“ดร.พิชาย” จวก “สุกำพล” มองแดงละเมิด กม.ตีเหลืองเรื่องเล็ก หากเป็นญาติตัวเองจะพูดแบบนี้หรือไม่ ตั้งแง่หนุนละเมิด กม.ใช้ความรุนแรง ชวนสงสัยเคยสนับสนุนสิ่งที่รุนแรงกว่านี้ในปี 53 หรือไม่ ดักคออย่าโทษปัจจัยภายนอก สาเหตุประเทศไม่เจริญเป็นเพราะ รบ.ไร้ประสิทธิภาพบริหารให้ โปร่งใส เป็นธรรม
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พิชาย ณภูเก็ต ภายใต้หัวข้อ “ความตื้นเขินในการมองปัญหาของชาติ” ถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ประเด็นคนเสื้อแดงบุกป่วนกลุ่มเสื้อเหลืองที่กองปราบฯ เป็นเรื่องนิดเดียว ว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ที่สะท้อนตัวตนที่แท้จริงออกมาหลายอย่าง
1. ขาดความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้ง สะท้อนถึงความจำกัดทางปัญญาเฉกเช่นเดียวกับนายหญิงนกแก้วของเขา เพราะการปะทะกันวันนี้เป็นผิวหน้าของปรากฏการณ์แห่งความขัดแย้งที่ฝังรากลึก และทยอยปะทุออกมาระหว่างกลุ่มเสื้อแดงที่ต้องการล้มล้างสถาบัน กับกลุ่มประชาชนที่เห็นคุณค่าและเคารพในสถาบัน นับจากนี้ผมคิดว่าความรุนแรงและการปะทะกันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลากหลายรูปแบบและวิธีการ
2. เท่าที่ผมสัมผัสกระแสความรู้สึกของคนจำนวนไม่น้อย กระแสของความเกลียดชังและโกรธทวีความเข้มข้นมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยตามที่คุณสุกำพลพูด ยกเว้นคุณสุกำพลอยากเอาหัวตัวเองซุกไว้ในทราย เหมือนนกกระจอกเทศที่หลับหูหลับตาไม่ยอมรับรู้ปัญหาใดๆทั้งสิ้น โดยเฉพาะความจริงที่ว่ารัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปัญหานี้ดำรงอยู่และขยายตัวออกไป
3. จากคำสัมภาษณ์ คุณสุกำพลดูเหมือนยอมรับเป็นนัยว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อแดง ซึ่งอาจทำให้คุณสุกำพลรู้สึกเฉยๆเมื่อพวกตนเองทำร้ายผู้อื่น หากเราหรือคนของเราทำร้ายคนอื่นเรื่องราวก็ดูเล็กน้อยใช่ไหมครับ แต่หากญาติพี่น้องของคุณสุกำพลถูกทำร้ายบ้าง คุณสุกำพลจะพูดแบบนี้ไหมครับ
4. หากคุณสุกำพลอยากสบายใจ ก็ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและไปเลี้ยงหลานที่บ้านจะดีกว่า การสัมภาษณ์ที่เป็นการให้ท้ายคนเสื้อแดงเถื่อนๆ เหล่านั้น ไม่ต่างกับการสนับสนุนให้คนใช้ความรุนแรงและละเมิดกฏหมายขื่อแปของบ้านเมือง คุณสุกำพลในฐานะเป็นรัฐมนตรีที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กลับเห็นการละเมิดกฎหมายกลางนครหลวงเป็นเรื่องเล็กๆ จึงชวนให้สงสัยว่าคุณสุกำพลเคยทำหรือสนับสนุนให้ทำสิ่งที่รุนแรงกว่านี้ในช่วงเวลาปี2553 หรือไม่?
5 การที่ประเทศเจริญหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการมองว่าเรื่องการปะทะกันเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กหรอกครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่า
5.1 คณะรัฐบาลที่คุณเป็นส่วนหนึ่งมีสติปัญญาเพียงพอที่จะบริหารประเทศให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรมหรือไม่ แต่เท่าที่ดูพวกคุณบริหารประเทศมาปีกว่าผมเห็นว่า พวกคุณไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย
5.2. คณะรัฐบาลของคุณมีการทุจริตมากน้อยเพียงใด เท่าที่มีข่าวคราวจากนักธุรกิจบ้าง จากสื่อมวลชนบ้าง จากข้าราชการบ้าง ดูเหมือนในยุคที่พวกคุณเป็นรัฐบาลข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตมีมากเหลือเกิน
5.3 พวกคุณมีสามารถในการสร้างความไว้วางใจ สร้างความสมานฉันท์ ความสามัคคีแก่คนในชาติให้เกิดพลังร่วมในการพัฒนาหรือไม่ คำตอบคือไม่แม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำการกระทำของรัฐบาลพวกคุณกลับสร้างความขัดแย้งให้ลึกลงไปอีกด้วยการพยายามออกกฎหมายช่วยเหลืออาชญากรของชาติที่เป็นนายเหนือหัวของพวกคุณนั่นแหละ เพราะฉะนั้นหากประเทศไม่เจริญก็เป็นเพราะการมีพวกคุณเป็นรัฐบาลนั่นแหละ