ASTVผู้จัดการรายวัน - กสทช.ยันหากไม่มีประมูล3G ในเวลา1ปีจะทำให้เสียหาย7.6หมื่นล้านบาท ขณะที่ศาลยังไม่มีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือคุ้มครองชั่วคราวเพื่อชะลอการประมูลออกไปหรือไม่ ขณะที่คนไทยตั้งตารอใช้ 3 G ถึง 69.0 % และกว่า 71 % เล็งซื้อมือถือใหม่เพื่อรองรับ 3G เต็มรูปแบบ
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังไปให้คำชี้แจงต่อศาลปกครองกลางคดีที่นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระได้ยื่นฟ้องกสทช.ให้ระงับการประมูล 3G ย่านความถี่ 2.1GHz เมื่อวันที่ 10 ต.ค.นี้ ว่าหากการประมูล3G ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในวันที่ 16 ต.ค.นี้หรือหากมีการชะลอออกไปอีกจะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยใน 8 เดือนจะเสียหายไป 51,300 ล้านบาท และใน1ปีจะเสียหาย 76,650 ล้านบาท
ทั้งนี้ตัวเลขความเสียหายดังกล่าวที่ได้แจ้งต่อศาลหากมีการชะลอการประมูลครั้งนี้ออกไป เป็นตัวเลขจากบทความทางวิชาการที่นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยศึกษาถึงผลเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการประมูล 3G ที่ล่าช้ามาแล้ว 2 ปีซึ่งมีตัวเลขความเสียหายถึง 153,900 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่วันละ 210 ล้านบาท อีกทั้งยังได้ชี้แจงศาลไปว่านายอนุภาพไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ดังนั้นหากกสทช.ปฎิบัติตามผู้ร้องจะเป็นการบังคับให้กสทช.ทำผิดกฏหมาย เช่น การให้กำหนดอัตราขั้นสูงล่วงหน้า เป็นต้น
ทั้งนี้ศาลปกครองกลางจะนำเอาข้อไต่สวนทั้งหมดเข้าองค์คณะเพื่อพิจารณาใน2ประเด็น คือ 1.จะรับฟ้องหรือไม่ 2.จะสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งศาลยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาแต่อย่างใด เพียงแต่จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กสทช.ที่เข้าไปรับฟังการไต่สวน ได้ระบุว่าหนึ่งในคำถามที่องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางถามในการไต่สวนคือ 'ถ้าไม่มี 3Gจะเป็นอะไรมั้ย'
วันเดียวกัน ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง "คนไทยกับการรอคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบ" โดยเก็บข้อมูล พบว่า ประชาชนมีการตั้งตาคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 69.0 ระบุว่ามากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุว่าน้อยถึงน้อยที่สุด ทั้งนี้หากมีการเปิดให้บริการระบบ 3G เต็มรูปแบบ ประชาชนร้อยละ 73.1 ระบุว่าจะยังไม่เปลี่ยนไปใช้ทันที ขอรอดูค่าบริการ และระบบสัญญาณว่าครอบคลุมมากน้อยเพียงใดก่อน
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเพื่อรองรับระบบ 3G เต็มรูปแบบ ร้อยละ 74.1 เห็นว่ามีความเป็นไปได้มาก ขณะที่ร้อยละ 21.1 เห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังไปให้คำชี้แจงต่อศาลปกครองกลางคดีที่นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการอิสระได้ยื่นฟ้องกสทช.ให้ระงับการประมูล 3G ย่านความถี่ 2.1GHz เมื่อวันที่ 10 ต.ค.นี้ ว่าหากการประมูล3G ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในวันที่ 16 ต.ค.นี้หรือหากมีการชะลอออกไปอีกจะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยใน 8 เดือนจะเสียหายไป 51,300 ล้านบาท และใน1ปีจะเสียหาย 76,650 ล้านบาท
ทั้งนี้ตัวเลขความเสียหายดังกล่าวที่ได้แจ้งต่อศาลหากมีการชะลอการประมูลครั้งนี้ออกไป เป็นตัวเลขจากบทความทางวิชาการที่นักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยศึกษาถึงผลเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการประมูล 3G ที่ล่าช้ามาแล้ว 2 ปีซึ่งมีตัวเลขความเสียหายถึง 153,900 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่วันละ 210 ล้านบาท อีกทั้งยังได้ชี้แจงศาลไปว่านายอนุภาพไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ดังนั้นหากกสทช.ปฎิบัติตามผู้ร้องจะเป็นการบังคับให้กสทช.ทำผิดกฏหมาย เช่น การให้กำหนดอัตราขั้นสูงล่วงหน้า เป็นต้น
ทั้งนี้ศาลปกครองกลางจะนำเอาข้อไต่สวนทั้งหมดเข้าองค์คณะเพื่อพิจารณาใน2ประเด็น คือ 1.จะรับฟ้องหรือไม่ 2.จะสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งศาลยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาแต่อย่างใด เพียงแต่จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กสทช.ที่เข้าไปรับฟังการไต่สวน ได้ระบุว่าหนึ่งในคำถามที่องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางถามในการไต่สวนคือ 'ถ้าไม่มี 3Gจะเป็นอะไรมั้ย'
วันเดียวกัน ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง "คนไทยกับการรอคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบ" โดยเก็บข้อมูล พบว่า ประชาชนมีการตั้งตาคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 69.0 ระบุว่ามากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุว่าน้อยถึงน้อยที่สุด ทั้งนี้หากมีการเปิดให้บริการระบบ 3G เต็มรูปแบบ ประชาชนร้อยละ 73.1 ระบุว่าจะยังไม่เปลี่ยนไปใช้ทันที ขอรอดูค่าบริการ และระบบสัญญาณว่าครอบคลุมมากน้อยเพียงใดก่อน
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเพื่อรองรับระบบ 3G เต็มรูปแบบ ร้อยละ 74.1 เห็นว่ามีความเป็นไปได้มาก ขณะที่ร้อยละ 21.1 เห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อย