ปู-ปลอดฯ สุดวิสัยควบคุม “น้ำแฉะ”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ออกมาโวสุดมั่นรับประกันปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอนยังไม่ทันขาดคำ เจอ พายุฝนถล่มแค่ไม่กี่วันทำเอาชาวสุโขทัย อยุธยา จมน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว ฉีกหน้า ทั้งนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ให้ได้อายฟ้าดิน จนรีบแจ้นแก้ตัวพัลวันอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยที่ควบคุม “น้ำท่วมแฉะ” ไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลตั้งเป้าผลาญงบแก้น้ำท่วมอย่างเอาจริงเอาจัง ไปตั้งหลายแสนล้าน

ไม่นับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพิ่งทุ่มงบถึง12 ล้าน จัดงานนิทรรศการน้ำเมื่อ ไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อหลอกคนไทยว่ามีระบบจัดการปัญหาที่สมบูรณ์แบบพร้อมรับมือกับทุกสภาพปัญหา

การลงพื้นที่สร้างภาพติดตามแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย อยุธยา และกำแพงเพชรของคณะนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คราวนี้จึงไม่สามารถกลบเกลื่อนความล้มเหลวในการวางแผนบริหารจัดการน้ำตลอดระยะเวลาร่วมหนึ่ง ปีที่ผ่านมาแต่อย่างใด

และถึงวันนี้เห็นได้ชัดว่า การโชว์ปฏิบัติการ Single Command Center (SCC) เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ช่วงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ทัวร์นกขมิ้นตรวจพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่ราคาคุย เพราะเอาแค่พนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะที่สุโขทัยก็เอาไม่อยู่ และใช้เวลาแก้ปัญหาแบบมั่วๆ คน โน้นสั่งทีคนนี้สั่งที ลองผิดลองถูกอยู่หลายวันกว่าจะสำเร็จ

การอ้างเหตุสุดวิสัยที่ผนังกั้นน้ำเมืองสุโขทัยถูกกัดเซาะแบบมักง่ายเรียก ความไม่เชื่อมั่นจากประชาชนอย่างท่วมท้นในทันที อารมณ์ชาวโชเชียลเน็ตเวิร์คถึงกับปลุกคนไทยให้ตื่นตัวเตรียมเข้าร่วมแข่งขัน “ธาราลิมปิกเกมส์” ขนของหนีน้ำ หนีตาย อย่าได้ประมาท เพราะมีแต่ตนเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งแห่งตน การรับประกันน้ำไม่ท่วมแน่นอนเป็นเพียงโกหกคำโตของปูกับปลอดฯ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ถึงเวลานี้ นายปลอดประสพ ยังยืนยันมั่นเหมาะเหมือนเดิมว่า ได้ตรวจสอบไปยังพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และอ่างทองเพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดเหมือนสุโขทัย และยืนยันว่า น้ำท่วมคันกั้นน้ำยังไม่มี สถานการณ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลำน้ำหลักของประเทศยังไม่มีที่ไหนน้ำ ท่วม และยังไม่มีการปล่อยน้ำเข้าทุ่งไหน ส่วนน้ำที่ท่วมอยู่นั้นเป็นเพียงน้ำท่วม แฉะหรือท่วมไหลผ่านเนื่องจากฝนตก

เช่นเดียวกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ยืนยันว่า ภาพรวมจากการประเมินและติดตามสถานการณ์น้ำ ขณะนี้เขื่อนต่างๆ ยังรับน้ำได้อีกมาก ส่วนการรับมือน้ำ ท่วมรัฐบาลได้พัฒนากลไกหลายอย่างให้ดีกว่าปีที่แล้ว แต่ยอมรับว่าพนังกั้นน้ำ บางจุดเหมือนเครื่องยนต์เก่าซึ่งรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ เช่นกรณีการพังทลายของพนังกั้นน้ำที่จังหวัดสุโขทัย พร้อมกับยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลทำ เต็มที่เพื่อแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นบางจุดในขณะนี้

ฟังลูกพี่กับลูกน้องดาหน้าออกมารับประกันน้ำไม่ท่วม หรือพร้อมรับมือ กับสถานการณ์อย่างเต็มที่ ดูช่างคล้ายกับหนังม้วนเก่าเรื่อง “เอาอยู่” เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นว่า 61 จังหวัด จาก 75 จังหวัด ทั่วประเทศจมบาดาล ประชาชนพากันเดือดร้อนกันแสนสาหัส และจนบัดนี้แม้แต่เงินเยียวยาบรรเทาทุกข์รัฐบาลก็ยังไม่มีปัญญาบริหารจัดการจ่ายเงินให้ผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างครบถ้วนและเป็นธรรม

เมื่อมีแต่คำโม้โอ้อวดแต่เอาเข้าจริงกลับไร้ฝีมือบริหารจัดการน้ำ จึงทำให้ หลายฝ่ายดาหน้าออกมารุมถล่ม อย่างเช่น สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ซัดเข้าเต็มๆ ว่า การเกิดเหตุน้ำท่วมที่สุโขทัยและอยุธยา สะท้อนความ ล้มเหลวของรัฐบาลอย่างชัดเจน ทั้งที่มีเวลาเตรียมรับมือมากว่าปี มีทั้งงบประมาณที่ไปกู้มาถึง 3.5 แสนล้าน มีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ทั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ก่อนที่จะแปลงร่างมาเป็น กบอ. ที่ฝ่ายการเมืองเข้าไปควบคุมกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฟลัดเวย์ เป็นต้น

นั่นหมายความว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้หรือไม่แต่ใต้โต๊ะนั้นได้ แน่ๆ แทนการฟังเสียงนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญที่ให้ยึดถือตามแนวทางพระราชดำริ และฟังเสียงของประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากแผนการบริหารจัดการน้ำเป็นหัวใจสำคัญ

คงจำกันได้ว่า ในช่วงที่ กบอ. ซึ่งนายปลอดประสพ นั่งเป็นประธานอยู่นั้น ได้เปิดให้บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำทั้งในและต่างประเทศ เข้ารับเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา หรือทีโออาร์ โครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทย มูลค่า 3.5 แสนล้าน เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั่วสารทิศ

โดยเฉพาะสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสมาคมของกลุ่มวิชาชีพวิศวกรคนไทย ที่ชี้ว่า ทีโออาร์ไม่มีความชัดเจน ข้ามขั้นตอนของกฎหมาย ล็อกสเปกเอื้อต่างชาติและนักลงทุนรายใหญ่ ไม่ฟังเสียงประชาชน และไม่สนผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย ขณะที่ เครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ตั้งข้อสังเกตว่า นักการเมืองหวังจ้องงาบเงินใต้โต๊ะจากโครงการแก้ไขป้องกันน้ำท่วมที่รีดได้สูงถึง 40-50%

เมื่อย้อนกลับมาพิจารณาปัญหาน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ หากมองให้ ลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นที่สุโขทัยและอยุธยา ซึ่ง ฝ่ายรัฐบาลดาหน้าออกมาว่าเป็นเพียงแค่น้ำท่วมแฉะแค่นั้นไม่ได้มีปัญหา ใหญ่โตอะไรนั้น แท้จริงแล้วบ่งบอกอย่างชัดเจนถึงความผิดพลาด ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานของนายปลอดประสพ ประธานกบอ. และนายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และจัดสรรน้ำ และคณะกรรมการในกบอ.ที่นายปลอดประสพ ขนเอาข้าราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มาเป็นมือไม้ช่วยทำงานเป็นหลัก ทั้งที่ข้าราชการในกระทรวงนี้ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องนี้แต่อย่างใด

"หากปล่อยให้บุคคลที่ไม่มีศักยภาพหรือประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยตรงในการบริหารจัดการน้ำ โดยเอาคนที่เชี่ยวชาญการเลี้ยงปลาตู้ หรือเก่งแต่ทางคณิตศาสตร์มาบริหารปัญหาน้ำ พร้อม กับเงินงบประมาณของชาติถึง 3.5 แสนล้านบาท ก็อาจจะนำไปสู่ความเสียหายของประเทศชาติและประชาชนมากกว่านี้ก็เป็นได้" ศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน ระบุ และยุให้นายกฯ ปลดนายปลอดประสพ กับนายรอยล และคณะกรรมการที่ไม่ได้เรื่องได้ราวทิ้งไปก่อนที่คณะกรรมการเหล่านี้จะป้อนข้อมูลผิดๆ ถูกๆ ให้นายกฯ ตัดสินใจทำให้ประเทศจะเสียหายมากกว่านี้

ปัญหาน้ำท่วมยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ เวลานี้มีคำเตือนจากหลายหน่วยงาน ให้ระวังพายุฝนที่เพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด และน้ำท่วมที่เริ่มขยายวงออกไปยัง พิษณุโลก พิจิตร ขณะที่สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา ที่อยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ให้เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูงเพราะจะมีการระบายน้ำจากเขื่อนที่มี ปริมาณมาก เช่นเดียวกับน้ำในเขื่อนภูมิภาคที่มีปริมาณมากจนต้องปล่อยออกมา เช่นกัน ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง จึงยังเสี่ยงต่อน้ำท่วมเช่นปีที่ผ่าน มา

ใครที่หลงเชื่อรัฐบาลว่าน้ำไม่ท่วมจึงต้องชีช้ำอย่างที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ออกมาโวยเมื่อเมืองพิจิตรจมน้ำว่า น้ำไม่ควรจะท่วมตามที่นายปลอดประสพ ในฐานะประธาน กบอ.รับประกันว่าปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอน แต่ขณะนี้น้ำท่วมแล้วต้องหาทางแก้ไข อย่ามัวห่วงแต่กรุงเทพฯ ต้องดูภาพรวมทั้งประเทศ

"ผมยังไม่เห็นผลงานการทำหน้าที่ของ กบอ. ซึ่งควรที่จะถามผู้รู้จริงๆ รู้ภาพรวมของประเทศ ไม่ใช่ดูแต่เฉพาะกรุงเทพฯ ปทุมธานี หรือนนทบุรี ควรดูพื้นที่ลุ่มว่ามีเท่าไร ปล่อยน้ำกี่ลูกบาศก์เมตรถึงจะเข้าไปท่วมพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ชาวนาเดือดร้อนเป็นอย่างมาก" พล.ต.สนั่น ซัดเข้าเต็มๆ

ขณะที่ประชาชน ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่เดือดร้อนกันถ้วนหน้าจากน้ำท่วม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ผู้ชื่นชมการ "โกหกสีขาว" ยังกล้าออกมายืนยันว่า เวลานี้มีการลงทุนป้องกันน้ำท่วมแล้ว 120,000 ล้าน สำหรับลงทุนก่อสร้างคันกั้นน้ำ ขุดลอกคลอง ซ่อมประตูระบายน้ำ และยกระดับถนน โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะนี้สร้างเกือบแล้วเสร็จใน 6 นิคมอุตสาหกรรมของเอกชน จึงมั่นใจว่าปีนี้ นิคมอุตสาหกรรมจะมีความปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมแน่นอน

ฟังคำยืนยันมั่นเหมาะจากนายกิตติรัตน์ ผู้เห็นว่าการโกหกเป็นเรื่องปกติธรรมดา ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าควรค่าแก่การเชื่อถือเช่นเดียวกับคำยืนยันว่าไม่ท่วม แน่ของนายปลอดประสพ กับนายกฯ ปู หรือไม่ ?

หมายเหตุ - 'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' มีแฟนเพจแล้วนะครับ ขอเชิญร่วมพูดคุยและแสดงความคิดกันได้ที่ http://www.facebook.com/Astvmanagerweekend