xs
xsm
sm
md
lg

ความต่างระหว่างเหลืองกับแดง

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

หลังคำสั่งของศาลปกครองกลางออกมายืนยันถึงความชอบธรรมในการชุมนุมตามระบอบประชาธิปไตยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐ และใช้แก๊สน้ำตายิงใส่ตัวผู้ชุมนุม

ใบตองแห้ง ประชาไท ประกาศรับไม่ได้กับคำตัดสินนั้น และออกมาปกป้องตำรวจว่า “รัฐบาลและตำรวจน่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพราะถึงแม้โดยมนุษยธรรม รัฐควรจ่ายชดเชยพวกพันธมาร แต่คำวินิจฉัยก็ไม่ควรออกมาแบบปรักปรำตำรวจและรัฐบาลข้างเดียว แต่ควรชี้ชัดว่า ตำรวจทำตามอำนาจหน้าที่ แม้บางอย่างไม่เป็นไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดเจตนาใช้กระสุนจริง เมื่อเกิดความเสียหายรัฐก็ยินดีชดเชย แต่จะมาบอกว่าตำรวจผิดและพวกพันธมารถูกหมดไม่ได้”

เป็นใบตองแห้ง คนเดียวกับนายอธึกกิต แสวงสุข ที่วันนี้เป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ทางช่องวอยซ์ทีวีของนายพานทองแท้ ชินวัตร

ผมไม่หวั่นไหวหรอกครับที่มีข่าวว่าตำรวจจะยื่นอุทธรณ์ เพียงแต่ผมรับไม่ได้กับความคิดดังกล่าว ที่ประหลาดก็คือว่า กรณีของพันธมิตรฯ นั้นมีการชี้มูลความผิดและทั้งจาก ป.ป.ช.และศาลปกครอง แต่ตำรวจกลับจะไม่ยอมรับและไม่ยอมจ่ายเงินชดเชย แต่กรณีของคนเสื้อแดงยังไม่พิสูจน์เลยเรื่องเผาบ้านเผาเมืองและมีกองกำลังติดอาวุธ แต่รัฐกลับจ่ายเงินชดเชยให้ไปแล้ว

น่าตลกมากนะครับ คนเสื้อแดงรับไม่ได้ที่รัฐใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม และกล่าวหาว่าไม่มีความชอบธรรมที่รัฐใช้กำลังสลายการชุมนุมของตัวเอง แต่กลับสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ อย่างโหดร้ายและป่าเถื่อน

ทั้งๆ ที่หากเราเป็นคนมีเหตุผล มีความเป็นธรรม การสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงป่าเถื่อนนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ถ้าหากการชุมนุมนั้นเป็นการชุมนุมที่เป็นการใช้สิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การชุมนุมที่แฝงด้วยกองกำลังติดอาวุธที่ต้องการจะต่อสู้กับอำนาจรัฐด้วยความรุนแรง

น่าตลกอีกอย่างก็คือ ภายหลังแถลงการณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) คนเสื้อแดงจำนวนมากต่างออกมาโต้เถียงเรื่องชายชุดดำว่าไม่มีอยู่จริง ไม่ยอมรับคำแถลงของ คอป. ทั้งๆ ที่แม้ว่า คอป.จะไม่แถลงโลกทั้งโลกก็เห็นอยู่แล้วว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นมีกองกำลังติดอาวุธให้การสนับสนุนอยู่

น่าตลกที่ตามมาก็คือ คนเสื้อแดงมองไม่เห็นกองกำลังติดอาวุธที่แฝงอยู่ในฝ่ายตัวเองแล้ว กลับมองเห็นแล้วกล่าวหาว่า การที่พันธมิตรฯ เสียชีวิตบาดเจ็บแขนขาขาดในการสลายการชุมนุมของตำรวจที่หน้ารัฐสภานั้น เพราะพันธมิตรฯ มีระเบิดอยู่ในมือ กล่าวหากระทั่งหญิงสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์อย่างน้องโบว์ว่า พกระเบิดไว้ในกระเป๋าถือ ทั้งที่กระเป๋าถือของน้องโบว์ยังอยู่หลังเสียชีวิตแล้ว

คนเสื้อแดงไม่พอใจที่ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้ายหลังต่อสู้ด้วยอาวุธและเผาบ้านเผาเมือง แต่คนเสื้อแดงในนามของหมอเหวง หมอสันต์ และครูประทีปนี่แหละที่ไปแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายต่อพันธมิตรฯ

จาตุรนต์ ฉายแสง บอกว่า รัฐไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธสลายการชุมนุม จาตุรนต์พูดถูกนะครับ แต่จาตุรนต์ต้องพูดด้วยว่า ผู้ชุมนุมมีความชอบธรรมหรือไม่ที่จะใช้อาวุธปืนมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายไหนเปิดฉากใช้อาวุธก่อน

ความจริงแล้วผมไม่อยากไปโต้เถียงหรือเปรียบเทียบการชุมนุมของพวกเรากับคนเสื้อแดงหรอกครับ เพราะความจริงมันก็จะเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ และที่สำคัญพวกเรากล้าที่จะยอมรับและพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม และไม่เห็นด้วยการนิรโทษกรรมเพื่อลบล้างความผิดโดยแอบอ้างความปรองดองขึ้นมาบังหน้า

แต่คนเสื้อแดงและพวกที่มีปากเสียงของคนเสื้อแดงกลับมองไม่เห็นสิ่งที่พวกตัวเองกระทำ แต่กลับกล่าวหาและบิดเบือนการชุมนุมของพันธมิตรฯ ต่างๆ นานา

เอาเข้าจริงๆ แล้ว ถ้าถามว่า ระหว่างพวกเรากับคนเสื้อแดงฝ่ายไหนที่เป็นม็อบมีเส้นกันแน่ ผมคิดว่า คนที่เรียกตัวเองว่า ม็อบมีเส้นได้เต็มปากเต็มคำก็คือ คนเสื้อแดงต่างหาก

วันนี้คดีที่คนเสื้อแดงบุกเข้าไปทำร้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ และทำลายข้าวของที่กระทรวงมหาดไทยก็ยังไม่มีการดำเนินคดีต่อใครเลย ทั้งๆ ที่ปรากฏภาพชัดเจนว่ารุนแรงและป่าเถื่อน แต่พันธมิตรฯ ที่บุกเข้าไปในเอ็นบีทีเพราะนำเสนอข่าวบิดเบือนแต่ไม่ได้ทำลายข้าวของศาลได้ตัดสินไปแล้ว คดีคนเสื้อแดงเผารถเมล์ขู่ระเบิดรถแก๊สเมื่อเมษา 2552 ตำรวจก็ไม่ดำเนินคดี คดีบุกที่ประชุมอาเซียนก็ไม่มีการดำเนินคดีเช่นเดียวกัน คดีบุกโรงพยาบาลซึ่งรุนแรงกว่าบุกสถานีโทรทัศน์หลายเท่าก็ไม่มีคดี

หลายคดีของคนเสื้อแดงได้รับการเกื้อหนุนจากทั้งฝ่ายตำรวจและอัยการ และปัจจุบันยังมีดีเอสไอยุคเปลี่ยนสีที่แสดงจุดยืนของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนด้วยว่าเลือกยืนอยู่ข้างไหน

จำคดีนักข่าวญี่ปุ่นได้ไหมครับ ตอนแรกรัฐบาลทำท่าขึงขังมาก สื่อที่สนับสนุนเสื้อแดงอย่างค่ายมติชน ข่าวสด กระพือข่าวกันใหญ่ แล้วสุดท้ายก็เงียบหายไป

มาถึงบางอ้อเมื่อ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ไปยอมรับต่อคณะกรรมการชุดหนึ่งว่า ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 10 เมษายน 2553 จนทำให้นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ เสียชีวิต พบว่าตายด้วยกระสุนความเร็วสูง 7.62 ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับปืนอาก้า และในวันดังกล่าวทหารไม่ได้ใช้ปืนอาก้าในการปฏิบัติหน้าที่

กรณีการเสียชีวิต 6 ศพที่วัดปทุมวนารามก็เหมือนกัน วันนี้คดีไม่เดินหน้า เพราะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า วิถีกระสุนของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นการยิงจากล่างขึ้นบน ไม่สามารถยิงจากมุมบนที่พยายามกล่าวหาทหารที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าได้เลย ที่สำคัญหลังจากคนเสื้อแดงออกจากวัดปทุมฯ แล้วก็พบมีอาวุธสงครามซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก

หลักฐานเชิงประจักษ์เหล่านี้แทบจะไม่ต้องเถียงเลยว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นมีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่หรือไม่

นอกจากนั้นการจับกุมอาวุธจำนวนมากเมื่อไม่กี่วันก่อนทำให้เราย้อนไปรำลึกถึงการจับรถขนอาวุธของคนเสื้อแดงที่อนุสรณ์สถาน เพราะโยงได้ว่า อาวุธที่ซุกซ่อนอยู่นั้นเป็นของตำรวจเสื้อแดงนายเดียวกันที่ถูกจับในเหตุการณ์ครั้งนั้นนั่นเอง

ยังไม่รวมถึงอาวุธของทหารจำนวนมากที่คนเสื้อแดงยึดเอาไว้ในวันที่กองกำลังชุดดำยิงถล่มกับทหารและจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอาวุธเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน

จริงๆ แล้วผมพยายามคิดนะครับว่า คนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดงนั้นเพียงแต่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดและมีจุดยืนของตัวเอง ทำตามอุดมการณ์และความฝันของตัวเอง และทุกคนมีสิทธิจะปกป้องสิ่งที่ตัวเองรักและศรัทธา

แต่ถ้าใครก็ตามที่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเฉพาะฝ่ายของตัวเอง ผมว่า คนคนนั้นไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรหรอกครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น