สะเก็ดไฟ
ประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยวันนี้ (8 ต.ค.) ตั้งแต่ 9 โมงเช้า เป็นการประชุมเพื่อให้อดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดล่าสุดก่อนที่ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะลาออกจาก ส.ส.และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงมติเลือกรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแทนยงยุทธที่ลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
มีข่าวว่ายงยุทธจะไม่เข้าประชุมด้วย ดังนั้นประชุมจันทร์ที่ 8 ต.ค. อดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะมากันกันครบ ไม่ว่าจะเป็นระดับรองหัวหน้าพรรคอย่าง ปลอดประสพ สุรัสวดี, กิตติศักดิ์ หัตสงเคราะห์, คณวัฒน์ วศินสังวร, พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก, พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน
นอกนั้นก็มีอาทิ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค, วิมล จันทร์จิราวุฒิกุล รองเลขาธิการพรรค, ทวีศักดิ์ อรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค, พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค, เอกธรัช อินทร์รอด นายทะเบียนพรรค, พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ, ปรีชา ธนานันทร์, ภาคิน สมมิตร, วิม รุ่งวัฒนจินดา, จักรพงษ์ แสงมณี และวรวีร์ มะกูดี
ประชุมสุมหัวเพื่อลงมติเลือกรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปพลางก่อน
ตามข่าวก็ได้ยินกันมาว่าคงเอาระดับอดีตรองหัวหน้าพรรคมาเสียบไปก่อน ก็อาจเป็นรุ่นใหญ่หน่อยอย่าง กิตติศักดิ์ หัตสงเคราะห์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และอดีต รมช.คมนาคม หรือไม่ก็ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง บางคนก็ว่าจะเป็น จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ไปเลย เพราะเป็นอดีตเลขาธิการพรรค แถมเป็น รมว.คมนาคม ดีกรีแบบนี้ ถือว่าเสียบแทนได้เหมาะเจาะพอดีกับยงยุทธ
ส่วนจะเป็นปลอดประสพหรือไม่ ข่าวก็ว่าพวกเพื่อไทยก็เห็นด้วย เพราะดูแล้วคงไม่กระทบกับงานป้องกันน้ำท่วมที่ปลอดประสพดูแลอยู่ เนื่องจากเป็นแค่ไม่กี่สัปดาห์ แล้วก็ไม่มีงานอะไรให้ทำด้วย เนื่องจากเป็นแค่การรักษาการ เป็นแล้วจะมานั่งประชุมพรรคด้วยหรือไม่ก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้วสำหรับพรรคนี้
หรือจะมีใครมานั่งรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ชื่อแปลกออกมาจากนี้ ก็มีสิทธิ์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เวลานี้คนในพรรคเพื่อไทยไม่ได้สนใจแล้วว่าคนที่จะมาเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นใคร แต่มองข้ามช็อตไปที่การเรียกประชุมใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย-แกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อลงมติเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ที่ก็ต้องว่าไปตามหลักกฎหมาย และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่ 3 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ยงยุทธลาออกจากหัวหน้าพรรค
ขั้นตอนตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการที่พรรคเพื่อไทย จะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งถึงการลาออกของยงยุทธ จากนั้นก็เตรียมการกำหนดวันเรียกประชุมใหญ่ส.ส.-แกนนำพรรค-ประธานสาขาพรรคเพื่อไทย เพื่อลงมติเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ต่อไป
ที่ดูตามขั้นตอนแล้ว ทุกอย่างก็คงแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน แต่คาดว่ารายชื่อคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่กี่วันต่อจากนี้ก็คงชัดแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร จะเลือกใคร
แต่ก่อนจะถึงวันลงมติเลือก หน.เพื่อไทย ข่าวลือ-ตัวเต็งต่างๆ คงออกมาเป็นระยะ เพื่อหยั่งกระแสกันเองภายในเพื่อไทยควบคู่ไปกับข่าวปรับ ครม.
เรื่องที่คนในพรรคออกมาบอกว่าสเปกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ต้องเป็นคนมีความสามารถ นำพาพรรคก้าวหน้า และเพิ่มปริมาณสมาชิกพรรคให้ได้มากกว่าในปัจจุบัน หาใช่สเปกที่แท้จริง
คุณสมบัติสำคัญลำดับแรกๆของคนจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็คือ ต้องพร้อมรับคำสั่งทุกอย่างทุกเรื่องโดยไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อสงสัยจากทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรวมถึงพี่น้องเครือญาติในตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์ด้วย
ต้องพร้อมทำงานทุกอย่างให้ทักษิณ แบบทุ่มเทและต้องทำให้ได้ ไม่มีคำว่า เป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ก็ต้องมีบุคลิกนักประสาน คือเข้าได้กับทุกกลุ่มในพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์-กลุ่มกรุงเทพมหานคร ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-กลุ่มภาคกลางของเผดิมชัย สะสมทรัพย์-กลุ่มเสี่ยเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล-กลุ่มยงยุทธ ติยะไพรัช -กลุ่ม 111 ไทยรักไทย เป็นต้น
รวมถึงที่ขาดไม่ได้ก็คือกลุ่ม นปช.-คนเสื้อแดง ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ก็ต้องสามารถไปมาหาสู่ รับฟังพูดคุยกันได้
เพราะอย่าง ยงยุทธ ถือได้ว่าเป็นขวัญใจพวกแกนนำนปช.ในเพื่อไทยพอควร ไม่ใช่เพราะความเป็นคนใต้เหมือนกับพวก จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เท่านั้น แต่ว่าตั้งแต่เข้ามาเป็นหัวน้าพรรคเพื่อไทย ยงยุทธ ก็คบหากับพวกแกนนำ นปช. และคนเสื้อแดงมาตลอดทำให้คนเสื้อแดงนิยมชมชอบยงยุทธอย่างมาก
ดูแล้วชื่อตัวเก็งว่าที่ หน.พรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่ปรากฏตามสื่อเวลานี้ หลายคนก็ถือว่าสอบผ่านเลย คือ คุณสมบัติเป็นไปตามที่บอกไว้ข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย ที่ก็อยู่กับทักษิณมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรค ตำแหน่งการเมืองที่ผ่านมาแล้วก็อย่าง เลขานุการ รมว.มหาดไทย-รมช.คมนาคม ถือเป็นนักการเมืองคนสนิทที่ทักษิณและพี่น้องตระกูลชินวัตรไว้วางใจ ที่สำคัญ เป็นคนที่เข้าได้กับทุกกลุ่มในพรรค ไม่มีศัตรูทั้งต่อหน้าและลับหลังในพรรคเพื่อไทยเพราะวางบุคลิกการเป็นมือประสานการเมืองมาตลอด
หรือจะเป็นพวก 111 ไทยรักไทยเดิมอย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา เองก็มีคนเก็งไว้ว่ามีโอกาสสูงเพราะทำการเมืองกับทักษิณ มาเกือบยี่สิบปี แถมเป็นมือกฎหมายคนสำคัญของพรรค ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ลืมว่า เมื่อการแก้ไข รธน. ยังไม่สำเร็จ มาตรา 237 เรื่องยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคห้าปี ยังไม่โดนยกเลิก พวกอดีต 111 ไทยรักไทย ทั้งหลายที่ไม่ใช่แค่ ภูมิธรรม-พงศ์เทพ แต่ยังมีอีกหลายคนที่เก็งกันไว้อย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง-โภคิน พลกุล-พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ก็น่าจะหวาดกลัวประวัตศาสตร์จะซ้ำร้อยไม่น้อย หากไปรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ แล้วจะโดนเว้นวรรคอีกห้าปี พวกนี้คงเข็ดขยาดกันหมดแล้ว
เช่นเดียวกัน ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ก็คงไม่เสี่ยงดัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาเป็นหน.เพื่อไทย แม้จะเชื่อว่าเงื่อนไขการยุบพรรคตอนนี้ไม่เหมือนในอดีตที่ยุบได้ทั้งไทยรักไทย-พลังประชาชน อีกต่อไปแล้วก็ตาม