สุโขทัยระทมซ้ำ ชาวบ้านปั่นป่วนทั่วเมืองต้องหยุดทำความสะอาดบ้าน หันมาขนของหนีน้ำท่วมอีกรอบ หลังน้ำยมทะทักเพิ่มระดับเกินจุดวิกฤต และรั่วซึมไหลเข้าท่วมเมืองอีกหน จน "บิ๊กแบ็ก-กาเบรียล" เอาไม่อยู่ ผู้ว่าฯสุโขทัย ประกาศให้ ปชช.อพยพด่วน ส่วนเมืองสองแควอีก 2 วันอ่วมแน่ เตือนชาว "บางระกำ" เตรียมพร้อมรับมือ จมบาดาลแน่ ด้าน "ปากน้ำโพ" โดนแล้ว 2 ตำบลในที่ลุ่ม แนวโน้มจ่อวิกฤต อุตุฯเตือน 16-18 ก.ย.พายุฝนยังถล่มไทย
วานนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนที่ตกในพื้นที่ทางตอนเหนือของ จ.สุโขทัย รวมทั้งน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำยม จนส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัยสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่โดยที่จุดวัดระดับน้ำสถานี Y4 อ.เมืองสุดขทัยของกรมชลประทานตั้งอยู่ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย วัดระดับน้ำได้สูงถึง 7.25 เมตร ใกล้เทียบเคียงกับจุดวิกฤตน้ำท่วมที่ 7.33 เมตร
ด้านพื้นที่เขตเศรษฐกิจเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ซึ่งน้ำที่ท่วมขังเพิ่งจะเข้าสภาวะคลี่คลายกลับต้องเผชิญภาวะน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่อีกครั้งจากกระแสน้ำที่เอ่อทะลักบริเวณจุดกัดเซาะภายในแนวกั้นบิ๊กแบ๊กและกล่องหินเกเบรียล ได้ทะลักไหลลอดซึมออกมาตามช่องว่างของแนวกั้นไหลเข้าสู่ย่านอาคารร้านค้า เขตเศรษฐกิจชั้นใน ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ซ้ำอีกครั้งสูง 30-50 ซม.
ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งชาวบ้านในตลาดต้องหยุดทำความสะอาดที่อยู่อาศัยและเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้ในที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล และต่างก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ก็ได้เร่งระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรและกระสอบทรายเข้าสกัดการไหลลอดของกระแสน้ำที่ผ่านบิ๊กแบ๊กและกล่องหินเกเบรียลแล้วเพื่อยับยั้งกระแสน้ำไม่ให้ไหลบ่าท่วมพื้นที่มากไปกว่านี้
ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณรอยรั่วซึมของน้ำ รวมทั้งวางแผนป้องกันน้ำด้วยการเทหินคลุกตลอดทั้งแนวตั้งแต่บริเวณรอยรั่วจนถึงวัดราชธานี เพื่อเป็นแนวเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวเมืองมากกว่านี้ ตลอดจนจะมีการเสริมกระสอบทรายอย่างต่อเนื่อง โดยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางมาบัญชาการด้วยตนเอง พร้อมทหารจากกองทัพภาคที่ 3 คอยเฝ้าบริเวณนี้ตลอดเวลา
**ผู้ว่าฯรับสุโขทัยวิกฤตสั่ง ปชช.อพยพ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ยอมรับว่า ขณะนี้ จ.สุโขทัย เกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกครั้งพร้อมกับประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เร่งรีบอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากน้ำยมได้ทะลักเข้าท่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นตามลำดับ
ขณะเดียวกันในพื้นที่ ม.1, 2 และ ม.4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณ ม.4 ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาคสุดขทัยระดับน้ำสูง 50-90 ซม.เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ และยังทำให้การเดินเครื่องยนต์เพื่อผลิตน้ำประปาก็ยังไม่สามารถทำได้จนน้ำประปาหยุดไหลในพื้นที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
รวมทั้งพื้นที่บริเวณ ม.6 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฏรได้รับผลกระทบอย่างน้อยกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก และ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง ปริมาณน้ำยมก็กำลังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากนี้ยังเกิดภาวะน้ำแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมอีกหลายพื้นที่ อาทิ พื้นที่ ม.5 บ้านวัดเกาะ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง และ พื้นที่ ม.1 และ ม.8 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก กระแสน้ำได้กัดเซาะแนวเขื่อนดินถนนเลียบแม่น้ำพังเป็นแนวยาว เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งริมแม่น้ำยมและขยายเป็นวงกว้างแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าพัดถล่ม 9 หมู่บ้าน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่นั้น ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป
**"เกาะคา"อ่วมอีก!น้ำวังทะลักท่วม3หมู่บ้าน
ที่ จ.ลำปาง แม่น้ำวังที่เพิ่มสูงขึ้นหลังฝนตกติดต่อกันหลายวันและตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำให้เช้าวานนี้น้ำแม่วังในพื้นที่ตอนใต้ คือ เขต อ.เกาะคา เอ่อทะลักและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร 3 หมู่บ้านใน ต.นาแส่ง อ.เกาะคา คือ บ้านนาแส่ง ม.6 บ้านแม่ไฮ ม.5 และบ้านนากิ๋ม ม.7 แต่ที่หนักสุด คือ บ้านนาแส่ง ในขณะนี้น้ำได้ท่วมประมาณ 70% แล้ว นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมสถานีอนามัย หรือศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลนาแส่ง ความสูงกว่า 1 เมตร และกำลังจ่อท่วมเข้าโรงเรียนนางแส่ง-แม่ไฮ-นากิ๋ม ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านนาแส่งด้วย ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งชาวบ้านให้ขนย้ายทรัพย์สินไว้ในที่สูง และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือแล้ว
ส่วนชาวบ้านที่อยู่บริเวณสองฟากฝั่งแม่น้ำวังในเขต อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตั้งแต่ ต.นาแก้ว ต.นาแส่ง อ.เกาะคา ต้องขนย้ายทรัพย์สินไว้ที่สูงและบางส่วนต้องขนออกจากบ้านไปยังที่ปลอดภัยหลังจากที่ปริมาณแม่น้ำวังไหลเชี่ยวกรากและเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากลำน้ำสาขาของแม่น้ำวังไหลเข้ามาสมทบทำให้น้ำในแม่น้ำวังเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว และล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่หลายจุด บางจุดที่เป็นถนนเลียบแม่น้ำวังพบว่าอีกประมาณ 20 ซม.น้ำก็จะเอ่อท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน
**สั่งคนพิษณุโลกอพยพ- อีก 2 วันโดน
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.การโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จนน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.แพร่ อุตรดิตถ์ นั้น ได้เกิดมวลน้ำที่ไหลเข้าสู่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย จำนวน 1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งถือว่ามากว่ามวลน้ำลูกที่ผ่านมาที่มีเพียง 1,055 ลบ.ม.ต่อวินาที เท่านั้น ส่งให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ จ.สุโขทัย จะเพิ่มระดับอีกครั้ง และหลังจากนั้นมวลน้ำลูกนี้จะไหลเข้ามาทางแม่น้ำยมสายเก่า และคลองหกบาท โดยระดับน้ำที่จะปล่อยน้ำเส้นทางน้ำดังกล่าว 340 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ ต.วังวน ต.หนองแขม ต.พรหมพิราม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมือง และ ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จะมีระดับน้ำมากขึ้น มวลน้ำจะค่อยๆ ดันระดับน้ำเดิมขึ้นสูง บริเวณทั้ง 3 อำเภอที่ท่วมอยู่แล้ว ก็จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีก 50-70 ซม.บางพื้นที่ที่เป็นลุ่มต่ำ ก็อาจท่วมสูงกว่า 1 เมตร
สำหรับมวลน้ำลูกนี้จะเข้าสู่ จ.พิษณุโลก ใน 1-2 วันนี้ และจะทำให้น้ำยมในเขต อ.บางระกำ ที่คาดว่าจะไม่ล้นตลิ่งนั้นในครั้งนี้แม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.บางระกำ ต้องเอ่อล้นอย่างแน่นอน จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยมให้ขนของขึ้นสู่ที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางตนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จะได้ตรวจสอบทางน้ำเพื่อหาทางรับมือและระบายน้ำในพื้นที่อีกครั้ง ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำของแม่น้ำยมหลากในเขตอ.บางระกำ ผ่านคลองระบายน้ำ DR2.8 และ คลอง DR15.8 ที่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านได้ในอัตรา 265 ลบ.ม.ต่อวินาที
**นครสวรรค์โดนแล้ว 2 ตำบลจ่อวิกฤต
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้ปริมาณน้ำก้อนใหญ่ ยังคงไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดใน ต.เกรียงไกร และ ต.สองแคว อ.เมือง จ.นครสรรค์ ซึ่งมีที่ตั้งหมู่บ้านอยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำ ในขณะนี้น้ำได้เอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้ว ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งทำให้ชาวบ้านต่างตื่นตระหนกตกใจ และเร่งขนย้ายสิ่งของกันจ้าละหวั่น เนื่องจากเกรงว่าคืนนี้ระดับน้ำจะขึ้นสูงที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเหมือนในปีที่ผ่านมา ในส่วนของความเสียหายที่พบในขณะนี้คือ บ่อเลี้ยงปลาสลิด และบ่อเลี้ยงปลาดุก รวมถึงปลานานาชนิด น้ำได้เข้าท่วมบ่อปลาที่เลี้ยงไว้ จึงทำให้ปลาชนิดต่างๆ หลุดไปกับสายน้ำ สร้างความเสียหายให้กับราษฎร ทั้ง 2 ตำบลของจังหวัดนครสวรรค์ ที่กำลังส่อเค้าว่าจะถูกน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมาดังกล่าว
**ฝนถล่ม"เกาะช้าง"ทะลักแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนที่ จ.ตราด ตั้งแต่เวลา 01.00 น.เป็นต้นมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เกาะช้าง จนถึงช่วงเวลา 09.30 น.ของวานนี้ (16 ก.ย.) ทำให้เกิดน้ำหลากจากเขาลงมายังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.เกาะช้าง 3 แห่งคือ หาดทรายขาว บ้านคลองพลู และบ้านไก่แบ้ รวมทั้งบ้านคลองพร้าว ที่ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำระบายลงสู่ร่องระบายน้ำไม่ทัน ทำให้ไหลท่วมพื้นที่ถนนสายหาดทรายขาวตั้งแต่โรงแรมเคซีแกรนด์ เกาะช้าง-โรงแรมบ้านปู เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร มีความสูง 30-50 ซม.โดยน้ำได้ท่วมบ้านเรือน โรงแรม รีสอร์ต ที่อยู่ในพื้นที่บ้านหาดทรายขาวจำนวนมาก ทำให้การเดินทางไปมาของนักท่องเที่ยวและประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม นายชุมพล ธนประสพ นายอำเภอเกาะช้าง ได้ส่งกำลังอาสาสมัครเกาะช้าง และสั่งการให้กำนันเกาะช้าง นายกเทศมนตรีเกาะช้าง ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมหลาก และได้นำเครื่องมือ เครื่องจักรกลเข้าไปช่วยเหลือ และขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้น้ำไหลลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะช้างและเดินทางกลับได้สะดวก จนกระทั้งสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็นของวันเดียวกัน
**"รอยล"ห่วงฝน-การระบายน้ำใน กทม.
นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นในแผนจัดการน้ำแบบเดิม เพราะเป็นมาตรการที่ดีในการดูแลหลักสมดุลของน้ำ และทำให้ไม่ต้องเร่งระบายน้ำในเขื่อน ซึ่งในขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ มีเพียง 60% ส่วนเขื่อนภูมิพล มีเพียง 54% อีกทั้งน้ำจาก จ.นครสวรรค์ พบว่าทรงตัวแล้ว พร้อมยืนยันไม่มีน้ำมวลใหญ่เข้ามาเพิ่มเติม มีเพียงมวลน้ำปกติ ประมาณพันล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น ซึ่งต่างจากปีที่ผ่านมาที่มีมากถึง 8 พันล้านลูกบาศก์เมตร แต่ส่วนตัวก็ยังห่วงเรื่องฝนและการระบายน้ำในกรุงเทพฯ เพราะจะมีฝนตกหนักไปจนถึงวันจันทร์ที่ 17 ก.ย.นี้ อีกทั้งคลองในซอย กทม.ยังมีจำนวนมากถึง 1,600 คลอง จึงไม่สามารถไปดูแลอย่างทั่วถึงได้ พร้อมทั้งไม่ทราบว่า มี กทม.เข้าไปดูแลหรือไม่
นายรอยล ยังยืนยันว่า ฝนที่จะตกหนักไปจนถึงวันจันทร์นี้ไม่ใช่พายุแต่อย่างใด เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังระบายน้ำเรื่อยๆ และเป็นปกติ ส่วนน้ำในทุ่งเจ้าพระยา ปีนี้ก็มีเพียง 300 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
**เตือน16-18"ฝน-น้ำป่า-โคลนถล่ม"
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ เรื่องระวังภัยน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ สภาพน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง จ.สุโขทัย อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก และอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มใน อ.เกาะช้าง จ.ตราด และ อ.พลิ้ว จ.จันทบุรี นอกจากนั้น อาจเกิดน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ของ จ.นครปฐม ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ระมัดระวังและติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้เตือนว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกมีกำลังแรง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง แต่จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวยังคงต้องระวังอันตรายที่อาจเกิดจากฝนตกหนักต่อไปอีกจนถึงวันที่ 18 ก.ย.นี้
**อีก 8 วันน้ำเหนือถึงกทม.
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในกทม.ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1.47 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอยู่ที่ 2,100 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือที่จะมาถึงกทม.ใน 7-8 วันนี้ จะต้องดูว่าน้ำจะปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระราม 6 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในปริมาณเท่าใด และระดับน้ำที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จะอยู่ที่ระดับใด สำหรับพื้นที่จุดอ่อนในกทม.หากมีฝนตกเกิน 60 มม. อาจจะต้องระบายช้า เช่น บริเวณที่ลุ่มต่ำต่างๆ อาทิ ถนนศรีอยุธยา ถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะ อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณฝนตกเกิน 60 มม. จะสามารถเคลียร์ได้โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 ชม.
วานนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนที่ตกในพื้นที่ทางตอนเหนือของ จ.สุโขทัย รวมทั้งน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำยม จนส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัยสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเอ่อล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่โดยที่จุดวัดระดับน้ำสถานี Y4 อ.เมืองสุดขทัยของกรมชลประทานตั้งอยู่ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย วัดระดับน้ำได้สูงถึง 7.25 เมตร ใกล้เทียบเคียงกับจุดวิกฤตน้ำท่วมที่ 7.33 เมตร
ด้านพื้นที่เขตเศรษฐกิจเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ซึ่งน้ำที่ท่วมขังเพิ่งจะเข้าสภาวะคลี่คลายกลับต้องเผชิญภาวะน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่อีกครั้งจากกระแสน้ำที่เอ่อทะลักบริเวณจุดกัดเซาะภายในแนวกั้นบิ๊กแบ๊กและกล่องหินเกเบรียล ได้ทะลักไหลลอดซึมออกมาตามช่องว่างของแนวกั้นไหลเข้าสู่ย่านอาคารร้านค้า เขตเศรษฐกิจชั้นใน ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ซ้ำอีกครั้งสูง 30-50 ซม.
ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งชาวบ้านในตลาดต้องหยุดทำความสะอาดที่อยู่อาศัยและเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้ในที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล และต่างก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ก็ได้เร่งระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรและกระสอบทรายเข้าสกัดการไหลลอดของกระแสน้ำที่ผ่านบิ๊กแบ๊กและกล่องหินเกเบรียลแล้วเพื่อยับยั้งกระแสน้ำไม่ให้ไหลบ่าท่วมพื้นที่มากไปกว่านี้
ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณรอยรั่วซึมของน้ำ รวมทั้งวางแผนป้องกันน้ำด้วยการเทหินคลุกตลอดทั้งแนวตั้งแต่บริเวณรอยรั่วจนถึงวัดราชธานี เพื่อเป็นแนวเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวเมืองมากกว่านี้ ตลอดจนจะมีการเสริมกระสอบทรายอย่างต่อเนื่อง โดยมีแม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางมาบัญชาการด้วยตนเอง พร้อมทหารจากกองทัพภาคที่ 3 คอยเฝ้าบริเวณนี้ตลอดเวลา
**ผู้ว่าฯรับสุโขทัยวิกฤตสั่ง ปชช.อพยพ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ยอมรับว่า ขณะนี้ จ.สุโขทัย เกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกครั้งพร้อมกับประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เร่งรีบอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากน้ำยมได้ทะลักเข้าท่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นตามลำดับ
ขณะเดียวกันในพื้นที่ ม.1, 2 และ ม.4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณ ม.4 ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาคสุดขทัยระดับน้ำสูง 50-90 ซม.เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ และยังทำให้การเดินเครื่องยนต์เพื่อผลิตน้ำประปาก็ยังไม่สามารถทำได้จนน้ำประปาหยุดไหลในพื้นที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
รวมทั้งพื้นที่บริเวณ ม.6 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฏรได้รับผลกระทบอย่างน้อยกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก และ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง ปริมาณน้ำยมก็กำลังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากนี้ยังเกิดภาวะน้ำแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมอีกหลายพื้นที่ อาทิ พื้นที่ ม.5 บ้านวัดเกาะ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง และ พื้นที่ ม.1 และ ม.8 ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก กระแสน้ำได้กัดเซาะแนวเขื่อนดินถนนเลียบแม่น้ำพังเป็นแนวยาว เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งริมแม่น้ำยมและขยายเป็นวงกว้างแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำป่าพัดถล่ม 9 หมู่บ้าน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่นั้น ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป
**"เกาะคา"อ่วมอีก!น้ำวังทะลักท่วม3หมู่บ้าน
ที่ จ.ลำปาง แม่น้ำวังที่เพิ่มสูงขึ้นหลังฝนตกติดต่อกันหลายวันและตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำให้เช้าวานนี้น้ำแม่วังในพื้นที่ตอนใต้ คือ เขต อ.เกาะคา เอ่อทะลักและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร 3 หมู่บ้านใน ต.นาแส่ง อ.เกาะคา คือ บ้านนาแส่ง ม.6 บ้านแม่ไฮ ม.5 และบ้านนากิ๋ม ม.7 แต่ที่หนักสุด คือ บ้านนาแส่ง ในขณะนี้น้ำได้ท่วมประมาณ 70% แล้ว นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมสถานีอนามัย หรือศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลนาแส่ง ความสูงกว่า 1 เมตร และกำลังจ่อท่วมเข้าโรงเรียนนางแส่ง-แม่ไฮ-นากิ๋ม ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านนาแส่งด้วย ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งชาวบ้านให้ขนย้ายทรัพย์สินไว้ในที่สูง และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือแล้ว
ส่วนชาวบ้านที่อยู่บริเวณสองฟากฝั่งแม่น้ำวังในเขต อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตั้งแต่ ต.นาแก้ว ต.นาแส่ง อ.เกาะคา ต้องขนย้ายทรัพย์สินไว้ที่สูงและบางส่วนต้องขนออกจากบ้านไปยังที่ปลอดภัยหลังจากที่ปริมาณแม่น้ำวังไหลเชี่ยวกรากและเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากลำน้ำสาขาของแม่น้ำวังไหลเข้ามาสมทบทำให้น้ำในแม่น้ำวังเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว และล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่หลายจุด บางจุดที่เป็นถนนเลียบแม่น้ำวังพบว่าอีกประมาณ 20 ซม.น้ำก็จะเอ่อท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน
**สั่งคนพิษณุโลกอพยพ- อีก 2 วันโดน
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.การโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จนน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.แพร่ อุตรดิตถ์ นั้น ได้เกิดมวลน้ำที่ไหลเข้าสู่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย จำนวน 1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งถือว่ามากว่ามวลน้ำลูกที่ผ่านมาที่มีเพียง 1,055 ลบ.ม.ต่อวินาที เท่านั้น ส่งให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ จ.สุโขทัย จะเพิ่มระดับอีกครั้ง และหลังจากนั้นมวลน้ำลูกนี้จะไหลเข้ามาทางแม่น้ำยมสายเก่า และคลองหกบาท โดยระดับน้ำที่จะปล่อยน้ำเส้นทางน้ำดังกล่าว 340 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ ต.วังวน ต.หนองแขม ต.พรหมพิราม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม ต.บ้านกร่าง อ.เมือง และ ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จะมีระดับน้ำมากขึ้น มวลน้ำจะค่อยๆ ดันระดับน้ำเดิมขึ้นสูง บริเวณทั้ง 3 อำเภอที่ท่วมอยู่แล้ว ก็จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีก 50-70 ซม.บางพื้นที่ที่เป็นลุ่มต่ำ ก็อาจท่วมสูงกว่า 1 เมตร
สำหรับมวลน้ำลูกนี้จะเข้าสู่ จ.พิษณุโลก ใน 1-2 วันนี้ และจะทำให้น้ำยมในเขต อ.บางระกำ ที่คาดว่าจะไม่ล้นตลิ่งนั้นในครั้งนี้แม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.บางระกำ ต้องเอ่อล้นอย่างแน่นอน จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยมให้ขนของขึ้นสู่ที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางตนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จะได้ตรวจสอบทางน้ำเพื่อหาทางรับมือและระบายน้ำในพื้นที่อีกครั้ง ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำของแม่น้ำยมหลากในเขตอ.บางระกำ ผ่านคลองระบายน้ำ DR2.8 และ คลอง DR15.8 ที่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านได้ในอัตรา 265 ลบ.ม.ต่อวินาที
**นครสวรรค์โดนแล้ว 2 ตำบลจ่อวิกฤต
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดนครสวรรค์ ขณะนี้ปริมาณน้ำก้อนใหญ่ ยังคงไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดใน ต.เกรียงไกร และ ต.สองแคว อ.เมือง จ.นครสรรค์ ซึ่งมีที่ตั้งหมู่บ้านอยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำ ในขณะนี้น้ำได้เอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้ว ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งทำให้ชาวบ้านต่างตื่นตระหนกตกใจ และเร่งขนย้ายสิ่งของกันจ้าละหวั่น เนื่องจากเกรงว่าคืนนี้ระดับน้ำจะขึ้นสูงที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเหมือนในปีที่ผ่านมา ในส่วนของความเสียหายที่พบในขณะนี้คือ บ่อเลี้ยงปลาสลิด และบ่อเลี้ยงปลาดุก รวมถึงปลานานาชนิด น้ำได้เข้าท่วมบ่อปลาที่เลี้ยงไว้ จึงทำให้ปลาชนิดต่างๆ หลุดไปกับสายน้ำ สร้างความเสียหายให้กับราษฎร ทั้ง 2 ตำบลของจังหวัดนครสวรรค์ ที่กำลังส่อเค้าว่าจะถูกน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมาดังกล่าว
**ฝนถล่ม"เกาะช้าง"ทะลักแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนที่ จ.ตราด ตั้งแต่เวลา 01.00 น.เป็นต้นมาได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เกาะช้าง จนถึงช่วงเวลา 09.30 น.ของวานนี้ (16 ก.ย.) ทำให้เกิดน้ำหลากจากเขาลงมายังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.เกาะช้าง 3 แห่งคือ หาดทรายขาว บ้านคลองพลู และบ้านไก่แบ้ รวมทั้งบ้านคลองพร้าว ที่ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำระบายลงสู่ร่องระบายน้ำไม่ทัน ทำให้ไหลท่วมพื้นที่ถนนสายหาดทรายขาวตั้งแต่โรงแรมเคซีแกรนด์ เกาะช้าง-โรงแรมบ้านปู เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร มีความสูง 30-50 ซม.โดยน้ำได้ท่วมบ้านเรือน โรงแรม รีสอร์ต ที่อยู่ในพื้นที่บ้านหาดทรายขาวจำนวนมาก ทำให้การเดินทางไปมาของนักท่องเที่ยวและประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม นายชุมพล ธนประสพ นายอำเภอเกาะช้าง ได้ส่งกำลังอาสาสมัครเกาะช้าง และสั่งการให้กำนันเกาะช้าง นายกเทศมนตรีเกาะช้าง ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมหลาก และได้นำเครื่องมือ เครื่องจักรกลเข้าไปช่วยเหลือ และขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้น้ำไหลลงทะเลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะช้างและเดินทางกลับได้สะดวก จนกระทั้งสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเย็นของวันเดียวกัน
**"รอยล"ห่วงฝน-การระบายน้ำใน กทม.
นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวว่า ยังเชื่อมั่นในแผนจัดการน้ำแบบเดิม เพราะเป็นมาตรการที่ดีในการดูแลหลักสมดุลของน้ำ และทำให้ไม่ต้องเร่งระบายน้ำในเขื่อน ซึ่งในขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ มีเพียง 60% ส่วนเขื่อนภูมิพล มีเพียง 54% อีกทั้งน้ำจาก จ.นครสวรรค์ พบว่าทรงตัวแล้ว พร้อมยืนยันไม่มีน้ำมวลใหญ่เข้ามาเพิ่มเติม มีเพียงมวลน้ำปกติ ประมาณพันล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น ซึ่งต่างจากปีที่ผ่านมาที่มีมากถึง 8 พันล้านลูกบาศก์เมตร แต่ส่วนตัวก็ยังห่วงเรื่องฝนและการระบายน้ำในกรุงเทพฯ เพราะจะมีฝนตกหนักไปจนถึงวันจันทร์ที่ 17 ก.ย.นี้ อีกทั้งคลองในซอย กทม.ยังมีจำนวนมากถึง 1,600 คลอง จึงไม่สามารถไปดูแลอย่างทั่วถึงได้ พร้อมทั้งไม่ทราบว่า มี กทม.เข้าไปดูแลหรือไม่
นายรอยล ยังยืนยันว่า ฝนที่จะตกหนักไปจนถึงวันจันทร์นี้ไม่ใช่พายุแต่อย่างใด เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังระบายน้ำเรื่อยๆ และเป็นปกติ ส่วนน้ำในทุ่งเจ้าพระยา ปีนี้ก็มีเพียง 300 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
**เตือน16-18"ฝน-น้ำป่า-โคลนถล่ม"
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติ เรื่องระวังภัยน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ สภาพน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง จ.สุโขทัย อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก และอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มใน อ.เกาะช้าง จ.ตราด และ อ.พลิ้ว จ.จันทบุรี นอกจากนั้น อาจเกิดน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ของ จ.นครปฐม ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ระมัดระวังและติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้เตือนว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกมีกำลังแรง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง แต่จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวยังคงต้องระวังอันตรายที่อาจเกิดจากฝนตกหนักต่อไปอีกจนถึงวันที่ 18 ก.ย.นี้
**อีก 8 วันน้ำเหนือถึงกทม.
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในกทม.ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 1.47 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอยู่ที่ 2,100 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือที่จะมาถึงกทม.ใน 7-8 วันนี้ จะต้องดูว่าน้ำจะปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระราม 6 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในปริมาณเท่าใด และระดับน้ำที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จะอยู่ที่ระดับใด สำหรับพื้นที่จุดอ่อนในกทม.หากมีฝนตกเกิน 60 มม. อาจจะต้องระบายช้า เช่น บริเวณที่ลุ่มต่ำต่างๆ อาทิ ถนนศรีอยุธยา ถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะ อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณฝนตกเกิน 60 มม. จะสามารถเคลียร์ได้โดยใช้เวลาประมาณ 1-3 ชม.