ตั้งแต่ที่มีผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ตามรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่ไว้ให้
(1) พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนในกรณี
ก. ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
ข. การปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ ฯลฯ
เห็นมีครั้งนี้แหละครับที่ผู้ตรวจราชการแผ่นดินทำงานเข้าท่าหน่อย นั่นก็คือกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เดินทางมาที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการประจำกระทรวงการต่างประเทศที่ร่วมกันออกหนังสือเดินทางให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายปี 2554 (ไม่ออกหนังสือเดินทางให้อย่างเดียวนะครับ คาบไปให้ถึงดูไบด้วย) ว่าเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่ากรณีดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการสอบสวนแล้ว เห็นว่าการออกพาสปอร์ตให้ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ถูกต้องตามระเบียบหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) โดยข้อ 21 ว่าด้วยการปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทาง
(2) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ที่กำลังรับโทษทางอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้ และ (3) เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่น สั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ดังนั้นทักษิณจึงเข้าข่ายผิดระเบียบกระทรวงตามข้อ 21 (2) (3)
ความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวนี้ หากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ไม่เดินทางไปสอบถามก็คงจะเก็บเข้าแฟ้มอยู่อย่างนั้นให้สังคมลืมไปเอง ทั้งๆ ที่เรื่องอย่างนี้ผ่านมาจะครบปีแล้ว
นายรักษเกชา โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่า ขอให้กระทรวงการต่างประเทศไปทบทวนการออกหนังสือเดินทางของทักษิณ ให้ปฏิบัติตามระเบียบหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 อย่างเคร่งครัด วันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศแล้ว และให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงกลับมาภายในวันที่ 30 กันยายน 2555 ถ้าครบกำหนดไม่มีคำชี้แจง ผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่สนใจจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ขอบอกผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 3 ท่านว่า เตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรได้เลย และก็โปรดเตรียมใจไว้ด้วยว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ดี นายกรัฐมนตรีก็ดี ต่างก็มีใบหน้าอันแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกรู้สาต่อเรื่องอย่างนี้ทั้งสิ้น
เพราะการมาเป็นรัฐบาล มาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ล้วนทักษิณเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น การเข้ามารับหน้าที่ดังกล่าว หน้าที่หลักก็คือ จะต้องรับใช้ทักษิณทุกอย่างทุกประการ ทักษิณถูกถอนหนังสือเดินทาง สมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีความยากลำบากในการเดินทางเพราะกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนีคุกหนีตะราง หนีคดีความ จะต้องมีหนังสือเดินทาง จะต้องเดินทางเข้าประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อที่จะได้โฆษณาชวนเชื่อว่า สามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้หมดในโลกนี้ ที่ยังมาไม่ได้ก็ประเทศไทยนี่แหละเพราะถูกกลั่นแกล้ง มีผู้คนมากมายรักทักษิณ อำมาตย์จึงกลั่นแกล้ง เพราะเกรงว่าทักษิณจะแย่งชิงความรักไปหมด
ทั้งที่ตรรกะดังกล่าวคนละเรื่องกันเลยกับทักษิณทำผิดกฎหมาย ศาลพิจารณาแล้วตัดสินจำคุก คนละเรื่องคนละประเด็นกับทักษิณมีคนรัก มีคนเลือกและสามารถเดินทางไปประเทศโน้นประเทศนี้ หรือเดินทางรอบโลก ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่จะมองว่า ทักษิณบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทักษิณมีเงินสามารถมีหนังสือเดินทางมอนเตเนโก แต่มันไม่เท่ ไม่สมาร์ท เหมือนหนังสือเดินทางประเทศไทย การมีหนังสือเดินทางของประเทศไทย มันเท่ากับว่าได้ตบหน้าคนไทย ตบหน้าศาลไทยอย่างที่เขาได้ตบและเหยียบย่ำอยู่ทุกวันนี้
กูจะเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ประสีประสาทางการเมือง กูก็ทำได้ เอาใครเป็นรองนายกรัฐมนตรี เอาใครเป็นรัฐมนตรี กูก็ทำได้หมด ข้าราชการตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี ตำรวจ ทหาร ตำแหน่งสำคัญ ถ้าหากกู (ทักษิณ) ไม่อนุมัติ มึงอย่าหวังว่าจะได้
ช่วงวันเกิดทักษิณ และก่อนหน้าฤดูการแต่งตั้งข้าราชการปีนี้ ที่มีข้าราชการทั้งการเมือง ทั้งข้าราชการประจำแห่ไปหาทักษิณ หรือกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลบินไปให้ทักษิณติดยศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหอบบัญชีการแต่งตั้งทหารไปปรึกษาหารือกับทักษิณถึงลอนดอน และรายชื่อที่ออกมาก็เห็นกันอยู่แล้วในกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ ก็บอกให้รู้อยู่แล้วว่า ประเทศไทยอยู่ใต้ตีนทักษิณ
ใครจะทำไม?
ท่านผู้ตรวจการฯ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีไม่เอาธุระกับสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหนังสือไปถึงเขาหรอกครับ
ภารกิจอย่างอื่นเขายังไม่เสร็จ และยังจะเดินหน้าต่อเสียด้วยซ้ำ นั่นก็คือ เอางบประมาณแผ่นดินเกือบร้อยล้านบาท ไปตะล่อมถามประชาชน และให้ได้ความว่า สมควรที่จะปรองดองให้ทักษิณกลับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
แล้วเขาก็เดินหน้าต่อไป
พูดกับคนหน้าด้านนั้นยากกว่าพูดกับคนที่มีเหตุมีผล มีความละอายครับ
(1) พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนในกรณี
ก. ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
ข. การปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ ฯลฯ
เห็นมีครั้งนี้แหละครับที่ผู้ตรวจราชการแผ่นดินทำงานเข้าท่าหน่อย นั่นก็คือกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เดินทางมาที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่ได้ยื่นหนังสือให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการประจำกระทรวงการต่างประเทศที่ร่วมกันออกหนังสือเดินทางให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายปี 2554 (ไม่ออกหนังสือเดินทางให้อย่างเดียวนะครับ คาบไปให้ถึงดูไบด้วย) ว่าเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่ากรณีดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการสอบสวนแล้ว เห็นว่าการออกพาสปอร์ตให้ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ถูกต้องตามระเบียบหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) โดยข้อ 21 ว่าด้วยการปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทาง
(2) เมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ที่กำลังรับโทษทางอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้ และ (3) เมื่อผู้ร้องเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่น สั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ดังนั้นทักษิณจึงเข้าข่ายผิดระเบียบกระทรวงตามข้อ 21 (2) (3)
ความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินดังกล่าวนี้ หากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ไม่เดินทางไปสอบถามก็คงจะเก็บเข้าแฟ้มอยู่อย่างนั้นให้สังคมลืมไปเอง ทั้งๆ ที่เรื่องอย่างนี้ผ่านมาจะครบปีแล้ว
นายรักษเกชา โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่า ขอให้กระทรวงการต่างประเทศไปทบทวนการออกหนังสือเดินทางของทักษิณ ให้ปฏิบัติตามระเบียบหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 อย่างเคร่งครัด วันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศแล้ว และให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงกลับมาภายในวันที่ 30 กันยายน 2555 ถ้าครบกำหนดไม่มีคำชี้แจง ผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่สนใจจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ขอบอกผู้ตรวจการแผ่นดินทั้ง 3 ท่านว่า เตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎรได้เลย และก็โปรดเตรียมใจไว้ด้วยว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ดี นายกรัฐมนตรีก็ดี ต่างก็มีใบหน้าอันแข็งแกร่ง ไม่รู้สึกรู้สาต่อเรื่องอย่างนี้ทั้งสิ้น
เพราะการมาเป็นรัฐบาล มาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ล้วนทักษิณเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น การเข้ามารับหน้าที่ดังกล่าว หน้าที่หลักก็คือ จะต้องรับใช้ทักษิณทุกอย่างทุกประการ ทักษิณถูกถอนหนังสือเดินทาง สมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีความยากลำบากในการเดินทางเพราะกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนีคุกหนีตะราง หนีคดีความ จะต้องมีหนังสือเดินทาง จะต้องเดินทางเข้าประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อที่จะได้โฆษณาชวนเชื่อว่า สามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้หมดในโลกนี้ ที่ยังมาไม่ได้ก็ประเทศไทยนี่แหละเพราะถูกกลั่นแกล้ง มีผู้คนมากมายรักทักษิณ อำมาตย์จึงกลั่นแกล้ง เพราะเกรงว่าทักษิณจะแย่งชิงความรักไปหมด
ทั้งที่ตรรกะดังกล่าวคนละเรื่องกันเลยกับทักษิณทำผิดกฎหมาย ศาลพิจารณาแล้วตัดสินจำคุก คนละเรื่องคนละประเด็นกับทักษิณมีคนรัก มีคนเลือกและสามารถเดินทางไปประเทศโน้นประเทศนี้ หรือเดินทางรอบโลก ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่จะมองว่า ทักษิณบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทักษิณมีเงินสามารถมีหนังสือเดินทางมอนเตเนโก แต่มันไม่เท่ ไม่สมาร์ท เหมือนหนังสือเดินทางประเทศไทย การมีหนังสือเดินทางของประเทศไทย มันเท่ากับว่าได้ตบหน้าคนไทย ตบหน้าศาลไทยอย่างที่เขาได้ตบและเหยียบย่ำอยู่ทุกวันนี้
กูจะเอาใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ประสีประสาทางการเมือง กูก็ทำได้ เอาใครเป็นรองนายกรัฐมนตรี เอาใครเป็นรัฐมนตรี กูก็ทำได้หมด ข้าราชการตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี ตำรวจ ทหาร ตำแหน่งสำคัญ ถ้าหากกู (ทักษิณ) ไม่อนุมัติ มึงอย่าหวังว่าจะได้
ช่วงวันเกิดทักษิณ และก่อนหน้าฤดูการแต่งตั้งข้าราชการปีนี้ ที่มีข้าราชการทั้งการเมือง ทั้งข้าราชการประจำแห่ไปหาทักษิณ หรือกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลบินไปให้ทักษิณติดยศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหอบบัญชีการแต่งตั้งทหารไปปรึกษาหารือกับทักษิณถึงลอนดอน และรายชื่อที่ออกมาก็เห็นกันอยู่แล้วในกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ ก็บอกให้รู้อยู่แล้วว่า ประเทศไทยอยู่ใต้ตีนทักษิณ
ใครจะทำไม?
ท่านผู้ตรวจการฯ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีไม่เอาธุระกับสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหนังสือไปถึงเขาหรอกครับ
ภารกิจอย่างอื่นเขายังไม่เสร็จ และยังจะเดินหน้าต่อเสียด้วยซ้ำ นั่นก็คือ เอางบประมาณแผ่นดินเกือบร้อยล้านบาท ไปตะล่อมถามประชาชน และให้ได้ความว่า สมควรที่จะปรองดองให้ทักษิณกลับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
แล้วเขาก็เดินหน้าต่อไป
พูดกับคนหน้าด้านนั้นยากกว่าพูดกับคนที่มีเหตุมีผล มีความละอายครับ
