xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้อง"สนธิ" ยันชัดไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง แฉมีขบวนการเอาตนเข้าคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการรายวัน-ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง “สนธิ ลิ้มทองกุล” กรณีหยิบยกคำปราศรัย “ดา ตอร์ปิโด” ขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุม ชัดเจนไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง ด้านเจ้าตัวขอบคุณศาลไม่หวั่นไหว ทั้งๆ ที่มีขบวนการเอาตนเข้าคุกให้ได้ ยันคดีที่เหลือ หากศาลตัดสินอย่างไร ก็พร้อมรับโทษ เผยคดีชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เมื่อปี 53 อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 8 ต.ค.นี้

วานนี้ (26 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.55 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีหมิ่นเบื้องสูงหมายเลขดำที่ 2066/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

จากกรณี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2551 ช่วงกลางคืน จำเลยได้ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยการกระจายเสียงทางเครื่องขยายเสียงท่ามกลางประชาชนที่มาฟังจำนวนหลายคน อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และทางอินเตอร์เน็ตผ่านทางเว็บไซต์ของเอเอสทีวี ให้ประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติได้รับชมและรับฟังทั้งในและต่างประเทศ โดยจำเลยนำเอาคำปราศรัยของน.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือดา ตอร์ปิโด ที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 18 ปี ฐานหมิ่นเบื้องสูงที่พูดบนเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวงมาพูดซ้ำ ซึ่งเป็นคำพูดที่มีถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ การกระทำของจำเลยอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดจนบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เหตุเกิดที่แขวง-เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงขอให้ลงโทษตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่า การพูดของจำเลยสืบเนื่องมาจากการที่ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล พูดบนเวทีปราศรัย ที่ท้องสนามหลวง เป็นการพูดโดยถอดข้อความบางตอนมาสรุปให้ประชาชนฟัง โดยจำเลยเห็นว่าคำพูดของ น.ส.ดารณี เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ และพระราชินี จึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ขณะนั้น ให้ดำเนินคดีกับน.ส.ดารณี จึงเห็นได้ว่าการที่จำเลยสรุปคำพูดของน.ส.ดารณี เมื่อฟังโดยรวมแล้วเป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับน.ส.ดารณี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการขยายคำพูดของน.ส.ดารณี อันมีเจตนาโดยตรงเพื่อหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และพระราชินี การกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ให้พิพากษายกฟ้อง

ภายหลังนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า มีกระบวนการที่พยายามจะนำตนเข้าคุกให้ได้ วันนี้ ขอขอบคุณศาลที่ตัดสินโดยไม่หวั่นไหว ตัดสินบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ส่วนคดีที่เหลือ หากศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก ตนก็จะไม่หลบหนี ยืนยันจะเดินเข้าคุกอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มเสื้อเหลืองกับกลุ่มนปช. ที่หน้ากองปราบปรามนั้น ปัญหาเกิดขึ้นมาจากตำรวจกองปราบแอบจับมือกับคนเสื้อแดง พิสูจน์ได้จากวีดีโอที่มีการฉุดกระชากลากถูคนที่ถูกตีศีรษะเข้าไปในกองปราบ ตามคลิปที่ปรากฏอยู่ ดังนั้น ตำรวจกองปราบต้องรับผิดชอบ เห็นได้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ กลุ่มตนมองว่าฝ่ายที่ผิด คือ ตำรวจกองปราบปรามที่มีหน้าที่ต้องปกป้องประชาชน แต่กลับทำงานเพื่อเอาใจนาย เอาใจผู้บังคับบัญชา แล้วตนจะบอกลูกหลานได้อย่างไรในเมื่อสังคมไทยมันบัดซบเช่นนี้

ด้านนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ หากอัยการจะอุทธรณ์ ก็มีเวลา 30 วัน ส่วนตัวเชื่อว่า อัยการจะยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน แต่ตนไม่ห่วง เพราะมั่นใจว่าเราไม่มีเจตนา อีกทั้งมีหลักฐานแผ่นซีดีคำปราศรัยของน.ส.ดารณี ที่ได้มอบให้กับพนักงานสอบสวน

สำหรับคดีที่อัยการนัดสั่งคดีแกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันก่อการร้ายในการชุมนุมปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งคดีที่ร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา ที่อัยการนัดสั่งคดีวันที่ 8 ต.ค.นั้น เชื่อว่าอัยการน่าจะมีคำสั่งฟ้อง เพียงแต่จะฟ้องผู้ต้องหากี่คน ใครบ้างเท่านั้น ขณะที่เราก็จะต้องเตรียมหาเงินประกัน ถ้าแกนนำ 15 คน คนละล้าน คนละห้าแสนก็ต้องหาเงินมาประกัน

นายประพันธ์ คูณมี แนวร่วมพันธมิตรฯ และทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ นายสนธิ เพียงแต่สรุปคำปราศรัยของนางดารณี หรือดา ตอร์ปิโด ให้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ รับทราบ จุดประสงค์เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนทำหน้าที่ตามกฎหมาย โดยไม่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใด ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง

วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก อัยการฝ่ายคดีอาญา 10 นัดสั่งคดีนายสนธิ ร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลด้วย

น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ กล่าวว่า ได้เข้าพบกับอัยการเพื่อขอนัดเลื่อนสั่งคดี เนื่องจากนายสนธิติดฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญา ซึ่งอัยการมีคำสั่งให้เลื่อนพร้อมนัดฟังคำสั่งอีกครั้งวันที่ 20 พ.ย. เวลา 10.00 น. ส่วนสำนวนคดีที่นายสนธิถูกกล่าวหาหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งสำนวนที่นายสนธิร่วมกับแกนนำฯ ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา อัยการนัดสั่งคดีพร้อมกับสำนวนคดีที่แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ รวม 114 ราย ร่วมกันชุมนุมปิดล้อม ท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2553 ในวันที่ 8 ต.ค. เวลา 10.00 น.เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น