วานนี้ (25ต.ค.) ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราฎร พร้อมด้วย นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมกมธ.ว่า ที่ประชุมได้เชิญตัวแทนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการเจ้าของคดีที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 53 ทั้งหมดเข้าชี้แจง กรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมจำนวน 6 ศพ ที่วัดปทุมวนาราม
โดยในกรณีของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาพยาบาล นั้น ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้มีการจำลองวิถีกระสุน ซึ่งผลจากการทดสอบนั้นพบว่า จากสำนวนการสอบสวนของทางดีเอสไอ ที่ระบุว่า กระสุนที่ใช้สังหาร น.ส.กมลเกด ถูกยิงมาจากรางรถไฟฟ้านั้นไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
ทั้งนี้กมธ.ยังได้พบข้อพิรุธว่า เมื่อผลของทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาเช่นนี้ เหตุใดทางดีเอสไอ จึงไม่นำผลสรุปไปรวมกับสำนวนที่มีการส่งฟ้องไปยังศาล ขณะที่ในกรณีของ นายวสันต์ ภู่ทอง ที่เสียชีวิตที่บริเวณสี่แยกคอกวัวนั้น ทางดีเอสไอ ก็ยังไม่ได้ยืนยันว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ทางตำรวจนครบาลกลับระบุว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และส่งเรื่องต่อไปยังดีเอสไอ เพื่อส่งศาลศาลตาม ป.วิอาญา มาตรา 150 ดังนั้นทางกมธ.จึงเห็นว่า การใช้ดุลพินิจของทางดีเอสไอ เป็นการใช้ดุลพินิจที่ผิดพลาด
ด้านนายศิริโชค กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ได้ส่งหนังสือผลสรุปการเสียชีวิตของ น.ส.กมลเกด ไปให้กับทางดีเอสไอแล้ว แต่ทางดีเอสไอ กลับอ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ จึงไม่ได้นำมาประกอบเพิ่มเติมในสำนวนที่ส่งศาล ทั้งนี้ตามกฎหมายขณะนี้เรื่องอยู่ที่ศาลแล้วคงไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานเข้าไปเพิ่มเติมได้ ดังนั้นหลังจากนี้คงต้องไปดูว่าจะสามารถใช้ช่องทางอื่นได้อีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในการทดสอบหาความจริงของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาตร์ แต่มีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าไม่เป็นกลางจึงไม่เป็นความจริง
**ไม่ตอบเรื่องชายชุดดำมาจากราบ 11
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่ามีการบรรทุกบุคคลที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ อยู่ในรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าออกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย. 53 ว่า จะไปรู้กับเขาได้อย่างไร เรื่องนี้ขอให้ไปถามนายจตุพร อย่าให้ตนไปชนกับเขาเลย ไปถามนายจตุพรจะดีกว่า
เมื่อถามว่าในฐานะที่ดูแลกองทัพจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว จะให้ตนไปยืนยันว่ามีชายชุดดำมีหรือไม่นั้น ก็มีทั้งนั้น คนนู้นว่าแบบนี้ คนนี้ว่าแบบนั้น ดังนั้นทุกอย่างต้องปล่อยให้ศาล และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการจะดีกว่า ให้ตนไปพูดแบบนั้นแบบนี้ตนจะทราบได้อย่างไร
เมื่อถามว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำเพื่อต้องการล้มล้างรัฐบาล พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็ปล่อยเขาไป คนที่พูดนั้น สื่อเชื่อหรือไม่ ถ้าเชื่อก็ไปเขียนตาม เมื่อถามอีกว่าทางพรรคเพื่อไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำเพื่อล้มรัฐบาล พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ขอให้ไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม ตนไม่ขอวิจารณ์ เมื่อไม่รู้ ก็อย่าให้ไปวิจารณ์ อย่าไปพูดเก่ง
โดยในกรณีของ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาพยาบาล นั้น ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้มีการจำลองวิถีกระสุน ซึ่งผลจากการทดสอบนั้นพบว่า จากสำนวนการสอบสวนของทางดีเอสไอ ที่ระบุว่า กระสุนที่ใช้สังหาร น.ส.กมลเกด ถูกยิงมาจากรางรถไฟฟ้านั้นไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
ทั้งนี้กมธ.ยังได้พบข้อพิรุธว่า เมื่อผลของทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาเช่นนี้ เหตุใดทางดีเอสไอ จึงไม่นำผลสรุปไปรวมกับสำนวนที่มีการส่งฟ้องไปยังศาล ขณะที่ในกรณีของ นายวสันต์ ภู่ทอง ที่เสียชีวิตที่บริเวณสี่แยกคอกวัวนั้น ทางดีเอสไอ ก็ยังไม่ได้ยืนยันว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ทางตำรวจนครบาลกลับระบุว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และส่งเรื่องต่อไปยังดีเอสไอ เพื่อส่งศาลศาลตาม ป.วิอาญา มาตรา 150 ดังนั้นทางกมธ.จึงเห็นว่า การใช้ดุลพินิจของทางดีเอสไอ เป็นการใช้ดุลพินิจที่ผิดพลาด
ด้านนายศิริโชค กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ได้ส่งหนังสือผลสรุปการเสียชีวิตของ น.ส.กมลเกด ไปให้กับทางดีเอสไอแล้ว แต่ทางดีเอสไอ กลับอ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ จึงไม่ได้นำมาประกอบเพิ่มเติมในสำนวนที่ส่งศาล ทั้งนี้ตามกฎหมายขณะนี้เรื่องอยู่ที่ศาลแล้วคงไม่สามารถยื่นเอกสารหลักฐานเข้าไปเพิ่มเติมได้ ดังนั้นหลังจากนี้คงต้องไปดูว่าจะสามารถใช้ช่องทางอื่นได้อีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในการทดสอบหาความจริงของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาตร์ แต่มีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่าไม่เป็นกลางจึงไม่เป็นความจริง
**ไม่ตอบเรื่องชายชุดดำมาจากราบ 11
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่ามีการบรรทุกบุคคลที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ อยู่ในรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าออกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย. 53 ว่า จะไปรู้กับเขาได้อย่างไร เรื่องนี้ขอให้ไปถามนายจตุพร อย่าให้ตนไปชนกับเขาเลย ไปถามนายจตุพรจะดีกว่า
เมื่อถามว่าในฐานะที่ดูแลกองทัพจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว จะให้ตนไปยืนยันว่ามีชายชุดดำมีหรือไม่นั้น ก็มีทั้งนั้น คนนู้นว่าแบบนี้ คนนี้ว่าแบบนั้น ดังนั้นทุกอย่างต้องปล่อยให้ศาล และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการจะดีกว่า ให้ตนไปพูดแบบนั้นแบบนี้ตนจะทราบได้อย่างไร
เมื่อถามว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำเพื่อต้องการล้มล้างรัฐบาล พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็ปล่อยเขาไป คนที่พูดนั้น สื่อเชื่อหรือไม่ ถ้าเชื่อก็ไปเขียนตาม เมื่อถามอีกว่าทางพรรคเพื่อไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่ามีการโยงเรื่องชายชุดดำเพื่อล้มรัฐบาล พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ขอให้ไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม ตนไม่ขอวิจารณ์ เมื่อไม่รู้ ก็อย่าให้ไปวิจารณ์ อย่าไปพูดเก่ง