xs
xsm
sm
md
lg

บทสรุปแกนนำเสื้อแดง หมารับใช้ตระกูลชินวัตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

ยังมีควันหลงคุกรุ่นเป็นแรงกระเพื่อมภายในพรรคเพื่อไทยต่อเนื่อง หลังจากการปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ที่ไร้เงาของแกนนำแดงตัวพ่ออย่าง “คางคกตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแดงพันธุ์ถ่อย

สารพัดแกนนำหลัก แกนนำรอง คนเสื้อแดง ออกมาฟาดงวงฟาดงาเป็นพัลวัน ต้นสายปลายเหตุหนีไม่พ้นเรื่องอกหักผิดหวังพลาดเก้าอี้ เพราะตั้งความหวังไว้นานแล้วว่าอย่างไรงวดนี้ “จตุพร” ไม่พลาด แต่แล้วก็วืดอีกจนได้

ปรับ ครม.ทีไรมีชื่อ “คางคกตู่” จะได้ขึ้นวอทุกคราครั้งไป แต่ก็แห้วตลอด สุดท้ายทำอะไรไม่ได้นอกจากกลืนเลือดเหมือนเคย วันนี้กลืนเข้าเต็มท้องจนอยากจะสำรอกออกมา

ไอ้ครั้นจะทำอะไรห่ามๆ ทุบหม้อข้าวตัวเองก็ไม่ได้อีก เพราะคนเสื้อแดงต้องอิงแอบกับพรรคเพื่อไทยอยู่ดี จะหนีหน้าไปไหนก็ไม่ได้ เพราะถ้าแยกกันเมื่อไหร่ก็ตายอย่างเขียด

“คางคกตู่” ออกอาการน้อยใจชัดเจน ประกาศไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ที่จะตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทยเพื่อปลอบใจ “จตุพร” บอกปัดเท่ๆ ไม่เอาขอทำหน้าที่แกนนำแดงเผาเมืองอย่างเดียวดีกว่า.. เชื่อว่าหลังจากนี้คงต้องมีการไปเคลียร์ใจกันใต้โต๊ะอีก!!

ชั่วโมงนี้คนเสื้อแดงกลับมาเหลือบดูสารรูปตัวเอง สำรวจตรวจตราแล้วน่าสมเพช เหมือนเป็นเพียงเครื่องมือที่ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี และเครือข่ายคนในตระกูล หลอกใช้ไปวันๆ อุ้มชูยกยอก็ต่อเมื่อคราวจำเป็นต้องใช้งาน แต่เมื่อเสร็จศึกก็ฆ่าควายถึก ไม่มีความจำเป็นต้องมาไถนาอีกต่อไป เมื่อถึงเวลาตกรางวัลแบ่งสมบัติ มักเป็นพวกท้ายๆ ที่ถูกนึกถึง นั่นเพราะ ทักษิณและคนใกล้ชิด ประเมินคนเสื้อแดงแบบด้อยค่ามาแต่ไหนแต่ไร

โดยเฉพาะเครือข่ายนักการเมืองใกล้ตัวนายใหญ่ นายหญิง นายน้อยทั้งหลาย มองคนเสื้อแดงเป็นพวก “เด็กเหลือขอ-จรจัด” ไม่มีที่ไป ไม่มีที่ยืนทางการเมือง หากไม่มีสถานการณ์ขัดแย้งของบ้านเมือง คนเหล่านี้ไม่มีโอกาสโผล่หัวมามีบทบาท ลูกบ้าของคนเหล่านี้สามารถนำมาลุยกับฝ่ายตรงข้ามได้ โดยที่ตัวเองไม่ต้องเปลืองตัว จึงหยิบจับมาใช้งาน!!

จะสู้กันหนักแค่ไหนก็ต้องลุย ใครก็เจ็บ จะตายบ้าง ก็ช่างมัน เป็นไพร่ราบ ทหารเลวในทัพหน้า ย่อมต้องมีการสูญเสียบ้างเป็นธรรมดา เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะของขุนพลทัพหลังที่คอยสั่งการ เมื่อสามารถตีเมืองเอาชัยชนะได้แล้ว ขุนพลจอมบงการก็ถึงเวลาแบ่งสมบัติ อำนาจ ลาภยศ ทหารเลวแนวหน้า ก็ได้เพียงเศษตะกอนแห่งอำนาจที่กระเด็นไปถึง

เหล่านี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง และเป็นยุทธศาสตร์ที่แกนนำเครือข่ายพรรคเพื่อไทยวางหมากและเดินมาตลอด มันเป็นคำตอบที่ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงการไม่ให้ค่า ไม่ให้ราคา คนเสื้อแดงก็ได้แต่ต้องยอมรับมันด้วยความเจ็บปวด

แม้จะพยายามยกระดับตัวเองขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่ได้มากมายอะไรนัก เหมือนตำรวจชั้นประทวน ที่พยายามดันตัวเองขึ้นเป็นสัญญาบัตร แต่สุดท้ายก็ “ตายนายดาบ”

ยิ่งนับวันบทบาท ที่ยืนของคนเสื้อแดงยิ่งแคบลง เพราะเหมือนจะพูดกันชัดเจนเป็นการภายในตั้งแต่ต้นว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของคนเสื้อแดงมีได้เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งตอนนี้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำสไตล์ตลกโปฮา นั่งทับอยู่ เหมือนมีการส่งซิกให้ไปเคลียร์กันภายในให้ลงตัวว่าจะเอาใครมานั่งให้ชัดเจน ไม่เคยมีพื้นที่ให้คนเสื้อแดงมากเกินกว่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนราคาของเสื้อแดงว่ามีค่าแค่ไหน

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวนินทากันให้แซ่ดว่า “ตู่-เต้น” ขัดแย้ง แก่งแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันจนระหองระแหง ครั้งที่ ณัฐวุฒิ ปาดหน้าเค้ก ซิวเก้าอี้ก่อนรุ่นพี่ ก็ด้วยวิธีการหักเหลี่ยม หักหลัง เดินทางไปพบนายใหญ่ถึงต่างแดนเพื่อขอเก้าอี้ โดยที่ “คางคกตู่” ไม่รู้ สารพัดสารพันจะเอ่ยอ้างเพ็ดทูลด้วยลีลาลิ้นสองแฉก สามแฉก ไม่รู้ว่าแอบทิ่มหลังแกนนำรุ่นพี่อย่างเนียนๆ ด้วยหรือไม่ ใครจะรู้!!

เรื่องคนเสื้อแดง ต้องอาศัยอยู่ในบ้านทรายทอง ของตระกูลชินวัตร เยี่ยงคนรับใช้ ถูกตอกย้ำหัวหมุดด้วยการปรับโครงสร้างพรรค เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงได้รับคำตอบว่า ไม่ได้อยู่ในสายตา ด้อยค่า และหวาดระแวง...

หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เป็นไปตามที่คาดหมายไม่ผิดเพี้ยน จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ กับภูมิธรรม เวชชยชัย แต่คณะกรรมการบริหารคนอื่นๆ ก็ไม่ปรากฏรายชื่อของเครือข่ายคนเสื้อแดงแต่อย่างใด

สะท้อนชัด คนเสื้อแดงไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปอยู่ในศูนย์กลางอำนาจ ไม่มีสิทธิ์มีส่วนร่วมจริงจังในยุทธศาสตร์บัญชาการ เป็นเพียงหน่วยปฏิบัติ เป็นระดับปลายแถวที่คอยรับคำสั่งอีกทอดหนึ่ง หรือนัยหนึ่งก็ดูเหมือนจะถูกมองด้วยสายตาหวาดระแวง หวั่นเกรงว่าจะทำอะไรเป็นผลเสียหายต่อพรรคจนถึงขั้นถูกยุบอีก

ส่วนหนึ่งนั้นคงเสื้อแดงก็คงต้องย้อนมองดูวีรเวรของตัวเองเช่นเดียวกัน เพราะพฤติกรรมในอดีตล้วนสามานย์ จนหลายภาคส่วนในสังคมประเทศชาติ ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ความเคลื่อนไหว การปลุกระดม ระห่ำร้ายกาจ ไม่เคยฟังเสียงทัดทานจากอารยะชน สุดท้ายบ้านเมืองก็ลุกเป็นไฟ นำมาแต่ความขัดแย้ง

ดังนั้น “ทักษิณ” และ เครือข่าย ย่อมไม่กล้าเสี่ยง นำวัตถุอันตรายมาไว้ในส่วนที่จะส่งผลกระทบกระเทือนมายังกองกำลังหลัก ต้องกันไว้ในส่วนของทหารไพร่ชั้นเลวเหมือนเคย!!

อาการน้อยเนื้อต่ำใจของคนเสื้อแดง ถูกแสดงออกมาผ่านการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่ออยู่เนืองๆ บางรายถึงขั้นน้ำตาตกใน ออกมาพูดขู่นั่นขู่นี่ จะตั้งพรรคใหม่ จะตีจากพรรคเพื่อไทย จะดึงมวลชนออกไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพียงคำขู่ที่ทำไม่ได้ และไม่มีทางทำได้ นอกจากกลืนเลือดจำทนและทนอยู่ อย่างมากที่สุดก็ได้เพียงทวงถามคำตอบจาก “ยิ่งลักษณ์” และ “ทักษิณ” แต่ถึงจะตอบอย่างไรมาก็ต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม

คนเสื้อแดงเองลึกๆ แล้วก็สำเหนียกดีว่า ตัวเองเกิดแต่มาจากไหน เกิดแต่ตม ไม่มีความขัดแย้ง ย่อมไม่มีตัวตน หากสถานการณ์การเมืองเป็นปกติ ก็เป็นได้เพียงนักเคลื่อนไหว รับจ็อบการเมือง หาเศษหาเลย กับนักการเมือง วันนี้แม้จะใหญ่ขึ้นมาแต่ก็เหมือนใหญ่แต่ในแง่มวลชน แต่ในกลุ่มศูนย์อำนาจการเมือง ยังเป็นได้เพียงลูกกระจ๊อก

เป็นหมารับใช้เหมือนเคย ถึงจะมีน้อยใจบ้าง งอนบ้าง แต่หนีไปไหนไม่ได้ เพราะถ้าระหกระเหินออกไปก็เป็นได้เพียงหมาจรจัด สูงสุดคืนสู่สามัญ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น