็คือ หนี้สินต่อครัวเรือนของชาวนา และคนไทยสูงขึ้น แต่นักการเมืองร่ำรวยขึ้น มั่นคงขึ้น

ระบอบทักษิณนับวันจะแข็งแกร่งขึ้น

การเดินทางไปชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้งของผู้คนกลุ่มต่างๆ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ก็เพื่อต้องการหยุดยั้งความหายนะของประเทศที่นับวันจะหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ

ผู้คนอาจจะได้แค่ 5,000-6,000 คนในสายตาของนายตำรวจใหญ่ พันคนหรือสองพันคนในสายตาของรัฐบาล หรือในกลุ่มกองเชียร์รัฐบาล แต่นี่คือประกายไฟที่จะต้องลุกลามต่อไปอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น