วานนี้ ( 4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้เปิดโอกาสให้คนใกล้ชิดได้เข้าอวยพร เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 54 โดยมีบรรดานักการเมือง และข้าราชการ เข้าร่วมอวยพร โดยนายเนวิน กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณที่มาร่วมอวยพร ไม่ได้คิดว่าจะจัดงานอะไร เพราะว่าช่วงนี้เป็นฤดูโยกย้าย คนที่มา มาด้วยใจและความรักความผูกพัน มาให้กำลังใจกัน แม้จะทำให้ทุกคนต้องเสี่ยงในอาชีพ แต่อยากให้ทุกคนทำงานให้ดี ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลขอให้เป็นเมืออาชีพ ทำงานตามหน้าที่ รับใช้ประชาชน
จากนั้นนายเนวิน กล่าวว่า วันนี้มีความสุขมาก ตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข เพราะประกาศตัวแล้วว่า จะเลิกเรื่องการเมือง ทุ่มเวลาให้กับฟุตบอล ร้อยละ 70 และ มอเตอร์ไซด์ ร้อยละ 30 ซึ่งในปีนี้ได้วางแผนให้ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้ครอง 2 แชมป์ ยกเว้นแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก เพราะปีนี้ยอมรับว่าวางแผนให้ทีมผิดพลาด จึงต้องตกในสภาวะเช่นนี้ ปีหน้าจะเอาแชมป์ไทยแลนด์พีเมียร์ลีกคืนมา แน่นอน ยืนยันว่าเป้าหมายภายใน 5 ปี จะทำให้ทีมเป็น1 ใน 10 ของเอเชีย โดยความฝันสูงสุดในชีวิต คือนำเด็กไทยไปเล่นฟุตบอลในลีกชั้นนำของโลกให้ได้ ส่วนทีมชาติไทยไม่มีโอกาสไปบอลโลก และโอลิมปิก แน่นอน เพราะต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศที่จะไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ต้องมีทีมชาติเข้าไปเล่นในลีกชั้นนำของโลก ประมาณ 20 คน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่นักบอลไทยสักคน ยังไม่มีไปเล่น แม้แต่ลีกในประเทศญี่ปุ่น และจะฝันอย่างไรไปฟุตบอลโลก
"สำหรับผู้ใหญ่บางคนที่พูดเอาหน้า ฟุตบอลไทยจะไปบอลโลกปีโน้น ปีนี้ แปลว่า ละเมอ แสดงว่าสักแต่พูด ไม่ยอมรับความจริงของสังคมฟุตบอล" นายเนวิน กล่าว
เมื่อถามว่า ภริยามอบอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิด นายเนวิน กล่าวว่า “หากผมยังอยู่การเมือง จะได้กอดกันกลางสนามบอลแบบมีคนอยู่หลายพันคน แบบไม่ต้องเกรงใจใคร หรือ นี่คือความสุขของผม ใครอยากมีความสุขเหมือนผมขอให้ออกจากการเมือง”
นายเนวิน กล่าวถึงการวางบทบาททางการเมืองว่า การสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งใดๆ จะเอาทุกข์ใส่ตัวทำไม เพราะวันนี้มีความสุขแล้ว สำหรับบทบาทในพรรคภูมิใจไทย ใครมีปัญหาอะไร พร้อมช่วยแก้ปัญหาตามกำลังของประชาชนคนหนึ่งที่จะช่วยได้ เพราะคนอยู่ในสังคมต้องมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นธรรมดา สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ คิดว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ดี นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีความเหมาะสมในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะบ้านเมืองถึงเวลาเปลี่ยนคนรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง หากยังเวียนว่ายตายเกิดในกลุ่มบุคคลเดิมๆ ความขัดแย้งก็ไม่จบสิ้นความแตกแยกก็มากขึ้น ซึ่งตนก็ขอออกจากความขัดแย้งนี้
“ผมทำการเมืองมา 20 ปี ไม่ได้ทำให้คนบุรีรัมย์ดีใจเท่ากับทำฟุตบอล 3 ปี แล้วได้แชมป์ ” นายเนวิน กล่าว
จากนั้นนายเนวิน กล่าวว่า วันนี้มีความสุขมาก ตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข เพราะประกาศตัวแล้วว่า จะเลิกเรื่องการเมือง ทุ่มเวลาให้กับฟุตบอล ร้อยละ 70 และ มอเตอร์ไซด์ ร้อยละ 30 ซึ่งในปีนี้ได้วางแผนให้ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้ครอง 2 แชมป์ ยกเว้นแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก เพราะปีนี้ยอมรับว่าวางแผนให้ทีมผิดพลาด จึงต้องตกในสภาวะเช่นนี้ ปีหน้าจะเอาแชมป์ไทยแลนด์พีเมียร์ลีกคืนมา แน่นอน ยืนยันว่าเป้าหมายภายใน 5 ปี จะทำให้ทีมเป็น1 ใน 10 ของเอเชีย โดยความฝันสูงสุดในชีวิต คือนำเด็กไทยไปเล่นฟุตบอลในลีกชั้นนำของโลกให้ได้ ส่วนทีมชาติไทยไม่มีโอกาสไปบอลโลก และโอลิมปิก แน่นอน เพราะต้องยอมรับความจริงว่า ประเทศที่จะไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ต้องมีทีมชาติเข้าไปเล่นในลีกชั้นนำของโลก ประมาณ 20 คน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่นักบอลไทยสักคน ยังไม่มีไปเล่น แม้แต่ลีกในประเทศญี่ปุ่น และจะฝันอย่างไรไปฟุตบอลโลก
"สำหรับผู้ใหญ่บางคนที่พูดเอาหน้า ฟุตบอลไทยจะไปบอลโลกปีโน้น ปีนี้ แปลว่า ละเมอ แสดงว่าสักแต่พูด ไม่ยอมรับความจริงของสังคมฟุตบอล" นายเนวิน กล่าว
เมื่อถามว่า ภริยามอบอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิด นายเนวิน กล่าวว่า “หากผมยังอยู่การเมือง จะได้กอดกันกลางสนามบอลแบบมีคนอยู่หลายพันคน แบบไม่ต้องเกรงใจใคร หรือ นี่คือความสุขของผม ใครอยากมีความสุขเหมือนผมขอให้ออกจากการเมือง”
นายเนวิน กล่าวถึงการวางบทบาททางการเมืองว่า การสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งใดๆ จะเอาทุกข์ใส่ตัวทำไม เพราะวันนี้มีความสุขแล้ว สำหรับบทบาทในพรรคภูมิใจไทย ใครมีปัญหาอะไร พร้อมช่วยแก้ปัญหาตามกำลังของประชาชนคนหนึ่งที่จะช่วยได้ เพราะคนอยู่ในสังคมต้องมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นธรรมดา สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ คิดว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ดี นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีความเหมาะสมในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะบ้านเมืองถึงเวลาเปลี่ยนคนรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง หากยังเวียนว่ายตายเกิดในกลุ่มบุคคลเดิมๆ ความขัดแย้งก็ไม่จบสิ้นความแตกแยกก็มากขึ้น ซึ่งตนก็ขอออกจากความขัดแย้งนี้
“ผมทำการเมืองมา 20 ปี ไม่ได้ทำให้คนบุรีรัมย์ดีใจเท่ากับทำฟุตบอล 3 ปี แล้วได้แชมป์ ” นายเนวิน กล่าว
