บุรีรัมย์ - ส.ส.-ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจตบเท้าอวยพรวันเกิด “เนวิน” ครบ 54 ปีอย่างคึกคัก เจ้าตัวย้ำเลิกเล่นการเมือง ยอมรับเป็นตัวขัดแย้งขอถอนตัวออกจากกองฟืน ไฟก็มอด บ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุข เปิดทางคนรุ่นใหม่ พร้อมเรียกร้องนักการเมืองตัวขัดแย้งช่วยกันชักฟืนออกจากไฟเผาผลาญบ้านเมือง ชี้ “อนุทิน” เหมาะสมนั่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ฝันปั้นเด็กไทยไปค้าแข้งลีกชั้นนำของโลก แต่แนะเลิกละเมอบอลทีมชาติไทยไปบอลโลก
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้เปิดบ้านพักเลขที่ 35/2 หมู่ 4 ตำบลอิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 54 ปี ซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีคนจากหลากหลายอาชีพทยอยเข้ามอบกระเช้าดอกไม้อวยพรแก่นายเนวินกันอย่างคับคั่ง จนทำให้พื้นที่ลานหน้าบ้านเต็มไปด้วยบรรดา ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร นักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มาร่วมอวยพรดังกล่าว
นายเนวิน ชิดชอบ กล่าวกับผู้มาร่วมอวยพรวันเกิดในตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณที่มาร่วมอวยพร ไม่ได้คิดว่าจะจัดงานอะไร เพราะว่าช่วงนี้เป็นฤดูโยกย้าย คนที่มามาด้วยใจและความรักความผูกพัน มาให้กำลังใจกัน แม้จะทำให้ทุกคนต้องเสี่ยงในอาชีพ แต่อยากให้ทุกคนทำงานให้ดีไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลขอให้เป็นมืออาชีพ ทำงานตามหน้าที่รับใช้ประชาชน สำหรับตนในวันนี้ไม่ต้องมาห่วง เพราะถ้าจะแพ้ก็แพ้แค่ในสนามบอล แต่เป็นเรื่องยาก
จากนั้นนายเนวินให้สัมภาษณ์ถึงการวางแผนการทำงานว่า จากนี้ตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข เพราะประกาศตัวแล้วว่าจะเลิกเรื่องการเมืองให้เวลากับฟุตบอลร้อยละ 70 และมอเตอร์ไซค์ร้อยละ 30 ซึ่งในปีนี้ได้วางแผนให้ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดได้ครอง 2 แชมป์ คือ โตโยต้าลีกคัพ และมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ยกเว้นแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก เพราะปีนี้ยอมรับว่าวางแผนให้ทีมผิดพลาดจึงต้องตกในสภาวะเช่นนี้ แต่ปีหน้าจะเอาแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกคืนมาแน่นอน ยืนยันว่าเป้าหมายภายใน 5 ปีจะทำให้ทีมเป็น 1 ใน 10 ของเอเชีย ความฝันสูงสุดในชีวิตนำเด็กไทยไปเล่นฟุตบอลในลีกชั้นนำของโลกให้ได้
เมื่อถามว่า นักฟุตบอลทีมชาติไทยจะมีโอกาสได้ไปแข่งขันในบอลโลกหรือโอลิมปิกหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ไม่มีโอกาสไปแน่นอน เพราะต้องยอมรับความจริงว่าประเทศที่จะไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้ต้องมีทีมชาติเข้าไปเล่นในลีกชั้นนำของโลกประมาณ 20 คน อย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย แต่นักบอลไทยยังไม่มีใครไปเล่นสักคน และจะฝันอย่างไรไปฟุตบอลโลก สำหรับผู้ใหญ่บางคนที่พูดเอาหน้า ฟุตบอลไทยจะไปบอลโลกปีโน้นปีนี้ แปลว่าละเมอ พูดไม่ยอมรับความจริงของสังคมฟุตบอล
เมื่อถามว่า ภริยา (นางกรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์) มอบอะไรให้เป็นของขวัญวันเกิด นายเนวินกล่าวว่า “หากผมยังอยู่การเมืองจะได้กอดกันกลางสนามแบบมีคนอยู่หลายพันคนแบบไม่ต้องเกรงใจใครหรือ นี่คือความสุขของผม ใครอยากมีความสุขเหมือนผมขอให้ออกจากการเมือง”
เมื่อถามว่ายืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ใช่หรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า การสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งใดๆ ไม่มีอยู่ในชีวิตแล้ว ที่ผ่านมาพูดไม่มีใครเชื่อ บังคับกันไม่ได้ แม้จะเชิญเป็นรัฐมนตรีก็ไม่เป็น เพราะไม่ทราบว่าจะเป็นไปทำไม จะเอาทุกข์ใส่ตัวทำไม เพราะวันนี้มีความสุขแล้ว สำหรับบทบาทในพรรคภูมิใจไทยหากใครมีปัญหาอะไรพร้อมช่วยแก้ปัญหาตามกำลังของประชาชนคนหนึ่งที่จะช่วยได้ เพราะคนอยู่ในสังคมต้องมีพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นธรรมดา
นายเนวินกล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้คิดว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ดี นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีความเหมาะสมในตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะบ้านเมืองถึงเวลาเปลี่ยนคนรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง ทำให้มิติทางการเมืองและความรู้สึกทางการเมืองของประชาชนต่อนักการเมืองดีขึ้น เพราะหากยังเวียนว่ายตายเกิดในกลุ่มบุคคลเดิมๆ ความขัดแย้งก็ไม่จบสิ้น ความแตกแยกก็มากขึ้น ประชาชนไม่รู้หวังพึ่งพิงอะไร มีแต่คนพูดเรื่องความปรองดอง แต่ไม่เห็นทำอะไรเป็นรูปธรรมและทำให้บ้านเมืองไปสู่ความปรองดองได้
เพราะฉะนั้น ตนคิดว่าหากเรายอมรับความจริงว่าคนรุ่นปัจจุบันความขัดแย้งสูง ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาหาทางสร้างความปรองดองให้คนในชาติไม่ดีกว่าหรือ ถ้ารักบ้านเมืองกันจริง ตนยอมรับว่าตัวเองมีความขัดแย้งสูง กับผู้คนกับสังคมการเมืองมากมายมหาศาล การดำรงอยู่ทางการเมืองของตนยิ่งจะทำให้ความแตกแยกมีมากขึ้น โอกาสที่บ้านเมืองจะสมานฉันท์ปรองดองไม่มีเลยหากตนอยู่ในสังคมการเมือง
“ดังนั้น การแก้ปัญหาที่ทำได้คือถอนตัวจากการเมืองเสีย หากนักการเมืองรักบ้านเมืองจริง ช่วยกันชักฟืนออกจากไฟคนละท่อนเถิด ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นฟืนท่อนหนึ่งที่จะทำให้ไฟเผาผลาญบ้านเมืองก็ชักมันออกเสีย เมื่อชักออกคนละท่อนสองท่อนฟืนมันก็หมดไฟมันก็มอด บ้านเมืองก็กลับสู่ความสงบสุข ประชาชนจะได้มีความสุข หากบ้านเมืองไม่มีใครถอยบ้านเมืองก็ไม่เกิดความสมานฉันท์ปรองดองอย่างแน่นอน” นายเนวินกล่าว
ต่อข้อถามว่า คนที่ถอยหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ไม่ได้หมายถึงใคร หมายถึงคนทุกคน แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง และเป็นปัญหาอุปสรรคสำคัญในการปรองดองในชาติ ตราบใดที่ยังยืนอยู่บนถนนการเมืองความขัดแย้งมีแต่มากขึ้น แม้ตัวเองเป็นฟืนท่อนเล็กๆ แต่ก็เชื่อว่าความร้อนของไฟจะลดลง
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยครั้งหน้า กลุ่มมัชฌิมาจะอยู่พรรคหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ต้องถามในพรรค ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะได้เป็นรัฐบาลในสมัยนี้หรือไม่ ต้องถามพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่มาถามตน
ส่วนรัฐบาลจะอยู่ได้ยาว พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านตลอดหรือไม่ ต้องไปถามรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน เพราะวันนี้ตนไม่ได้เป็นเซียนการเมืองแล้ว เป็นแต่เซียนฟุตบอลกับเซียนมอเตอร์ไซค์
ต่อข้อถามว่า ภายในพรรคจะเป็นแค่ครูใหญ่หรือที่ปรึกษาเท่านั้นใช่หรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ตนเป็นทั้งตำแหน่งพี่ เพื่อน พวก พร้อมให้คำปรึกษา เมื่อถามว่า แม้จะประกาศว่าวางมือทางการเมือง แต่เมื่อมีปัญหาใดเกิดขึ้นมักถูกมองว่าอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นวิบากกรรมหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า ไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็น จะไปเดือดร้อนอะไร ชีวิตของตนมีความสุขอยู่กับฟุตบอล เพราะเล่นการเมืองมา 20 ปี ไม่ได้ทำให้คนบุรีรัมย์มีความสุขเท่ากับทำฟุตบอล 3 ปี