**ครม.ปู 3 ได้ฤกษ์ปรับกันไปเรียบร้อยแล้ว ปรับใหญ่ตามคาด หลังจากอัดอั้นตันรูมานาน ถึงคราวปลดปล่อยกันเสียที โฉมหน้ารัฐมนตรีใหม่หลายคนชาวบ้านส่ายหน้าร้องยี้ กังขาถึงความรู้ความสามารถ ตั้งแง่เชิงรังเกียจเดียดฉันท์
มันก็ปรับครม.ต่างตอบแทน แบ่งผลประโยชน์กลุ่มมุ้งรูปแบบเดิมๆ นี่หว่า ไม่มีมิติของการแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติตามที่ปากพร่ำบอกแม้แต่น้อย !!
ตรวจสอบรายชื่อแต่ละรายยังไม่รู้ว่าเอามาแก้ปัญหากันจุดไหน ปัญหาหลักๆ เรื่องเศรษฐกิจ ดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีมาปรับปรุงการทำงาน ทั้งๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จมหู ว่า "บ่มิไก๊"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังเป็น "ไวท์ลาย" กิตติรัตน์ ณ ระนอง อย่างเก่า เนื่องเพราะเป็นประเภทซี้ปึ้ก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯสมองกลวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เก้าอี้ก็ยังเหนียวแน่นแข็งแกร่ง บุญทรง เตริยาภิรมณ์ แม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ่อนหัด พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะนโยบายการรับจำนำข้าว เหมือนของดีเอาไปทำจนเน่าเสียเฟะ แต่ด้วยความเป็นคนใกล้ชิดทั้ง "ยิ่งลักษณ์" และเป็นสายตรง "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำใหญ่พรรคเพื่อไทย ทำให้อยู่รอดปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
"บุญทรง" น่าจะถูกจับเอาไว้เป็นหนังหน้าไฟรับศึกเรื่องข้าวที่ฝ่ายค้านตั้งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ให้กระทบกระเทือนมาถึงนายกฯปูนิ่มมากเกินไป
ภาพรวมกระทรวงเศรษฐกิจหลักๆ ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก เข้าทำนองหมูไป ไก่มา ไร้ราคาค่างวด ชาวบ้านยังว้าเหว่ไร้ความหวังกันต่อไป การปรับครม.ครั้งนี้จึงไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของคุณภาพ!!
**แต่ที่ชัดแจ้งแดงแจ๋เห็นกันล่อนจ้อน ก็เป็นเรื่องของการปรับครม.ต่างตอบแทน เด็กเจ๊ เด็กนาย เครือญาติใกล้ชิด เต็มพรืด ตามวัฒนธรรมอุบาทว์ของพรรคการเมืองพรรคนี้ มุ่งเน้นการปรับครม.ด้วยระบบเส้นสาย โคตรเชลียร์ และเคลียร์บิล ไม่มีการตัดสินกันในเรื่องผลงาน
น่าสังเกตเหลือเกินว่าเมื่อตรวจสอบรายชื่อ สแกนลึกไปถึงโควต้ากลุ่มมุ้งต่างๆ ในการปรับครม.ครั้งนี้ นอกจากบ้านเลขที่ 111 ที่ได้ฤกษ์เข้ามาเสียบแทนในหลายตำแหน่งแล้ว “กลุ่มไทยคู่ฟ้า”ของยิ่งลักษณ์แอนเดอะแก๊งค์ และกลุ่มเจ๊ด. แกนนำใหญ่ ณ ภาคเหนือ มีสัดส่วนเก้าอี้เพิ่มขึ้นในครม. ขณะที่โควต้าภาคกลาง และภาคอีสาน โดนเฉือนหายไปหน้าตาเฉย
ปรากฏการณ์ตรงนี้ได้ก่อคลื่นใต้น้ำลูกเล็กๆ ขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย รอวันขยายใหญ่เป็นสึนามิ
กลุ่มส.ส.อกหักในภาคกลางและภาคเหนือ อาจจับกลุ่มรวมกันเป็นขบวนการผนวกกำลังกับคนเสื้อแดง ที่ออกอาการกระฟัดกระเฟียดอย่างรุนแรง หลังจากที่ “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแดงพันธุ์เถื่อน ไม่ได้รับเก้าอี้สมใจหวัง ทั้งที่ตั้งตารอด้วยความหวังเต็มปรี่ รวมกันถาโถมถล่มใส่พรรคจนทำให้พรรคและรัฐบาลง่อยเปลี้ยเสียขา
ความไม่พอใจของ "จตุพร" และมวลหมู่แกนนำเสื้อแดงสะท้อนออกมาเด่นชัด แบบไม่เก็บอาการ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมออกมาโพนทะนาให้สัมภาษณ์ต่อเนื่อง เอ่ยอ้างเชิงทวงบุญคุณ คนที่ต้อสู้เพื่อพรรคบาดแผลเต็มตัว กลับถูกเมิน แต่พวกนักรบห้องแอร์กลับได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีกันเป็นแถว
**ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเสื้อแดงที่ก่อวีรเวรเผาเมือง จะเผาพรรคตัวเองด้วยหรือเปล่า!!
คนเสื้อแดง รวมทั้งคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนเองก็มองตามสถานการณ์แล้วฟันธงว่ามันถึงเวลา ถึงคิวของ "จตุพร" รวมทั้ง อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานโรมานอฟ แกนนำเสื้อแดงพันธุ์ทางอีกคนหนึ่ง น่าจะตบรางวัลให้ที่คนออกหน้าต่อสู้มากกว่าพวกทัพหลังที่รอเสวยสุขกันอย่างเดียว
การปรับครม.ครั้งนี้นอกจากไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ ยังเกิดแรงกระเพื่อม ก่อปัญหาภายในให้กับตัวเอง ไม่รู้คิดกันอย่างไร หรือเป็นพวกมีความคิดสั้นกันแน่ เหมือนฆ่าตัวเองให้ตายเร็วขึ้น นับถอยหลังอายุรัฐบาลกันชัดๆ
หากโฟกัสไปที่รายชื่อครม.ชุดใหม่แล้วหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เหมือนเดิม ไม่ได้สวยหรูกู้ภาพลักษณ์ที่ห่วยแตกขึ้นมาแต่อย่างใด ศันสนีย์ นาคพงศ์ ประชา ประสพดี ประเสริฐ จันทร์รวงทอง เป็นประเภทโนเนม ลูกกวาด เปลี่ยนสีสัน หาสาระไม่ได้ เข้ามาด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ ไม่มีใครเข้าใจ
นินทากันให้ปากเปื่อยว่า "ศันสนีย์" เสียบเข้ามาด้วยภาวะส้มหล่น เนื่องเพราะ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยไม่ประสงค์จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะมันไม่สมกับฐานะความเป็นใหญ่ของตัวเองที่ควรจะเป็น หลังจากพลาดหวังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เลือกไม่รับตำแหน่ง เพื่อรอครม.ปู 4 ที่เชื่อเหลือเกินว่าตัวเองต้องยิ่งใหญ่แน่นอน ช่วงนี้ก็ทุ่มเททำงานให้พรรคในฐานะเลขาธิการพรรคคนใหม่ไปพลางๆ ก่อน วันหน้าใหญ่แน่!!
กระนั้นก็สืบทราบไปในเชิงลึกไปอีกว่า คนที่ผลักดัน "เจ๊ติ๋ว" ขึ้นมาแบบตาลีตาเหลือกไม่ใช่ใครที่ไหน สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ คนใกล้ตัวนายกฯที่ถูกคนนินทาหมาดูถูกว่าเป็นคนจัดโผครม.ครั้งนี้อย่างแยบยล ไม่รู้ว่า “ภูมิธรรม” แอบส่งซิกให้ "ศันสนีย์" ขึ้นมานั่งแทนด้วยการกลืนเลือดรอความหวังวันหน้าหรือไม่
แต่นั่นก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงจากคนอกหัก พุ่งเป้าโจมตีไปที่ "สุรนันทน์" มากขึ้นทุกที ตั้งข้อหาโจมตีว่าเป็นคนนอกเข้ามาชุบมือเปิบ เป็นจอมบงการโผครม.ครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญ
เหมือนดุลอำนาจจากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย เทไปอยู่กับทีมงานไทยคู่ฟ้าแทบหมดสิ้นแล้ว "ยิ่งลักษณ์" หลงคารมไปกับ “ขันทีส่วนตัว” จนทำให้คนในพรรคเกิดความไม่พอใจ และบางครั้งหลงลืมกับภาพลักษณ์กับภารกิจใหญ่ ที่พร่ำบอกว่าจะมากอบกู้ประเทศ
วันนี้แม้แต่การช่วยเหลือ “นายใหญ่”ให้กลับสู่มาตุภูมิ ยังดูเหมือนเป็นเรื่องรอง ลดทอนความสำคัญลงไป หลังจากทีมงานไทยคู่ฟ้า และทีมงานเจ๊ด. ผงาดง้ำค้ำรัฐบาล หลงระเริงอำนาจย่ามใจ เสกเด็กในคาถามายึดกุมอำนาจรัฐบาล ยึดกุมอำนาจการบริหารประเทศ กลายเป็นบริษัทจำกัดรอบสอง
แม้แต่พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดียังมองด้วยความกังวลใจ เพราะไม่เพียงแต่ตัวเองจะไม่ได้กลับบ้าน ซ้ำยังเพิ่มความอันตราย เพิ่มขวากหนามในการกลับประเทศ กลายเป็นเชื้อร้ายที่ยังไม่ตายกลายพันธุ์เป็นไวรัสตัวใหม่ที่บ่อนเซาะประเทศไทย กลายเป็นสิ่งจัญไรที่คนไทยมองเห็นแล้วว่าไม่ต่างจาก "ระบอบทักษิณ" เฉกเช่นประวัติศาสตร์เดิมๆ
**ภาพรวมการปรับครม.ครั้งนี้สะท้อนนัยยะของความสามานย์ เล่นแร่แปรธาตุในวงศ์วานว่านเครือ พิษร้ายยังฝังอยู่ด้วยความละโมบ โสมม เชื้อร้ายที่เคยบาดแทงหัวใจคนไทยหลายกลุ่มยังไม่ตายจากไปง่ายๆ...
มันก็ปรับครม.ต่างตอบแทน แบ่งผลประโยชน์กลุ่มมุ้งรูปแบบเดิมๆ นี่หว่า ไม่มีมิติของการแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติตามที่ปากพร่ำบอกแม้แต่น้อย !!
ตรวจสอบรายชื่อแต่ละรายยังไม่รู้ว่าเอามาแก้ปัญหากันจุดไหน ปัญหาหลักๆ เรื่องเศรษฐกิจ ดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีมาปรับปรุงการทำงาน ทั้งๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จมหู ว่า "บ่มิไก๊"
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังเป็น "ไวท์ลาย" กิตติรัตน์ ณ ระนอง อย่างเก่า เนื่องเพราะเป็นประเภทซี้ปึ้ก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯสมองกลวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เก้าอี้ก็ยังเหนียวแน่นแข็งแกร่ง บุญทรง เตริยาภิรมณ์ แม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ่อนหัด พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะนโยบายการรับจำนำข้าว เหมือนของดีเอาไปทำจนเน่าเสียเฟะ แต่ด้วยความเป็นคนใกล้ชิดทั้ง "ยิ่งลักษณ์" และเป็นสายตรง "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำใหญ่พรรคเพื่อไทย ทำให้อยู่รอดปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
"บุญทรง" น่าจะถูกจับเอาไว้เป็นหนังหน้าไฟรับศึกเรื่องข้าวที่ฝ่ายค้านตั้งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ให้กระทบกระเทือนมาถึงนายกฯปูนิ่มมากเกินไป
ภาพรวมกระทรวงเศรษฐกิจหลักๆ ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก เข้าทำนองหมูไป ไก่มา ไร้ราคาค่างวด ชาวบ้านยังว้าเหว่ไร้ความหวังกันต่อไป การปรับครม.ครั้งนี้จึงไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของคุณภาพ!!
**แต่ที่ชัดแจ้งแดงแจ๋เห็นกันล่อนจ้อน ก็เป็นเรื่องของการปรับครม.ต่างตอบแทน เด็กเจ๊ เด็กนาย เครือญาติใกล้ชิด เต็มพรืด ตามวัฒนธรรมอุบาทว์ของพรรคการเมืองพรรคนี้ มุ่งเน้นการปรับครม.ด้วยระบบเส้นสาย โคตรเชลียร์ และเคลียร์บิล ไม่มีการตัดสินกันในเรื่องผลงาน
น่าสังเกตเหลือเกินว่าเมื่อตรวจสอบรายชื่อ สแกนลึกไปถึงโควต้ากลุ่มมุ้งต่างๆ ในการปรับครม.ครั้งนี้ นอกจากบ้านเลขที่ 111 ที่ได้ฤกษ์เข้ามาเสียบแทนในหลายตำแหน่งแล้ว “กลุ่มไทยคู่ฟ้า”ของยิ่งลักษณ์แอนเดอะแก๊งค์ และกลุ่มเจ๊ด. แกนนำใหญ่ ณ ภาคเหนือ มีสัดส่วนเก้าอี้เพิ่มขึ้นในครม. ขณะที่โควต้าภาคกลาง และภาคอีสาน โดนเฉือนหายไปหน้าตาเฉย
ปรากฏการณ์ตรงนี้ได้ก่อคลื่นใต้น้ำลูกเล็กๆ ขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย รอวันขยายใหญ่เป็นสึนามิ
กลุ่มส.ส.อกหักในภาคกลางและภาคเหนือ อาจจับกลุ่มรวมกันเป็นขบวนการผนวกกำลังกับคนเสื้อแดง ที่ออกอาการกระฟัดกระเฟียดอย่างรุนแรง หลังจากที่ “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแดงพันธุ์เถื่อน ไม่ได้รับเก้าอี้สมใจหวัง ทั้งที่ตั้งตารอด้วยความหวังเต็มปรี่ รวมกันถาโถมถล่มใส่พรรคจนทำให้พรรคและรัฐบาลง่อยเปลี้ยเสียขา
ความไม่พอใจของ "จตุพร" และมวลหมู่แกนนำเสื้อแดงสะท้อนออกมาเด่นชัด แบบไม่เก็บอาการ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมออกมาโพนทะนาให้สัมภาษณ์ต่อเนื่อง เอ่ยอ้างเชิงทวงบุญคุณ คนที่ต้อสู้เพื่อพรรคบาดแผลเต็มตัว กลับถูกเมิน แต่พวกนักรบห้องแอร์กลับได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีกันเป็นแถว
**ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเสื้อแดงที่ก่อวีรเวรเผาเมือง จะเผาพรรคตัวเองด้วยหรือเปล่า!!
คนเสื้อแดง รวมทั้งคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนเองก็มองตามสถานการณ์แล้วฟันธงว่ามันถึงเวลา ถึงคิวของ "จตุพร" รวมทั้ง อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานโรมานอฟ แกนนำเสื้อแดงพันธุ์ทางอีกคนหนึ่ง น่าจะตบรางวัลให้ที่คนออกหน้าต่อสู้มากกว่าพวกทัพหลังที่รอเสวยสุขกันอย่างเดียว
การปรับครม.ครั้งนี้นอกจากไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ ยังเกิดแรงกระเพื่อม ก่อปัญหาภายในให้กับตัวเอง ไม่รู้คิดกันอย่างไร หรือเป็นพวกมีความคิดสั้นกันแน่ เหมือนฆ่าตัวเองให้ตายเร็วขึ้น นับถอยหลังอายุรัฐบาลกันชัดๆ
หากโฟกัสไปที่รายชื่อครม.ชุดใหม่แล้วหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เหมือนเดิม ไม่ได้สวยหรูกู้ภาพลักษณ์ที่ห่วยแตกขึ้นมาแต่อย่างใด ศันสนีย์ นาคพงศ์ ประชา ประสพดี ประเสริฐ จันทร์รวงทอง เป็นประเภทโนเนม ลูกกวาด เปลี่ยนสีสัน หาสาระไม่ได้ เข้ามาด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ ไม่มีใครเข้าใจ
นินทากันให้ปากเปื่อยว่า "ศันสนีย์" เสียบเข้ามาด้วยภาวะส้มหล่น เนื่องเพราะ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยไม่ประสงค์จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะมันไม่สมกับฐานะความเป็นใหญ่ของตัวเองที่ควรจะเป็น หลังจากพลาดหวังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เลือกไม่รับตำแหน่ง เพื่อรอครม.ปู 4 ที่เชื่อเหลือเกินว่าตัวเองต้องยิ่งใหญ่แน่นอน ช่วงนี้ก็ทุ่มเททำงานให้พรรคในฐานะเลขาธิการพรรคคนใหม่ไปพลางๆ ก่อน วันหน้าใหญ่แน่!!
กระนั้นก็สืบทราบไปในเชิงลึกไปอีกว่า คนที่ผลักดัน "เจ๊ติ๋ว" ขึ้นมาแบบตาลีตาเหลือกไม่ใช่ใครที่ไหน สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ คนใกล้ตัวนายกฯที่ถูกคนนินทาหมาดูถูกว่าเป็นคนจัดโผครม.ครั้งนี้อย่างแยบยล ไม่รู้ว่า “ภูมิธรรม” แอบส่งซิกให้ "ศันสนีย์" ขึ้นมานั่งแทนด้วยการกลืนเลือดรอความหวังวันหน้าหรือไม่
แต่นั่นก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงจากคนอกหัก พุ่งเป้าโจมตีไปที่ "สุรนันทน์" มากขึ้นทุกที ตั้งข้อหาโจมตีว่าเป็นคนนอกเข้ามาชุบมือเปิบ เป็นจอมบงการโผครม.ครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญ
เหมือนดุลอำนาจจากฟากฝั่งพรรคเพื่อไทย เทไปอยู่กับทีมงานไทยคู่ฟ้าแทบหมดสิ้นแล้ว "ยิ่งลักษณ์" หลงคารมไปกับ “ขันทีส่วนตัว” จนทำให้คนในพรรคเกิดความไม่พอใจ และบางครั้งหลงลืมกับภาพลักษณ์กับภารกิจใหญ่ ที่พร่ำบอกว่าจะมากอบกู้ประเทศ
วันนี้แม้แต่การช่วยเหลือ “นายใหญ่”ให้กลับสู่มาตุภูมิ ยังดูเหมือนเป็นเรื่องรอง ลดทอนความสำคัญลงไป หลังจากทีมงานไทยคู่ฟ้า และทีมงานเจ๊ด. ผงาดง้ำค้ำรัฐบาล หลงระเริงอำนาจย่ามใจ เสกเด็กในคาถามายึดกุมอำนาจรัฐบาล ยึดกุมอำนาจการบริหารประเทศ กลายเป็นบริษัทจำกัดรอบสอง
แม้แต่พี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดียังมองด้วยความกังวลใจ เพราะไม่เพียงแต่ตัวเองจะไม่ได้กลับบ้าน ซ้ำยังเพิ่มความอันตราย เพิ่มขวากหนามในการกลับประเทศ กลายเป็นเชื้อร้ายที่ยังไม่ตายกลายพันธุ์เป็นไวรัสตัวใหม่ที่บ่อนเซาะประเทศไทย กลายเป็นสิ่งจัญไรที่คนไทยมองเห็นแล้วว่าไม่ต่างจาก "ระบอบทักษิณ" เฉกเช่นประวัติศาสตร์เดิมๆ
**ภาพรวมการปรับครม.ครั้งนี้สะท้อนนัยยะของความสามานย์ เล่นแร่แปรธาตุในวงศ์วานว่านเครือ พิษร้ายยังฝังอยู่ด้วยความละโมบ โสมม เชื้อร้ายที่เคยบาดแทงหัวใจคนไทยหลายกลุ่มยังไม่ตายจากไปง่ายๆ...