xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

"วิโรจน์" เต็งจ๋า เบี้ยตัวใหม่หัวหน้า พท. สเปกนี้นายใหญ่ชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เรียบร้อยกันไปแล้วสำหรับการแสดงปาหี่ในพรรคเพื่อไทย เมื่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 30 ต.ค. ส่วนเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยอ้างก็คือเห็นว่า พล.ต.ท.วิโรจน์เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีอาวุโสสูงสุดในรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 17 คน และมีความรู้ด้านข้อกฎหมาย เชี่ยวชาญเรื่องข้อบังคับ

ทั้งนี้ ต้องบอกว่าผลพวงจากการที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ต้องกระเด็นตกจากตำแหน่งเพราะพิษที่ดินอัลไพน์ ทำเอาพรรคเพื่อไทยปั่นป่วนไม่น้อยเหมือนกันไม่เว้นแต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ฝุ่นตลบมีแคนดิเดต หลายรายชื่อเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ที่ได้รับเลือกให้นั่งรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 หรือจะเป็น นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำคนสำคัญ สายตรงนช.ทักษิณ ชินวัตร ก็มีชื่อในแคนดิเตด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี หากจะกล่าวถึงนาทีนี้ เมื่อยังไม่ถึงเวลาเลือกหัวหน้าพรรคตัวจริงเสียจริง ก็คงต้องกล่าวถึง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
กันเสียก่อน เพราะถือว่าเป็นคนที่ นช.ทักษิณ ไว้วางใจในระดับหนึ่งให้ขึ้นมารักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขัดตาทัพกันไปก่อนอย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง

กล่าวสำหรับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ที่ได้รับเลือกให้นั่งรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกได้ว่าพลิกโผอยู่พอสมควรเช่นกัน เพราะไม่มีใครเชื่อว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จะเป็นตัวจริง และถ้าจะกล่าวถึงความเหมาะสมในมุมของ นช.ทักษิณ การที่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ก้าวขึ้นมารักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือเป็นความรอบคอบและเป็นการที่ไม่สุ่มเสี่ยงโดยที่ไม่มีหลักประกันอะไรในการเมือง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า นช.ทักษิณ เข็ดแขยงกับการถูกยุบพรรคอีกครั้งแค่ไหน เมื่อเข้าสมการนี้จึงต้องหาผู้ที่มีคุณสมบัติพร้อมรับความเสี่ยง เหมือนที่พรรคเลี่ยงไม่ตั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหัวหน้าพรรค ทั้งที่เป็นนายกรัฐมนตรี

นอกจากนั้น คุณสมบัติสำคัญลำดับแรกๆของคนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็คือ ต้องพร้อมรับคำสั่งทุกอย่างทุกเรื่องโดยไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อสงสัยจากทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรวมถึงพี่น้องเครือญาติในตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ด้วย

รวมไปถึง พล.ต.ท.วิโรจน์ ก็มีแบ็กกราวด์มาจากตำรวจ อีกด้วย เพราะที่ผ่านมาเราจะได้เห็น รมต.หลายคนล้วนแล้วแต่มาจากอาชีพตำรวจ หรือแม้แต่ผู้นำหน่วยงานสำคัญในวงการราชการ เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คือ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย เลขาฯ ศอ.บต.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

ที่สำคัญอีกอย่างก็คือต้องมีบุคลิกนักประสาน คือเข้าได้กับทุกกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์-กลุ่มกรุงเทพ มหานคร ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-กลุ่มภาคกลางของเผดิมชัย สะสมทรัพย์-กลุ่มเสี่ยเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล-กลุ่มยงยุทธ ติยะไพรัช -กลุ่ม 111 ไทยรักไทย รวมถึงที่ขาดไม่ได้ก็คือกลุ่ม นปช.-คนเสื้อแดง ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ก็ต้องสามารถไปมาหาสู่ รับฟังพูดคุยกันได้

และถ้าจะว่าไปแล้วสำหรับ พล.ต.ท.วิโรจน์ คุณสมบัติเหมือน ยงยุทธคือ เรียบง่ายไม่ต้องเด่นดัง มีบารมีระดับหนึ่ง หัวหน้าพรรคเป็นตำแหน่งที่รองรับการโดนเชือด อีกเรื่องหนึ่งที่ นช.ทักษิณ หวังไว้อีกอย่างก็คือ ต้องการได้บุคคลที่พูดจากับฝ่ายต่าง ๆ รู้เรื่อง เพราะยังหวังในเนื้อหาของ ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ซึ่งต้องได้รับการยินยอมพร้อมใจจากทุกฝ่าย ส่วนบรรดาผู้มีคุณสมบัติ ฮาร์ดคอร์ ที่เคลื่อนไหวทั้งบนดินและใต้ดิน เพื่อไว้ใช้งานกดดันฝ่ายตรงข้าม ต้องจัดไว้ให้อยู่ในอีกสถานะหนึ่ง

ขณะเดียวกัน หากจะกล่าวถึง แคนดิเดต คนอื่นๆ ก็คงต้องขีดเส้นใต้ ไว้อีกครั้งว่า ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และไฮว์โปรไฟล์ไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นรายของ เจ๊แดง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็คงเปแนเพียงแค่ข่าวปล่อยสร้างสีสันธรรมดา เพราะสำหรับ เจ๊แดงแล้ว ไม่ต้องถึงกับไปเป็นหัวหน้าพรรค บารมีในพรรคเพื่อไทยก็ล้นเหลือมีอำนาจคับมืออยู่เบื้องหลังคอยบงการทุกความเป็นไปในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สบายใจเฉิบอยู่แล้ว คงไม่คิดเอาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวล่อเป้าให้เสียรังวัด

อีกรายที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก คงไม่พ้นรายของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ดูแล้วชื่อตัวเก็งว่าที่หน.พรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่ปรากฏตามสื่อเวลานี้ หลายคนก็ถือว่าสอบผ่านเลย คือ คุณสมบัติผ่านฉลุยในฐานะ ผอ.พรรคเพื่อไทย ที่ก็อยู่กับทักษิณมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค ตำแหน่งการเมืองที่ผ่านมาแล้วก็อย่าง เลขานุการรมว.มหาดไทย-รมช.คมนาคม ถือเป็นนักการเมืองคนสนิทที่ทักษิณและพี่น้องตระกูลชินวัตรไว้วางใจ ที่สำคัญ เป็นคนที่เข้าได้กับทุกกลุ่มในพรรค ไม่มีศัตรูทั้งต่อหน้าและลับหลังในพรรคเพื่อไทยเพราะวางบุคลิกการเป็นมือประสานการเมืองมาตลอด แต่ก็ติดภาพลักษณ์ที่ว่าเป็นคนถนัดทำงานใต้ดิน เป็นผู้นำกลุ่มซ้ายใหม่ ทำงานประสานงานทางลับกับแกนนำ นปช.และกลุ่มเสื้อแดงอื่นๆได้ดี ซึ่งจุดนี้ นช.ทักษิณ ก็คงไม่อยากให้ นายภูมิธรรม ออกมาเป็นเป้าการเมืองมากนักก็เป็นได้

ขณะที่อีกรายที่มีกระแสข่าวก็คือ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ถูกพูดถึงในวงแกนนำระดับสูงของพรรค หลังจากได้บินไปพบ นช.ทักษิณ ในต่างประเทศ จึงถือว่านาทีนี้ เป็นตัวเต็งในตำแหน่งว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่เช่นกัน ทักษิณไฟเขียวแล้ว สำหรับภาพพจน์ภายนอกพรรคไม่เคยมีเรื่องเสียหาย ซึ่งบุคลิกลักษณะคล้ายกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรค นอกจากนี้เบื้องลึกแล้ว นายจารุพงษ์ ยังถือเป็นคนเสื้อแดงที่ชัดเจน และมวลชนคนเสื้อแดงก็ให้การยอมรับ แต่จุดสำคัญก็ติดที่ว่า นายจารุพงศ์ ไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.เพื่อไทยส่วนใหญ่เสียเท่าไหร่

กล่าวถึง คนบ้านเลขที่ 111 หลายคน อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายจาตุรนต์ ฉายแสง นาย โภคิน พลกุล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ก็น่าจะหวาดกลัวประวัตศาสตร์จะซ้ำร้อยไม่น้อย หากไปรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ แล้วจะโดนเว้นวรรคอีกห้าปี พวกนี้คงเข็ดขยาดกันหมดแล้ว เรียกว่าถ้าเจอยุบพรรคอีกทีก็ไม่ได้ผุดได้เกิดเลยทีเดียว ดังที่ นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ไม่มี ส.ส.คนใดอยากเป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นไปก็เท่า กับฆ่าตัวเอง หากถูกยุบพรรคก็จะถูกตัด สิทธิ์การเมือง 5 ปี

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะเลือกหันหน้าพรรคอย่างเป็นทางการ ก็ถือว่าไม่มีความหมาย เพราะถึงอย่างไรก็แค่ หุ่นเชิด ไม่ต่างคนรับใช้ครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ที่จะชี้นิ้วสั่งการ เพราะเป็นรับรู้กันเป็นอย่างดีว่าพรรคเพื่อไทยมันคือสมบัติ ของนช.ทักษิณ เพียงเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น