สุโขทัย - ปั่นป่วนกันทั่วเมือง ชาวสุโขทัยต้องหยุดทำความสะอาด หันมาขนของหนีน้ำท่วมซ้ำอีกรอบ ขณะที่น้ำยมเพิ่มระดับจนเกินจุดวิกฤตแล้ว “บิ๊กแบ็ก-เกเบียน” เอาไม่อยู่ ผู้ว่าฯประกาศให้อพยพหนีแล้ว เผย “ปากแคว” จมใต้บาดาลร่วม 2 เมตร ถนนสายสุโขทัย-ศรีสำโรงจม
รายงานข่าวจาก จ.สุโขทัย วันนี้ (16 ก.ย.) แจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีกำลังเข้าสู่วิกฤตอีกครั้ง หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมีระดับเพิ่มสูงเกินกว่าจุดวิกฤต โดยที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยวัดได้ 7.45 เมตร และยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งยังจะมีมวลน้ำป่าจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังไหลลงมาสมทบอีกด้วย
ส่วนบริเวณบิ๊กแบ็กและเกเบียนที่เป็นแนวป้องกันน้ำยมไม่ให้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองสุโขทัยพบมีรอยรั่วซึมหลายแห่ง ประกอบกับมวลน้ำยมได้ทะลักเข้ามาตามท่อระบาย ทำให้ตั้งแต่ช่วงตี 3 คืนที่ผ่านมากระทั่งจนถึงเช้าวันนี้มวลน้ำที่เข้ามาตามจุดดังกล่าวได้ไหลเข้าท่วมตัวตลาดเทศบาลฯ ซ้ำอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 และมีระดับเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา
ผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งชาวบ้านในตลาดต้องหยุดทำความสะอาดที่อยู่อาศัย และเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล และต่างก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้
ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ยอมรับว่า ขณะนี้สุโขทัยเกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกครั้ง พร้อมกับประกาศให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีอพยพออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำยมทะลักเข้าท่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บริเวณหมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ระดับน้ำสูง 50-90 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้
ส่วนที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก และ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง ปริมาณน้ำยมก็กำลังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และที่บริเวณอู่พีซีการาจ ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย
วันเดียวกันนี้ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 ชุด จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วม
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ 19 ราย ส่วนมากเป็นโรงกลึง และอู่ซ่อมรถยนต์ ความเสียหายมีมากกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสถานการณ์น้ำป่าพัดถล่ม 9 หมู่บ้านใน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป