**ท่าจะเป็นเรื่องเป็นราวหนักอกหนักใจของรัฐบาลเสียแล้ว ในกรณีที่ "ขุนพลหัวขาว" ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เจอชนักติดหลังย้อนศรมาเล่นงาน
จากปมสนามกอล์ฟอัลไพน์อันลือลั่น ฉาวโฉ่ จนถึงตอนนี้แม้หน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกฤษฎีกา จะออกโรงมาอุ้ม การันตีสถานะกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ก็ยังไม่อาจไว้วางใจอะไรได้เลย
อย่างการประชุมครม.ครั้งล่าสุด ยังออกอาการหนาวสั่น ใจป๊อด ไม่กล้าให้ "ยงยุทธ" นั่งเป็นประธานการประชุมตามหน้าที่ ตีชิ่งหนีไปตรวจน้ำท่วมเอาดื้อๆ ท่ามกลางความงุนงงสงสัย มาตรวจน้ำอะไรป่านนี้ วันอื่นไปได้ไม่ไป มาไปเอาวันประชุมครม. สะท้อนอย่างชัดเจนถึงความกลัวในจิตใจ
แว่วว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้งแกนนำรัฐบาล แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่กล้าเสี่ยงที่จะให้ "ยงยุทธ" นั่งประธานการประชุมครม. เพราะหวั่นเกรงทำผิดข้อกฎหมาย เป็นภัยย้อนตามมาเล่นงานภายหลัง จึงสั่งการด่วนให้ เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ลำดับถัดไป นั่งหัวโต๊ะแทน
แม้จะมีความพยายามทำเรื่องนี้ให้ลุล่วงเงียบเชียบแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อโดนกระแสสังคมโหมตรวจสอบหนักข้อเข้า ก็ออกอาการนั่งไม่ติด ไม่แน่ใจถึงสถานภาพของตัวเอง ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี รวมไปถึงตำแหน่งส.ส. จะทำอะไรก็ไม่กล้า ละล้าละลังอยู่อย่างนั้น ล่าสุดเลยต้องส่งสมุนคู่ใจ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไปสอบถามเรื่องนี้ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
หลังจากที่เจอเครือข่ายคนกันเอง อย่าง เทพพนม นามลี ประธานคณะกรรมการแนวร่วมประชาธิปไตย (แดงสุรินทร์) และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นเรื่องให้กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และส.ส. อ้างว่า หาก "ยงยุทธ" ยังทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ในฐานะหัวหน้าพรรค อาจจะมีคนนำผลการชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาร้องต่อกกต. เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย
**พร้อมติดติ่งทิ้งท้ายว่า คนเสื้อแดงได้คุยกันแล้วในกลุ่มแกนนำแดงเหนือ-กลาง-และอีสาน จะประชุมหามาตรการกดดันเชิญ "ยงยุทธ" ออก
ไม่ว่านายยงยุทธจะอยู่ตรงไหน ก็จะเอาใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคไปให้เซ็นถึงที่ พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียกประชุมขับ "ยงยุทธ" ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เพราะอาจส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงพรรคเพื่อไทยโดยรวม
ไม่รู้ว่า เป็นความหวังดีประสงค์ร้ายของใครบางคนหรือไม่ เพราะภายในพรรคเพื่อไทยเองก็มีขาใหญ่ ขาเก๋า จ้องเลื่อยขาเก้าอี้ "ยงยุทธ" มานานแล้ว ทั้งเก้าอี้รองนายกฯ เก้าอี้รมว.มหาดไทย ยิ่งใหญ่น่าสนใจเหลือเกิน ที่ผ่านมาก็มีการปล่อยข่าวทิ่ม "ขุนพลหัวขาว" เขย่าเก้าอี้มาเป็นระยะ เพียงแต่ยังมี "ยิ่งลักษณ์" ให้ท้ายอยู่ เลยอยู่รอดปลอดภัยมาได้จนวันนี้
แกนนำหลายคนในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงบรรดาส.ส. ต่างฟันธงว่า ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย "ยงยุทธ" ทำ "เสียของ" ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์สร้างอานุภาพให้รัฐบาลในหลายๆ มิติเท่าที่ควร การโยกย้ายผู้ว่าฯ อธิบดี ก็ไม่ได้ดั่งใจส.ส. มัวแต่เกรงอกเกรงใจข้าราชการ
เมื่อสบช่องก็ใช้โอกาสนี้ถล่มจน "ยงยุทธ" เซถลา เอียงกะเท่เร่ เพราะสำรวจตรวจแถวแล้วคนในพรรคที่แอบอิงกับ "ยงยุทธ" แทบไม่มี จะมีก็เพียงแค่ "ยิ่งลักษณ์" กับ "เสด็จพี่" เท่านั้น ส่วนอื่นๆ จะหนักไปในทางจ้องถล่มซ้ำเสียมากกว่า
**ชั่วโมงนี้ "ยงยุทธ" จึงไม่เพียงแต่ต้องรับศึกนอกเท่านั้น ศึกในดูจะเป็นงานช้างกว่า
ที่หนักหนา และดูเป็นข้อหาฉกาจฉกรรจ์ทำให้คนในพรรคเพื่อไทยขนหัวลุก คือการที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เข้ายื่นหนังสือถึงกกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ "ยงยุทธ"
พร้อมขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเป็นเวลา 5 ปี สืบเนื่องจากปมอัลไพน์ สงสัยว่านายยงยุทธ ขาดการเป็นสมาชิกภาพของพรรคเพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 หรือไม่ มีสิทธิไปเซ็นรับรองส่งสมาชิกพรรคลงสมัครส.ส. ในฐานะหัวหน้าพรรคหรือไม่
เล่นกันหนักถึงขั้นล้มกันทั้งรัฐบาล พังกันไปทั้งพรรคเพื่อไทย ทำให้หลายคนเริ่มคิดถึงกระบวนการตัดไฟต้นลม ก่อนลามเผาไหม้วอดวายทั้งคณะ เลือกที่จะรีบๆ ตัด "ยงยุทธ" ออกก่อนที่ไฟฟ้าจะลัดวงจร หากตัดไปแล้วกระแสร้อนๆ ที่พุ่งเข้าใส่ คงจางหายไปได้เยอะ แต่หากยังเลือกอุ้มกระเตงไว้ ก็เหมือนเอาเผือกร้อนมาถือไว้จนลวกมือ พุพอง
แม้แต่ ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ผู้หลบหนีคดียังตะโกนจากทางไกล ให้ "ยิ่งลักษณ์" ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่า เอาตัวจริงกลับคืนสนามได้แล้ว อย่าเอารัฐมนตรีตัวสำรองมาสร้างภาระ แต่ดูเหมือนว่า "ยิ่งลักษณ์" ยังไม่สนใจรับฟังมากนัก เรื่องปรับครม. ก็เตะถ่วง ยื้อไปเรื่อยๆ คิดว่าที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็ทำงานได้ดีแล้ว สั่งการได้ง่าย หากเอาพวกบิ๊กเนมกลับมาตามความต้องการของพี่ชาย อะไรๆ ก็อาจเปลี่ยนไป บารมีนายกฯ อาจหดหาย
กระนั้นเมื่อสัญญาณจากนายใหญ่เริ่มแจ่มชัด พวกสมุนชั้นเอก บ้านเลขที่ 111 คงไม่อยู่เฉย ต้องออกมาเดินเกมลึกลับผสมโรง เร่งเกมปรับครม. พร้อมเลื่อยขาเก้าอี้รมต.หลายคนที่นั่งอยู่ตอนนี้อย่างแนบเนียน หลายคนจึงออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ มาพักใหญ่แล้ว งานการไม่เป็นอันจะทำงาน คิดแต่เกมรักษาเก้าอี้ นโยบายมันเลยไม่เดินหน้าไปไหน เหมือนติดหล่มสุญญากาศอยู่อย่างนั้น
วันนี้คดีของ "ยงยุทธ" มันจะหนักหนาก็เพราะคนในเล่นกันเองนี่แหละ แม้ "ยิ่งลักษณ์" จะกระเตงเอาให้อยู่อย่างไร ก็ยังถือเป็นงานหนัก สารพัดสารพันข้อหาที่ถาโถมเข้าใส่ทำให้ "ยงยุทธ" ยืนต้านกระแสลำบาก "ยิ่งลักษณ์" เองก็คงทนแรงเสียดทานทั้งจากภายนอกและภายในไม่ไหว
การปรับครม.ครั้งหน้า ส่อเค้าว่า "ยงยุทธ" ถึงคราวต้องย้ายก้นออกไปเสียที หลังเหนียวแน่นอยู่ในคลองหลอดมานาน อย่างว่ายิ่งสูง ยิ่งหนาว ยิ่งใหญ่ยิ่งโดดเด่น คนจ้องถีบให้กระเด็นลงมามันมีเยอะ
**การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ต่อหน้ายังยิ้ม ไหว้กันดีๆ คล้อยหลังก็เอามีดไล่แทงกันแล้ว !!
จากปมสนามกอล์ฟอัลไพน์อันลือลั่น ฉาวโฉ่ จนถึงตอนนี้แม้หน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกฤษฎีกา จะออกโรงมาอุ้ม การันตีสถานะกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ก็ยังไม่อาจไว้วางใจอะไรได้เลย
อย่างการประชุมครม.ครั้งล่าสุด ยังออกอาการหนาวสั่น ใจป๊อด ไม่กล้าให้ "ยงยุทธ" นั่งเป็นประธานการประชุมตามหน้าที่ ตีชิ่งหนีไปตรวจน้ำท่วมเอาดื้อๆ ท่ามกลางความงุนงงสงสัย มาตรวจน้ำอะไรป่านนี้ วันอื่นไปได้ไม่ไป มาไปเอาวันประชุมครม. สะท้อนอย่างชัดเจนถึงความกลัวในจิตใจ
แว่วว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้งแกนนำรัฐบาล แกนนำพรรคเพื่อไทย ไม่กล้าเสี่ยงที่จะให้ "ยงยุทธ" นั่งประธานการประชุมครม. เพราะหวั่นเกรงทำผิดข้อกฎหมาย เป็นภัยย้อนตามมาเล่นงานภายหลัง จึงสั่งการด่วนให้ เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ลำดับถัดไป นั่งหัวโต๊ะแทน
แม้จะมีความพยายามทำเรื่องนี้ให้ลุล่วงเงียบเชียบแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อโดนกระแสสังคมโหมตรวจสอบหนักข้อเข้า ก็ออกอาการนั่งไม่ติด ไม่แน่ใจถึงสถานภาพของตัวเอง ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี รวมไปถึงตำแหน่งส.ส. จะทำอะไรก็ไม่กล้า ละล้าละลังอยู่อย่างนั้น ล่าสุดเลยต้องส่งสมุนคู่ใจ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไปสอบถามเรื่องนี้ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
หลังจากที่เจอเครือข่ายคนกันเอง อย่าง เทพพนม นามลี ประธานคณะกรรมการแนวร่วมประชาธิปไตย (แดงสุรินทร์) และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นเรื่องให้กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และส.ส. อ้างว่า หาก "ยงยุทธ" ยังทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ในฐานะหัวหน้าพรรค อาจจะมีคนนำผลการชี้มูลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาร้องต่อกกต. เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย
**พร้อมติดติ่งทิ้งท้ายว่า คนเสื้อแดงได้คุยกันแล้วในกลุ่มแกนนำแดงเหนือ-กลาง-และอีสาน จะประชุมหามาตรการกดดันเชิญ "ยงยุทธ" ออก
ไม่ว่านายยงยุทธจะอยู่ตรงไหน ก็จะเอาใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคไปให้เซ็นถึงที่ พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียกประชุมขับ "ยงยุทธ" ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค เพราะอาจส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงพรรคเพื่อไทยโดยรวม
ไม่รู้ว่า เป็นความหวังดีประสงค์ร้ายของใครบางคนหรือไม่ เพราะภายในพรรคเพื่อไทยเองก็มีขาใหญ่ ขาเก๋า จ้องเลื่อยขาเก้าอี้ "ยงยุทธ" มานานแล้ว ทั้งเก้าอี้รองนายกฯ เก้าอี้รมว.มหาดไทย ยิ่งใหญ่น่าสนใจเหลือเกิน ที่ผ่านมาก็มีการปล่อยข่าวทิ่ม "ขุนพลหัวขาว" เขย่าเก้าอี้มาเป็นระยะ เพียงแต่ยังมี "ยิ่งลักษณ์" ให้ท้ายอยู่ เลยอยู่รอดปลอดภัยมาได้จนวันนี้
แกนนำหลายคนในพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงบรรดาส.ส. ต่างฟันธงว่า ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย "ยงยุทธ" ทำ "เสียของ" ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์สร้างอานุภาพให้รัฐบาลในหลายๆ มิติเท่าที่ควร การโยกย้ายผู้ว่าฯ อธิบดี ก็ไม่ได้ดั่งใจส.ส. มัวแต่เกรงอกเกรงใจข้าราชการ
เมื่อสบช่องก็ใช้โอกาสนี้ถล่มจน "ยงยุทธ" เซถลา เอียงกะเท่เร่ เพราะสำรวจตรวจแถวแล้วคนในพรรคที่แอบอิงกับ "ยงยุทธ" แทบไม่มี จะมีก็เพียงแค่ "ยิ่งลักษณ์" กับ "เสด็จพี่" เท่านั้น ส่วนอื่นๆ จะหนักไปในทางจ้องถล่มซ้ำเสียมากกว่า
**ชั่วโมงนี้ "ยงยุทธ" จึงไม่เพียงแต่ต้องรับศึกนอกเท่านั้น ศึกในดูจะเป็นงานช้างกว่า
ที่หนักหนา และดูเป็นข้อหาฉกาจฉกรรจ์ทำให้คนในพรรคเพื่อไทยขนหัวลุก คือการที่ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เข้ายื่นหนังสือถึงกกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ "ยงยุทธ"
พร้อมขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเป็นเวลา 5 ปี สืบเนื่องจากปมอัลไพน์ สงสัยว่านายยงยุทธ ขาดการเป็นสมาชิกภาพของพรรคเพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 หรือไม่ มีสิทธิไปเซ็นรับรองส่งสมาชิกพรรคลงสมัครส.ส. ในฐานะหัวหน้าพรรคหรือไม่
เล่นกันหนักถึงขั้นล้มกันทั้งรัฐบาล พังกันไปทั้งพรรคเพื่อไทย ทำให้หลายคนเริ่มคิดถึงกระบวนการตัดไฟต้นลม ก่อนลามเผาไหม้วอดวายทั้งคณะ เลือกที่จะรีบๆ ตัด "ยงยุทธ" ออกก่อนที่ไฟฟ้าจะลัดวงจร หากตัดไปแล้วกระแสร้อนๆ ที่พุ่งเข้าใส่ คงจางหายไปได้เยอะ แต่หากยังเลือกอุ้มกระเตงไว้ ก็เหมือนเอาเผือกร้อนมาถือไว้จนลวกมือ พุพอง
แม้แต่ ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ผู้หลบหนีคดียังตะโกนจากทางไกล ให้ "ยิ่งลักษณ์" ระมัดระวังเรื่องพวกนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่า เอาตัวจริงกลับคืนสนามได้แล้ว อย่าเอารัฐมนตรีตัวสำรองมาสร้างภาระ แต่ดูเหมือนว่า "ยิ่งลักษณ์" ยังไม่สนใจรับฟังมากนัก เรื่องปรับครม. ก็เตะถ่วง ยื้อไปเรื่อยๆ คิดว่าที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็ทำงานได้ดีแล้ว สั่งการได้ง่าย หากเอาพวกบิ๊กเนมกลับมาตามความต้องการของพี่ชาย อะไรๆ ก็อาจเปลี่ยนไป บารมีนายกฯ อาจหดหาย
กระนั้นเมื่อสัญญาณจากนายใหญ่เริ่มแจ่มชัด พวกสมุนชั้นเอก บ้านเลขที่ 111 คงไม่อยู่เฉย ต้องออกมาเดินเกมลึกลับผสมโรง เร่งเกมปรับครม. พร้อมเลื่อยขาเก้าอี้รมต.หลายคนที่นั่งอยู่ตอนนี้อย่างแนบเนียน หลายคนจึงออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ มาพักใหญ่แล้ว งานการไม่เป็นอันจะทำงาน คิดแต่เกมรักษาเก้าอี้ นโยบายมันเลยไม่เดินหน้าไปไหน เหมือนติดหล่มสุญญากาศอยู่อย่างนั้น
วันนี้คดีของ "ยงยุทธ" มันจะหนักหนาก็เพราะคนในเล่นกันเองนี่แหละ แม้ "ยิ่งลักษณ์" จะกระเตงเอาให้อยู่อย่างไร ก็ยังถือเป็นงานหนัก สารพัดสารพันข้อหาที่ถาโถมเข้าใส่ทำให้ "ยงยุทธ" ยืนต้านกระแสลำบาก "ยิ่งลักษณ์" เองก็คงทนแรงเสียดทานทั้งจากภายนอกและภายในไม่ไหว
การปรับครม.ครั้งหน้า ส่อเค้าว่า "ยงยุทธ" ถึงคราวต้องย้ายก้นออกไปเสียที หลังเหนียวแน่นอยู่ในคลองหลอดมานาน อย่างว่ายิ่งสูง ยิ่งหนาว ยิ่งใหญ่ยิ่งโดดเด่น คนจ้องถีบให้กระเด็นลงมามันมีเยอะ
**การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ต่อหน้ายังยิ้ม ไหว้กันดีๆ คล้อยหลังก็เอามีดไล่แทงกันแล้ว !!