xs
xsm
sm
md
lg

ครม.สมุยทุ่ม4หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (22 ต.ค.55) น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจรว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน (กรอ.) เสนอ โดยพิจารณาข้อเสนอแผนงานที่เสนอโดยกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย รวม 4 จังหวัด ซึ่งเห็นชอบในแผนงานที่มีความพร้อม 27 โครงการ วงเงิน 517.34 ล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงการกลุ่มจังหวัด (คัสเตอร์) 4โครงการ วงเงิน 102.32 ล้านบาทคือ
1.โครงการศึกษาความเป็นไปได้และการสำรวจออกแบบเบื้องต้นท่าอากาศยานนานาชาติดอนสัก กรอบวงเงิน 5 ล้านบาท ซึ่งครม.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาแนวทางพัฒนาระบบโลจิสติกส์สนับสนุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพงัน และหมู่เกาะอ่างทอง 2.โครงการปรับปรุงทางหลวงย่านชุมชน (บริเวณวัดประดู่) กรอบวงเงิน 32.32 ล้านบาท โดยให้แขวงการทางสุราษฎร์ธานี เป็นผู้รับผิดชอบ 3.โครงการก่อสร้างทางคู่ขนานทางหลวงสายเอเชีย (สาย41) เขตชุมชน วงเงิน 30 ล้านบาท โดยให้แขวงการทางพัทลุง เป็นผู้รับผิดชอบ 4.โครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตพื้นที่หลัก (Core Zone) และเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) เพื่อนำเสนอไปสู่การผลักดันให้พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชสู่มรดกโลก วงเงิน 35ล้านบาท โดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้รับผิดชอบ
น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า เมื่อแยกโครงการเป็นรายจังหวัด ประกอบไปด้วย 1.จ.สุราษฏร์ธานี 9 โครงการ วงเงินรวม 112.28 ล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลเกาะเต่า 13.2 ล้านบาท โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ท่องเที่ยวหาดเฉวง อ.เกาะสมุย วงเงินรวม 11.98 ล้านบาท 2.จ.ชุมพร 5 โครงการ วงเงินรวม 102.61 ล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและภูมิทัศน์ โครงการศูนย์เรียนรู้โครงการพัฒนาพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ โครงการขุดลอกแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการศูนย์การเรียนรู้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ วงเงิน 57.61ล้านบาท
3.จ.นครศรีธรรมราช 6โครงการ วงเงิน 100.12ล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชนพัฒนาแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จำนวน 14.30 ล้านบาท โครงการวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นมรดกโลก จำนวน 10 ล้านบาท 4.จ.พัทลุง 3โครงการ วงเงินรวม100ล้านบาท อาทิ โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการระบายน้ำ จำนวน 49.05 ล้านบาท โครงการขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำ จำนวน37.52 ล้านบาท
น.ส.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติเห็นชอบหลักการกรอบข้อเสนอแผนงานและโครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ทั้ง 4 จังหวัด รวม 96 โครงการ วงเงินรวม 40,200.99 ล้านบาท โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปศึกษาหาความเหมาะสม และดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามแต่กรณี เพื่อให้สำนักงบประมาณใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปีตามลำดับความสำคัญของแผนงานโครงการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ครม.ยังมีข้อสังเกตว่าถ้าโครงการใดเกี่ยวข้องกันต้องให้บูรณาการร่วมกัน อาทิ โครงการของวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ซึ่งจะดำเนินการให้เป็นมรดกโลก โดยที่การบูรณะจะมอบให้กระทรวงมหาดไทย การดำเนินการเสนอเป็นมรดกโลกเป็นกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรม การป้องกันน้ำท่วมมอบให้กระทรวงมหาดไทย โดยจะทำงานร่วมกันและส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอ ครม.อีกครั้งหนึ่ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่านอกเหนือจากงบประมาณเร่งด่วนที่แต่ละจังหวัดขอแล้ว ยัง มีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ต้องไปศึกษาเพิ่ม โดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีความต้องการด้านสาธารณูปโภคที่ต้องเชื่อมโยงกัน และอีกส่วนคือแหล่งน้ำจืดเพื่อการบริโภค ซึ่งในการแก้ไขปัญหานั้น จะแก้ปัญหาทั้งเรื่องน้ำจืด และการบริหารจัดการน้ำ
โดยได้สั่งการให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์น้ำและอุทกภัย (กบอ.) เข้าไปทำงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค และกรมชลประทาน เพื่อแก้ปัญหาให้ ส่วนเรื่องถนนต่างๆ ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ไปดูเรื่องความเชื่อมต่อกันของการคมนาคมขนส่ง เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยว และดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยได้ นอกจากนี้ก็ให้ศึกษาการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมระหว่างฝั่งอ่าวไทยกับฝั่งอันดามัน
ส่วนการศึกษาโครงการก่อสร้างสนามบินดอนสัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบงบประมาณให้มีการศึกษาเส้นทางการคมนาคมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ และทางเรือ เพื่อให้การเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมในกลุ่มจังหวัดฝั่งอ่าวไทยเชื่อมโยงกันได้ และสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ส่วนผลการศึกษาจะเป็นอย่างไร ต้องรอฟังผลสรุปจากกระทรวงคมนาคมที่ไปศึกษาร่วมกับพื้นที่
เมื่อถามว่ากรอบวงเงินที่ครม.ได้อนุมัติเพื่อระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆให้กับพื้นที่ครั้งนี้วงเงินเท่าไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช. ) ชี้แจงตัวเลขดีกว่า เพราะมีกรอบวงเงินระยะยาวด้วย

**ลิงดูปู บอกนอนหลับสบาย
ช่วงเช้าผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่7 ที่มหาวิทยาลัย การท่องเที่ยวนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี โดยทันทีที่รถขบวนมาถึง นายกฯได้สั่งให้คนขับรถ จอดรถแวะทักทายกับกลุ่มประชาชน และคนเสื้อแดง
จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นประธานพิธีร่วมปล่อยแตนเบียน เพื่อเป็นการเปิดตัวโครงการต้นแบบการทดสอบเทคโนโลยีการกำจัดแมลงศัตรูมะพร้าวอย่างยั่งยืน
ขณะที่ตัวแทนภาคีเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คัดค้านการขุดเจาะน้ำมัน อ.เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนโครงการขุดเจาะสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอน รวมถึงโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่รอบๆ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เนื่องจากเห็นว่า จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ความมั่นคงทางอาหาร และความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งการดำเนินโครงการยังขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ต่อมาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปที่เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นำเรือชักพระ มาประชาสัมพันธ์ โครงการสืบสานประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว จ.สุราษฎร์ธานี ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ต.ค.ถึง วันที่ 4 พ.ย.นี้
หลังจากนั้นนายกฯ ได้แวะดูการแสดงของลิงกัง ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะสมุย ที่มีชูป้ายให้การต้อนรับคณะรัฐมนตรี โดยนายกฯได้จับมือลิง เล่นกับลิงอย่างมีความสุข
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า นอนหลับดี แต่เหนื่อย
เวลา 14.00 น. ณ ศาลาประชาคมพรุเฉวง หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นางสาวยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะ เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุปโครงการจัดการ “น้ำ”อำเภอเกาะสมุยแบบบูรณาการและยั่งยืน (ขยายผลครั้งที่ 1) พร้อมเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างอาคารประตูระบายน้ำ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างอาคารประตูระบายน้ำ ก่อนออกเดินทางจากอาคารประตูระบายน้ำ เกาะสมุย ไปท่าอากาศยานนานาชาติเกาะสมุย เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

** “เต้น” หน้าบานคนใต้รับอบอุ่น
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่ ว่า ตนคิดว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจ ที่นายกรัฐมนตรี และ ครม.ลงพื้นที่เพื่อติดตามโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชน และได้มีการอนุมัติในหลายโครงการ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้นำท้องถิ่นสะท้อนปัญหาผ่านรัฐมนตรี โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน ตนคิดว่าเป็นบรรยากาศการทำงานที่ประชาชนทั่วประเทศต้องการ และเชื่อว่าประชาชนในแต่ละจังหวัด ก็รอคอยให้นายกฯและ ครม.ไปเยือน เพื่อจัดการประชุม ครม.สัญจร

**ชวนกรีด “อย่าเลือกปฏิบัติ”
อีกด้านนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.สุราษฎร์ธานีภายหลังจากที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเสวนาทางวิชาการ"นโยบายภาษาแห่งชาติ" ซึ่งจัดโดยราชบัณฑิตยสถาน เกี่ยวกับความคาดหวังจากการประชุม ครม.สัญจรที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีของรัฐบาลชุดนี้ว่า สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ผลักดันต่อมีหลายโครงการที่เกิดขึ้นจากสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่การคมนาคมทั่วประเทศที่ส่วนใหญ่ทำมาตั้งแต่สมัยพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการสานต่อตั้งแต่สมัยรัฐบาลยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนมาถึงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" ซึ่งภาคใต้เสียโอกาสมากที่สุด โดยเฉพาะถนนสายเอเชียหรือสายเพชรเกษม สายล่องใต้ตลอดสาย ที่หนักสุดคือ จ.สุราษฎร์ธานี ,นครศรีธรรมราชที่ชำรุดอย่างหนักแต่ยังไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไข จะเห็นความแตกต่างกันมากหากเปรียบเทียบกับภาคอื่น ๆเพราะพื้นที่ภาคใต้ไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งที่ภาคใต้จ่ายภาษีมากที่สุด แต่กลับเสียโอกาส
นายชวน กล่าวอีกว่าส่วนโครงการอื่น ๆไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะภาคใต้เสียโอกาสมานานแล้ว ขอย้ำว่า"อย่าเลือกปฏิบัติ"
ด้านนายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.จ.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประชุม ครม.ครั้งนี้ จ.สุราษฎร์ธานียินดีต้อนรับให้สมกับความเป็นเมืองคนดีทุกอย่าง"จะเห็นได้ว่าไม่มีการชุมนุมประท้วง แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนดี ทั้งที่เกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม ไม่ได้พึงพอใจกับรัฐบาลชุดนี้มากนัก "ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลทำตามที่พูด ที่ห่วงคือรับปากแล้วไม่ทำเหมือนกับสมัย"ทัวร์นกขมิ้น"ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็เดินทางมา จ.สุราษฎร์ธานี รับปากจะทำหลายโครงการแต่ไม่ได้ทำ
การประชุมครั้งนี้ก็เช่นกันมองว่าไม่แตกต่างจากการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต มติที่ประชุมผ่านแล้วแต่กลับเรียกคืนอีก ตอนนี้สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุดคือปรับปรุงเส้นทางการคมนาคมเส้นทางสายใต้ทั้งสายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักช่วงที่ผ่านมา "อย่างไรก็ตามยังมีความรู้สึกดีๆ อยู่บ้างตรงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ความสนใจบึงขุนทะเล มาเยี่ยม มาดู ที่สำคัญที่เกาะสมุยอยากให้แก้ปัญหาน้ำท่วมเกาะสมุย การกำจัดขยะ "นายธานี กล่าว.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตำหนิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการเดินทาง ครม.สัญจรภาคใต้ ว่า สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว จากการคุมเข้มรักษาความปลอดภัยที่มากเป็นพิเศษ ส่งผลให้การเดินเรือของนักท่องเที่ยว ล่าช้าไป 6 - 8 ชั่วโมง รวมถึงการเดินเรือทุกประเภท ก็ต้องหยุดชะงักไปด้วย ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม ในการยืนภ่ายรูปบนฐานองค์เจดีย์ ว่าสร้างความโกรธแค้นให้กับคนในพื้นที่ ครม.สัญจรในครั้งนี้ โครงการต่างๆ คงไม่แตกต่างกับ ครม. ฝั่งอันดามัน ที่มีปัญหา และคาดว่าจะไม่ช่วยให้ประชาชนในภาคใต้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่าไรนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น