จับโกหกข้าวจีทูจี สถิติส่งออกตอก “พาณิชย์”หน้าหงาย แฉข้าวจีทูจี 6 สัญญา 7.32 ล้านตัน ที่”บุญทรง”บอกมีอินโดนีเซีย จีน โกตดิวัวร์ บังคลเทศ เป็นผู้ซื้อ ตัวเลขถึงก.ย. เฉพาะ 3 ประเทศ ส่งออกไปได้แค่ 5.8 แสนตัน ฉงน!! ข้าวอีกเกือบ 1 ล้านตัน ล่องหนหายไปไหน วงการค้าข้าวแฉ ถูกนำมาขายวนเวียนอยู่ในประเทศ ด้าน ปชป.ขู่ซักฟอกรัฐบาลปู เย้ยแค่หนังตัวอย่างยังเต้นเป็นเจ้าเข้า " เฉลิม " ยัน “วรพงษ์” ตรวจโรงสีข้าวยังไม่พบการโกง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบสถิติการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 2 ต.ค.2555 มียอดการส่งออกรวมทั้งสิ้น 5.067 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้ ได้มีการตรวจสอบประเทศที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าเป็นประเทศที่ไทยทำสัญญาซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย จีน โกตดิวัวร์ และบังคลาเทศ 6 สัญญา จำนวน 7.32 ล้านตัน กลับพบว่า สถิติการส่งออกข้าวไทยไปยัง 4 ประเทศข้างต้น ไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก และบางประเทศแทบจะไม่มีการส่งออกเลย
โดยการส่งออกไปยังประเทศที่ไทยขายข้าวจีทูจี ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แยกเป็นการส่งออกไปยังโกตดิวัวร์ 2.07 แสนตัน อินโดนีเซียกว่า 3 แสนตัน จีน 7.68 หมื่นตัน และบังคลาเทศ ไม่ถึง 100 ตัน ซึ่งรวมข้าวที่ไทยส่งออกไปยังประเทศคู่สัญญาจีทูจีได้รวมทั้งสิ้นแค่ 5.8 แสนตันเท่านั้น
ทั้งนี้ นายบุญทรงได้ระบุครั้งล่าสุดในการชี้แจงเรื่องการขายข้าวจีทูจี เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2555 ว่า การส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.2555 เฉพาะข้าวจีทูจีได้ทำการส่งออกไปแล้ว 1.46 ล้านตัน คิดเป็น 20% ของปริมาณข้าวที่ได้ทำสัญญาจีทูจี และคาดว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) จะส่งออกได้อีก 3 แสนตัน รวมแล้วจะส่งออกข้าวจีทูจีได้ประมาณ 1.8-1.9 ล้านตันในปี 2555 ส่วนข้าวที่เหลือ 5.56 ล้านตัน จะส่งมอบได้หมดในปี 2556
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำตัวเลขการส่งออกข้าวจีทูจีที่ระบุว่าได้ส่งออกไปแล้ว 1.46 ล้านตัน มาหักลบกับข้าวที่ได้มีการส่งออกไปยังประเทศที่มีชื่อขายจีทูจีซึ่งเป็นตัวเลขจริงที่มีเพียง 5.8 แสนตัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ข้าวส่วนที่เหลือกว่า 8.8 แสนตัน หายไปไหน และมีการส่งออกจริงหรือไม่ เพราะสถิติการส่งออกก็ระบุออกมาชัดเจนว่าไม่มีตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเลย และเป็นไปไม่ได้ที่หลังจากวันที่ 2 ต.ค.จนถึงวันนี้ (22 ต.ค.) หรือระยะเวลาเพียงแค่ 20 วัน จะส่งออกได้สูงถึง 8 แสนกว่าตัน
แหล่งข่าวจากวงการส่งออกข้าว กล่าวว่า จากสถิติการส่งออกข้าวที่เห็น จึงเป็นที่ชัดเจนว่า ข้าวจีทูจีไม่มีการขายจริง แต่เป็นการอ้างชื่อจีทูจีเพื่อขายข้าวในราคาถูกให้กับเอกชนบางรายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล เพราะตัวเลขการส่งออกไปอินโดนีเซีย 3 แสนตัน ก็เป็นการซื้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ส่วนโกตดิวัวร์ ก็เป็นการซื้อขายปกติ ขณะที่จีน ที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าเป็นรายใหญ่ที่ซื้อข้าวจีทูจีมากถึง 2 ล้านตัน และหลังๆ เหมือนจะยอมรับว่าเป็นรายใหญ่ที่สุด ก็นำเข้าข้าวไทยไปเพียงแค่ 7.68 หมื่นตันเท่านั้น ส่วนบังคลเทศ ซื้อไปน้อยมากเพียงแค่ 58 ตัน
“ในวงการค้าขาย เคยตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้กันไปแล้ว และเคยบอกว่า มีผู้ส่งออกบางรายมาเร่ขายข้าวให้กับผู้ส่งออกที่ต้องการข้าว ใครอยากได้ข้าวก็มาติดต่อ หรือโรงสีที่อยากได้ข้าวเพื่อนำไปใส่คืนในโกดังหลังจากที่ตัวเองเอาข้าวออกไปขาย ก็ติดต่อได้ หรืออยากได้ข้าวเพื่อนำไปเวียนเทียนเข้าโครงการจำนำ ก็จะขายให้ ซึ่งวันนี้ ที่เคยพูดไว้ ส่อแววเป็นจริง เพราะข้าวตั้ง 8.8 แสนตัน หรือเกือบ 1 ล้านตัน มันไม่ได้นำไปส่งออก แต่มันวนเวียนอยู่ในตลาดในประเทศ”แหล่งข่าวกล่าว
***ปชป.ขู่ซักฟอกรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
วานนี้ (21 ต.ค.) ที่โรงแรมบั๊ดดี้ อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สั่งการให้ พล.ต.อ.วรพงษ์
ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ตรวจสอบโกดังเก็บข้าวเพื่อตรวจจับการทุจริต ว่า ตนสั่งการไปแล้วให้ดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 800 กว่าแห่ง ซึ่งขณะนี้มีรายงานกลับมาว่าตรวจสอบไปแล้ว 440 โกดัง โดยยังไม่พบว่ามีการทุจริต ไม่มีสต๊อกลม และไม่พบว่ามีการเบียดบังของราชการไปเป็นของตัวเอง มีแต่ที่อ.จอหอ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่ามีข้าวหายไป 10,000 กว่าตัน และเมื่อเจ้าหน้าที่อคส.แจ้งตำรวจก็มีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว และที่เหลืออีก 270 โกดัง ตนก็สั่งให้ตรวจทั้งหมด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีท้าทายให้พรระประชาธิปัตย์นำเรื่องจำนำข้าวเข้าอภิปรายไม่ไว้วางใจจะได้น็อกกลางสภานั้น ว่า ขอให้ร.ต.อ.เฉลิมใจเย็นๆ เพราะการที่ออกมาในรูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มหวั่นไหว และเริ่มเก็บอาการไม่อยู่แล้วจนต้องมีการไปตรวจสต๊อกข้าวกัน ซึ่งตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังให้ทีมหาข้อมูลเรื่องนี้ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเริ่มมีประชาชนและหน่วยงานรัฐให้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพราะคนเริ่มไม่เห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบสถิติการส่งออกข้าวไทยไปต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 2 ต.ค.2555 มียอดการส่งออกรวมทั้งสิ้น 5.067 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้ ได้มีการตรวจสอบประเทศที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าเป็นประเทศที่ไทยทำสัญญาซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย จีน โกตดิวัวร์ และบังคลาเทศ 6 สัญญา จำนวน 7.32 ล้านตัน กลับพบว่า สถิติการส่งออกข้าวไทยไปยัง 4 ประเทศข้างต้น ไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก และบางประเทศแทบจะไม่มีการส่งออกเลย
โดยการส่งออกไปยังประเทศที่ไทยขายข้าวจีทูจี ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา แยกเป็นการส่งออกไปยังโกตดิวัวร์ 2.07 แสนตัน อินโดนีเซียกว่า 3 แสนตัน จีน 7.68 หมื่นตัน และบังคลาเทศ ไม่ถึง 100 ตัน ซึ่งรวมข้าวที่ไทยส่งออกไปยังประเทศคู่สัญญาจีทูจีได้รวมทั้งสิ้นแค่ 5.8 แสนตันเท่านั้น
ทั้งนี้ นายบุญทรงได้ระบุครั้งล่าสุดในการชี้แจงเรื่องการขายข้าวจีทูจี เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2555 ว่า การส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.2555 เฉพาะข้าวจีทูจีได้ทำการส่งออกไปแล้ว 1.46 ล้านตัน คิดเป็น 20% ของปริมาณข้าวที่ได้ทำสัญญาจีทูจี และคาดว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) จะส่งออกได้อีก 3 แสนตัน รวมแล้วจะส่งออกข้าวจีทูจีได้ประมาณ 1.8-1.9 ล้านตันในปี 2555 ส่วนข้าวที่เหลือ 5.56 ล้านตัน จะส่งมอบได้หมดในปี 2556
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำตัวเลขการส่งออกข้าวจีทูจีที่ระบุว่าได้ส่งออกไปแล้ว 1.46 ล้านตัน มาหักลบกับข้าวที่ได้มีการส่งออกไปยังประเทศที่มีชื่อขายจีทูจีซึ่งเป็นตัวเลขจริงที่มีเพียง 5.8 แสนตัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ข้าวส่วนที่เหลือกว่า 8.8 แสนตัน หายไปไหน และมีการส่งออกจริงหรือไม่ เพราะสถิติการส่งออกก็ระบุออกมาชัดเจนว่าไม่มีตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเลย และเป็นไปไม่ได้ที่หลังจากวันที่ 2 ต.ค.จนถึงวันนี้ (22 ต.ค.) หรือระยะเวลาเพียงแค่ 20 วัน จะส่งออกได้สูงถึง 8 แสนกว่าตัน
แหล่งข่าวจากวงการส่งออกข้าว กล่าวว่า จากสถิติการส่งออกข้าวที่เห็น จึงเป็นที่ชัดเจนว่า ข้าวจีทูจีไม่มีการขายจริง แต่เป็นการอ้างชื่อจีทูจีเพื่อขายข้าวในราคาถูกให้กับเอกชนบางรายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล เพราะตัวเลขการส่งออกไปอินโดนีเซีย 3 แสนตัน ก็เป็นการซื้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ส่วนโกตดิวัวร์ ก็เป็นการซื้อขายปกติ ขณะที่จีน ที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าเป็นรายใหญ่ที่ซื้อข้าวจีทูจีมากถึง 2 ล้านตัน และหลังๆ เหมือนจะยอมรับว่าเป็นรายใหญ่ที่สุด ก็นำเข้าข้าวไทยไปเพียงแค่ 7.68 หมื่นตันเท่านั้น ส่วนบังคลเทศ ซื้อไปน้อยมากเพียงแค่ 58 ตัน
“ในวงการค้าขาย เคยตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้กันไปแล้ว และเคยบอกว่า มีผู้ส่งออกบางรายมาเร่ขายข้าวให้กับผู้ส่งออกที่ต้องการข้าว ใครอยากได้ข้าวก็มาติดต่อ หรือโรงสีที่อยากได้ข้าวเพื่อนำไปใส่คืนในโกดังหลังจากที่ตัวเองเอาข้าวออกไปขาย ก็ติดต่อได้ หรืออยากได้ข้าวเพื่อนำไปเวียนเทียนเข้าโครงการจำนำ ก็จะขายให้ ซึ่งวันนี้ ที่เคยพูดไว้ ส่อแววเป็นจริง เพราะข้าวตั้ง 8.8 แสนตัน หรือเกือบ 1 ล้านตัน มันไม่ได้นำไปส่งออก แต่มันวนเวียนอยู่ในตลาดในประเทศ”แหล่งข่าวกล่าว
***ปชป.ขู่ซักฟอกรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
วานนี้ (21 ต.ค.) ที่โรงแรมบั๊ดดี้ อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สั่งการให้ พล.ต.อ.วรพงษ์
ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.ตรวจสอบโกดังเก็บข้าวเพื่อตรวจจับการทุจริต ว่า ตนสั่งการไปแล้วให้ดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 800 กว่าแห่ง ซึ่งขณะนี้มีรายงานกลับมาว่าตรวจสอบไปแล้ว 440 โกดัง โดยยังไม่พบว่ามีการทุจริต ไม่มีสต๊อกลม และไม่พบว่ามีการเบียดบังของราชการไปเป็นของตัวเอง มีแต่ที่อ.จอหอ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่ามีข้าวหายไป 10,000 กว่าตัน และเมื่อเจ้าหน้าที่อคส.แจ้งตำรวจก็มีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว และที่เหลืออีก 270 โกดัง ตนก็สั่งให้ตรวจทั้งหมด
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีท้าทายให้พรระประชาธิปัตย์นำเรื่องจำนำข้าวเข้าอภิปรายไม่ไว้วางใจจะได้น็อกกลางสภานั้น ว่า ขอให้ร.ต.อ.เฉลิมใจเย็นๆ เพราะการที่ออกมาในรูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเริ่มหวั่นไหว และเริ่มเก็บอาการไม่อยู่แล้วจนต้องมีการไปตรวจสต๊อกข้าวกัน ซึ่งตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังให้ทีมหาข้อมูลเรื่องนี้ลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเริ่มมีประชาชนและหน่วยงานรัฐให้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพราะคนเริ่มไม่เห็นด้วย
