วานนี้(30 ก.ย.55)นายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า กลุ่มชาวนาเตรียมทำหนังสือเปิดผนึกถึงนักวิชาการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรัฐบาล ให้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกต่อไปในปีฤดูการผลิตปีต่อๆไป หลังจากที่กลุ่มนักวิชาการยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้มีคำวินิจฉัยยุติหรือชะลอการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ทั้งนี้เนื่องจากโครงการดังกล่าวสร้างประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตชาวนาไทย สำหรับนักวิชาการที่ออกมาคัดค้านนั้นอยากให้เข้ามาลงพื้นที่จริง ทำวิจัยให้ตามหลักวิชาการก่อนที่จะตัดสินใจยืนคัดด้านอย่างเป็นทางการ
"อยากทราบว่านักวิชาการกลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่ออะไร หรือเพียงต้องการล้มรัฐบาล โดยหาเหตุเรื่องโครงการรับจำนำข้าวและชาวนาเป็นเครื่องมือในการดิสเครดิตเท่านั้น พวกเราพร้อมที่จะดีเบทกับนักวิชาการกลุ่มนี้ทุกเวที อย่างไรก็ตามเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับตามที่นักวิชาการยื่นเช่นกัน"นายวิเชียรกล่าว
นายวิเชียรกล่าวอีกว่า หากนักวิชาการที่คัดค้านไปจับประเด็นมาตรา 43 คือ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและ การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมนั้น มีอีกหลายเรื่องที่นักวิชาการกลุ่มนี้ควรไปเร่งรัดและผลักดันมากกว่า เช่น ประเด็นการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศไทยของนายทุนทั้งในประเทศและที่ถือครองแทนนายทุนต่างประเทศ ที่ดินเพื่อการเกษตรปัจจุบันไปอยู่ในมือนายทุนหมดแล้ว ที่ดินที่ทำนาส่วนใหญ่เป็นการเช่าที่ดิน
"สิ่งที่นักวิชาการที่คัดค้านต้องเร่งดำเนินการ ควรเป็นการทำอย่างไรให้เกิดการผลักดันในการแก้กฎหมายเรื่องการถือครองที่ดิน การจัดรูปที่ดิน การเช่าที่ดิน รวมถึงการเข้ามาของนายทุนต่างชาติ ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศไทย ทำการเกษตรแทนเกษตรกรคนไทย และการที่นายทุนเจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่าที่ดินที่เป็นที่นาทั้งประเทศ โดยเฉพาะในภาคกลางจำนวนมาก ทำให้ชาวนาจะไม่มีที่นาเพื่อทำกินแล้วในปัจจุบัน"นายวิเชียรกล่าว
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังการรับตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่แล้ว จะเร่งดำเนินโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำ และทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น มีเงินเหลือมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ โดยโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ปี 55/56 จะเริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค.นี้แน่นอน
ส่วนการที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ล่ารายชื่อประชาชนเพื่อฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ล้มเลิกโครงการนั้น ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร นักวิชาการไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์กว่านี้ทำกันแล้วหรือ โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร เกษตรกรได้ประโยชน์ หากจะคัดค้าน ทำไมไม่คัดค้านตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินการในครั้งแรกๆ เมื่อหลายปีก่อน หากรัฐบาลไม่ทำโครงการนี้แล้วราคาข้าวตก ใครจะรับผิดชอบ และช่วยเหลือเกษตรกร.
ทั้งนี้เนื่องจากโครงการดังกล่าวสร้างประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตชาวนาไทย สำหรับนักวิชาการที่ออกมาคัดค้านนั้นอยากให้เข้ามาลงพื้นที่จริง ทำวิจัยให้ตามหลักวิชาการก่อนที่จะตัดสินใจยืนคัดด้านอย่างเป็นทางการ
"อยากทราบว่านักวิชาการกลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่ออะไร หรือเพียงต้องการล้มรัฐบาล โดยหาเหตุเรื่องโครงการรับจำนำข้าวและชาวนาเป็นเครื่องมือในการดิสเครดิตเท่านั้น พวกเราพร้อมที่จะดีเบทกับนักวิชาการกลุ่มนี้ทุกเวที อย่างไรก็ตามเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับตามที่นักวิชาการยื่นเช่นกัน"นายวิเชียรกล่าว
นายวิเชียรกล่าวอีกว่า หากนักวิชาการที่คัดค้านไปจับประเด็นมาตรา 43 คือ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและ การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมนั้น มีอีกหลายเรื่องที่นักวิชาการกลุ่มนี้ควรไปเร่งรัดและผลักดันมากกว่า เช่น ประเด็นการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศไทยของนายทุนทั้งในประเทศและที่ถือครองแทนนายทุนต่างประเทศ ที่ดินเพื่อการเกษตรปัจจุบันไปอยู่ในมือนายทุนหมดแล้ว ที่ดินที่ทำนาส่วนใหญ่เป็นการเช่าที่ดิน
"สิ่งที่นักวิชาการที่คัดค้านต้องเร่งดำเนินการ ควรเป็นการทำอย่างไรให้เกิดการผลักดันในการแก้กฎหมายเรื่องการถือครองที่ดิน การจัดรูปที่ดิน การเช่าที่ดิน รวมถึงการเข้ามาของนายทุนต่างชาติ ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศไทย ทำการเกษตรแทนเกษตรกรคนไทย และการที่นายทุนเจ้าของที่ดินบอกเลิกการเช่าที่ดินที่เป็นที่นาทั้งประเทศ โดยเฉพาะในภาคกลางจำนวนมาก ทำให้ชาวนาจะไม่มีที่นาเพื่อทำกินแล้วในปัจจุบัน"นายวิเชียรกล่าว
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังการรับตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่แล้ว จะเร่งดำเนินโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำ และทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น มีเงินเหลือมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้ โดยโครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ปี 55/56 จะเริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค.นี้แน่นอน
ส่วนการที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ล่ารายชื่อประชาชนเพื่อฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ล้มเลิกโครงการนั้น ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร นักวิชาการไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์กว่านี้ทำกันแล้วหรือ โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร เกษตรกรได้ประโยชน์ หากจะคัดค้าน ทำไมไม่คัดค้านตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินการในครั้งแรกๆ เมื่อหลายปีก่อน หากรัฐบาลไม่ทำโครงการนี้แล้วราคาข้าวตก ใครจะรับผิดชอบ และช่วยเหลือเกษตรกร.
