xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

คางคกจะเป็นรมต. !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ทันทีที่ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย หลังจากผลักดันให้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ กระโดดจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นปลัดกระทรวงกระทรวงมหาดไทยได้ ด้วยผลงานช่วยเหลือแกนนำ นปช. งาบของบริจาคช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว

แม้ว่า วิธีทิ้งเก้าอี้เพื่อรักษาพรรคเพื่อไทยของยงยุทธ จะดูแนบเนียน แต่อนาคตพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่คงเส้นคงวา

เหตุผลสำคัญคือ ฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาฯ เพื่อให้ดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังจากที่อนุกรรมการข้าราชการพลเรือนกระทรวงมหาดไทย มีมติไล่นายยงยุทธ ออกจากราชการ

เป็นการขัดต่อคุณสมบัติการเป็นส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 102 (6) และ มาตรา 174 (4)

นอกจากนั้น ยังมีผู้ยื่นคำร้องให้กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส. และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ โดยจะต้องทำภายใน 30 วัน

โดยมีคำร้องในเรื่องนี้ทั้งสิ้น 3 คำร้อง ซึ่งได้มอบให้ด้านกิจการที่เกี่ยวข้อง คือ ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และด้านกิจการพรรคการเมือง ไปประมวลเรื่อง และจัดทำข้อมูล เพราะมีการร้องเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี การเป็นส.ส. การเป็นสมาชิกพรรค และการเป็นหัวหน้าพรรค

หลังจากจากนั้นก็จะมีการเสนอต่อกกต. พิจารณาว่า จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนของกกต. เพื่อพิจารณษเรื่องการขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และส.ส และคณะกรรมการของนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อไต่สวนเรื่องการขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และการเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือจะตั้งคณะกรรมการไต่สวนรวมเป็นคณะเดียว

ทั้งนี้ ยงยุทธ ถูกไล่ออก ตามคำสั่ง ที่ 546/2555 เรื่องลงโทษไล่ออกจากราชการ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย และอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย อันเป็นคำสั่งที่ลงนามโดย นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย (มท.2) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ที่ลงนามเมื่อ 20 กันยายน 2555 และได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา

คำสั่งดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ที่ส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาลงโทษทางวินัยย้อนหลังนายยงยุทธ สมัยเป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้อำนาจรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปลงนามยกเลิกคำสั่งกรมที่ดิน ที่สั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟและหมู่บ้านอัลไพน์ ซึ่งเป็นโฉนดที่ดิน เลขที่ 20 และ 1146 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งนิติกรรมใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับที่ดินดังกล่าว

โดย ป.ป.ช.มีมติด้วยเสียงข้างมากว่านายยงยุทธ กระทำความผิดวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง และกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน

อย่างไรก็ตาม แม้ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย จะเห็นว่านายยงยุทธ ไม่มีความผิด ประกอบกับนายยงยุทธ ได้ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการที่มีคุณประโยชน์มาตลอด และไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยมาก่อน กรณีนี้จึงมิอาจพิจารณาเป็นอย่างอื่นได้ จึงมีมติเสนอให้รมว.มหาดไทย สั่งลงโทษไล่นายยงยุทธ ออกจากราชการตามที่ป.ป. ช.ได้มีมติ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 30 กันยายน 2545 ซึ่งเป็นวันที่นายยงยุทธมีอายุครบ 60 ปี

แต่กระนั้น โผการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นไปตามการเสนอชื่อของยงยุทธ ทั้ง 9 ราย โดย วิบูลย์ สงวนพงศ์ พ้นจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง

นายภาณุ อุทัยรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง นายชวน ศิรินันท์พร พ้นจากตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการปกครอง

นายขวัญชัย วงศ์นิติกร พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ พ้นจากตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายประภาส บุญยินดี พ้นจากตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ

นายมณฑล สุดประเสริฐ พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายแก่นเพชร ช่วงรังษี พ้นจากตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

นั่นหมายความว่า ทั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผ่านการเลือกสีมาอย่างดีแล้ว

ประเมินกันว่า ยงยุทธ ยังฝากงานสำคัญไว้ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ด้วยการผลักดันให้ “ไอตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” เพื่อนสนิทคนชุดดำ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

โดยคาดหวังให้นั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย หลังจากที่รอดติดคุกมาจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นเรื่องให้ถอนประกัน ปล่อยให้ “เจ๋ง ดอกจิก” นอนคุกไปเดือนเศษ

แต่การรอดติดคุกของไอ้ตู่ ไม่ได้หมายความว่า โอกาสการนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี จะมีมากขึ้น

ตรงกันข้าม กลับเป็นการบ่งบอก “วงกลม” ที่ขีดไว้ให้เดินอยู่ภายใต้ข้อหาคดีก่อการร้าย และเผาเมือง

หลังจาก คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) แสดงข้อมูลและข้อเท็จจริงในการชุมนุมของ นปช.

ภายใต้กองกำลังติดอาวุธ “คนชุดดำ”

แกนนำนปช. หลายคนพากันปฏิเสธ การมีอยู่ของคนชุดดำ ทั้งๆที่คนทั้งประเทศมองเห็นจากจอโทรทัศน์ ยกเว้นไอ้ตู่

เรื่องยิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อ ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดคลิปยืนยัน มีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามทำร้ายทหารในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง

เขาได้เปิดคลิปเหตุการณ์บนรถไฟฟ้าบีทีเอส บนเวทีนปช. ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค มีผู้ปฎิบัติการซึ่งเป็นชายชุดดำที่พกอาวุธสงคราม ปืนเอ็ม 16 อยู่ร่วมกับแกนนำ นปช.

“โดยชายดังกล่าวมีชื่อว่า “นายศรชัย ศรีดี” เป็นทหารพรานค่ายปักธงชัย ซึ่งหลายคนคงพอจะคุ้นว่า ใครเป็นคนเอาทหารจากค่ายที่แตกมาปฏิบัติการในครั้งนี้” ชวนนท์ ระบุชื่อ นามสกุล พร้อมต้นสังกัด และหัวหน้าคนชุดดำ

เขายังอธิบายว่า สำหรับนายศรชัย เคยถูกจับตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ไปช่วยเหลือประกันตัว

“ดังนั้นขอให้เลิกเถียงว่าไม่มีชายชุดดำได้แล้ว เพราะสิ่งที่มีอยู่แน่ๆ ตามคลิปและภาพ คือกองกำลังติดอาวุธที่ใช้อาวุธสงครามมาเข่นฆ่าทหารและทำร้ายประชาชน” ชวนนท์ ตอกย้ำพฤติกรรมยิงเจ้าหน้าที่และประชาชนของชายชุดดำ

นายชวนนท์ บอกอีกว่า อยากถามไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ว่าทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ หรือว่าทราบแล้วแต่แกล้งปกปิดความจริง แต่ถ้าไม่ทราบตนจะนำคลิปวีดีโอดังกล่าวและภาพ นายจตุพร ไปประกันตัวนายศรชัย ไปมอบให้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีต่อไป

แต่ไอ้ตู่ ก็เงียบกริบ เพราะกำลังลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบก็คือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะกล้าเอา “เพื่อนชายชุดดำ” ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากที่ศาลอาญายังไม่ถอนประกันตัว

ในรายงานของ คอป. ยังได้ถอดเทปคำสั่งเผาศาลากลางจังหวัดของ ไอ้ตู่ ไว้ว่า

“ขอให้เสื้อแดงซึ่งอยู่ต่างจังหวัด ฟังภารกิจดังต่อไปนี้ ให้ไปรวมตัวกันอยู่ที่ศาลากลาง รอเวลาให้มีการปราบเมื่อไหร่ ตัดสินใจได้ทันที ทุกจังหวัดให้ไปศาลากลาง ฟังสัญญาณจากที่นี่ จอมืดเมื่อไหร่ แสดงว่ามีการปราบแล้ว พี่น้องมีดุลพินิจจัดการได้ทันที ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องไปกลัวอะไรกับประชาชนเลย เพราะประชาชนที่เขามาชุมนุม ถ้าเขาคิดไม่ดีกับห้างพวกคุณนี่ คุณปิดห้างคุณก็ฉิบหาย ถ้าคนคิดจะทำชั่วกับพวกคุณ แต่เรามาดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย ” จตุพร พรหมพันธุ์ พูดบนเวที เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2553

แม้กระทั่งการเสียชีวิต น.ส.กมนเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมฯ ก็ถูกใส่ความว่า เป็นฝีมือทหาร โดยไม่เกี่ยวข้องกับคนชุดดำ

ทำให้ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎร โดยนำหลักฐานฐานทางวิทยาศาสตร์ ภาพเหตุการณ์ และหลักฐานมาชี้แจง ไม่ใช่มาจากความเชื่อ ว่า ทหารไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่วัดปทุมฯ ตามที่มีการกล่าวอ้าง เพราะวันที่ 19 พ.ค. 2553 ทหารเข้าไปได้เพียงด้านหน้าบริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเท่านั้น และมีการปะทะกับชายชุดดำ บริเวณแยกเฉลิมเผ่า ก่อนที่ชายชุดดำ จะวิ่งเข้าไปในวัดปทุมฯ

โดย ศิริโชคได้นำหลักฐานภาพทางนิติวิทยาศาสตร์ สภาพศพ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในวัดปทุมฯ พร้อมทั้งได้เปิดเผยวิถีกระสุน โดยมีลักษณะการยิงจากพื้นขึ้นสู่ที่สูง ทำให้เป็นไปไม่ได้ว่า ทหารจะยิงใส่จากที่สูง จึงแสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มคนที่พกพาอาวุธแฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม

ยกเว้นกระสุนจะวิ่งโค้งเหมือนลูกกอล์ฟได้

นอกจากนี้ หลายพื้นที่มีร่องรอยการต่อสู้ เช่น สถานีรถไฟฟ้าสยาม แยกเฉลิมเผ่า ในวันนั้นถ้าไม่มีกองกำลังติดอาวุธ ไม่มีใครยิงทหาร ก็จะไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้น การที่ คอป.รายงานว่า มีชายชุดดำปะปนอยู่ในการชุมนุมด้วยนั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว เนื่องจากอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ

ดังนั้น ไม่ว่า แกนนำ นปช.จะพากันเชียร์ให้ไอ้ตู่ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ตราบใดที่ “คนชุดดำ” ยังลอยนวล

สัญญานเผาเมืองจากคนที่ถือปืนทราโว่ บนเวที นปช. ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผู้ชมหน้าจอทีวี

วงกลมที่ขีดให้เดิน ก็ยังไม่เปลี่ยน !!!






กำลังโหลดความคิดเห็น