xs
xsm
sm
md
lg

รับมือฝนถล่มกรุง2อำเภอปราจีนฯวิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูมิภาค - สบอช.เตือนชาวกรุงเทพฯ รับมือฝนถล่มช่วง 25-29 ก.ย.นี้ ขณะที่ไต้ฝุ่น "เจอลาวัต-ดีเปรสชั่น" พ้นไทยแล้ว ขณะที่ 2 อำเภอ "กบินทร์บุรี-ศรีมหาโพธิ" ของปราจีนบุรียังวิกฤต ระดับน้ำยังสูงขึ้นไม่หยุด เช่นเดียวกับที่กรุงเก่า น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วม "วัดบ้านเลนสระกระจับ" จม จนเมรุไม่สามารถเผาศพได้

เมื่อเวลา 10.10 น.วานนี้ (24 ก.ย.) ที่ตึกสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ เรืองงาม ผอ.สบอช.แถลงสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 24 ก.ย.ว่า ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของประเทศเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติเป็นส่วนใหญ่ สำหรับพายุไต้ฝุ่น "เจอลาวัต" ได้เพิ่มความเร็วจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 และกำลังเคลื่อนที่ไปยังทิศเหนือในประเทศไต้หวัน จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีพายุดีเปรสชั่นที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก หรือเรียกว่าพายุลูกที่ 19 ที่จะเคลื่อนตัวทางจากทิศเหนือของประเทศเข้าสู่ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น จึงไม่มีอิทธิพลต่อประเทศไทยเช่นกัน

โดยภาพรวมของประเทศไทยขณะนี้ฝนตกในระดับ 1,208 ม.ม. น้อยกว่าปีที่แล้ว 21 เปอร์เซ็นต์ ในระยะนี้จะมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทางภาคใต้ตอนบน คาดการณ์ว่า สถานการณ์ฝนทั่วทุกภาคในเดือน ก.ย. จะใกล้เคียงกับสภาวะปกติ ส่วนในเดือน ต.ค.จะมีค่าต่ำกว่าปกติ ยกเว้นภาคเหนือและภาคตะวันออก บริเวณชายฝั่ง จะมีค่าตามปกติของฝนทั่วไป ยกเว้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ

ส่วนในกรุงเทพฯ วันที่ 25-29 ก.ย.ฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 80-90 ของพื้นที่และตกหนักถึงตกหนักมากบางแห่ง พร้อมกับมีลมแปรปรวน

สำหรับสถานการณ์น้ำแล้งในปัจจุบัน ในส่วนของเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล มีน้ำ 61 % ของความจุเขื่อน คาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝน จะมีปริมาณน้ำ 80 % ของความจุอ่าง และมีน้ำเพียงพอให้ใช้ในฤดูแล้งปีต่อไป และหากมีพายุเข้ามาทางเหนือของประเทศทั้งสองเขื่อนก็จะมีที่ว่างสามารถรองรับน้ำฝนที่หลงฤดูเข้ามาได้

สำหรับสถานการณ์น้ำในลำน้ำหลักขณะนี้ โดยเฉพาะทางเหนือ จะเป็นลักษณะน้ำต่ำกว่าตลิ่ง ยกเว้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มีน้ำล้นตลิ่ง 1.95 เมตร ซึ่งขณะนี้ทรงตัว และไม่มีน้ำเข้ามาเพิ่ม

ส่วนที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำล้นตลิ่ง 12 ซ.ม. เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และมีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตก แต่จะไม่มีสถานการณ์ที่รุนแรง สำหรับพื้นที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จากข่าวน้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำป่าสัก ขณะนี้น้ำล้นตลิ่งเพียง 10 ซ.ม. และน้ำดังกล่าวจะไหลลงสู่เขื่อนป่าสัก ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ทั้งหมดโดยไม่มีปัญหา

ส่วนภาคตะวันออก ใน อ.เมือง และ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขณะนี้ อ.กบินทร์บุรี น้ำล้นตลิ่ง 1.63 เมตร ลักษณะทรงตัว คาดว่าจะลดลงภายใน 24 ช.ม.กรณีที่ไม่มีฝนตกเพิ่มเติม แต่หากมีฝนตกเพิ่มสถานการณ์จะไม่รุนแรง ทั้งนี้ น้ำประมาณ 810 ลบ.ม. ต่อวินาที จาก อ.กบินทร์บุรี จะไหลลงสู่อ่าวไทย โดยผ่านแม่น้ำบางประกง และผ่าน อ.เมืองฯ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้ อ.เมืองฯมีน้ำล้นตลิ่งอยู่ 19 ซ.ม. และคาดว่าสถานการณ์น้ำจะลดลงภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อยู่บริเวณแม่น้ำบางประกง จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแม่น้ำบางประกงยังสามารถรองรับน้ำได้

**ปราจีนบุรียังวิกฤตระดับน้ำยังสูง

ด้านสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี เมื่อเช้าวานนี้ (24 ก.ย.) ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ อ.กบินทร์บุรี และ อ.ศรีมหาโพธิ ระดับน้ำยังท่วมสูงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมประมาณ 1.90 เมตร สภาพพื้นที่หลายหมู่บ้านรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถวิ่งได้ ทางหน่วยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี ยังต้องนำรถยนต์ยูนิม็อกวิ่งรับส่งประชาชนในแต่ละพื้นที่ ส่วนถนนสายหลัก สาย 304 (ปราจีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) ช่วง กม.91 อ.กบินทร์บุรี กรมทางหลวงได้ปิดช่องการจราจร 1 ช่องให้รถวิ่งสวนทางกันเป็นระยะทางกว่า 4 กม.โดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 65 ซม.

สำหรับความเดือนร้อนโดยรวมทั้ง 2 อำเภอ กบินทร์บุรี กับ ศรีมหาโพธิ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 3,000 ราย นาข้าวเสียหาย 32,969 ไร่ พืชไร่เสียหาย 2,204 ไร่ สวน 549 ไร่ ถนนเสียหาย 108 สาย สะพานเสียหาย 6 แห่ง วัดน้ำท่วม 21 วัด โรงเรียนถูกน้ำท่วม 22 แห่ง ปิด 12 แห่ง

ส่วนในพื้นที่จ.พิจิตรขณะนี้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 7 อำเภอ 18 ตำบล 112 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,823 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร นาข้าวได้รับผลกระทบคาดว่า จะได้รับความเสียหาย จำนวน 4,870 ไร่ ถนนลูกรังถูกน้ำท่วมเป็นบางช่วง จำนวน 22 สาย คอสะพานชำรุด 1 แห่ง ท่อ คสล. ชำรุด 2 แห่ง ความเสียหายด้านต่าง ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ

**กองทัพพร้อมช่วยเหลือเต็มที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.สระแก้ว และปราจีนบุรีว่า กองทัพช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันแรก เพราะมีน้ำไหลลงมาจากเขา จนทำให้ระดับน้ำของแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อล้นท่วมในพื้นที่ต่างๆ ดังนั้นต้องรอให้น้ำระบายลง ซึ่งน้ำก็จะไหลลงมาสู่ภาคกลาง หากฝนตกก็อาจจะมาท่วมขังในพื้นที่ตรงกลาง ดังนั้นเราจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหากัน ห้ามฟ้าฝนไม่ได้ ทั้งนี้ เราจะต้องมาดูระบบการระบายว่ามีการดำเนินการที่ดีหรือยัง หากยังไม่ดีก็จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ หากแก้เป็นส่วนก็จะต้องเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตาม จะต้องฟังรัฐบาลในการให้ข้อมูล ขอร้องประชาชนอย่างตื่นตระหนักและโวยวาย ทั้งนี้กองทัพพร้อมจะช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น