xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปม“โฆษณาผี”-ปปช.ฟัน “ไร่ส้ม-สรยุทธ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เปิดผลสอบอนุกรรมการฯ ปปช. ชุด “พล.ต.อ.ประทิน” รอชงชุดใหญ่ ฟันบ.ไร่ส้ม จำกัด ที่มี “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกรชื่อดัง ร่วมพนักงาน บมจ.อสมท บางคน ยักยอกเงินค่าโฆษณา “คุยคุ้ยข่าว” 138 ล้านบาท เผยขยายสัญญาร่วมฯทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ อัตราโฆษณาไม่ต่ำกว่านาทีละ 240,000 บาท และทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ อัตราโฆษณาไม่ต่ำ กว่านาทีละ 220,000 บาท แต่กลับมี “โฆษณาผี”แทน

วานนี้ (13 ก.ย.) สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เผยแพร่บทความ เรื่อง “จึงดูจะๆ ผลสอบของ อสมท “บ.ไร่ส้ม-สรยุทธ" อมเงินโฆษณา "138 ล้าน" จริงหรือ?” หลังจาก อนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. คดี บ.ไร่ส้ม จำกัด ที่มี “นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกรชื่อดัง เป็นผู้ถือใหญ่ ร่วมพนักงาน บมจ.อสมท บางคน ยักยอกเงินค่าโฆษณาจากรายการ “คุยคุ้ยข่าว” เกินกว่าที่สัญญาระบุ เป็นเหตุให้ บมจ.อสมท ได้รับความเสียหายถึง 138,790,000 บาท ชุดที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธาน ได้เปิดเผยว่า มีการลงมติเรื่องดังกล่าวไปแล้ว โดยมีคนที่อนุกรรมการเห็นว่ามีความผิด หลังจากนี้จะเร่งสรุปสำนวนเพื่อส่งให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาวินิจฉัยต่อไป โดยคดีนี้ผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว

สำนักข่าวอิศรา เผยข้อมูลย้อนหลัง ก่อนพบว่า บมจ.อสมท เคยตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยให้ “พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ” อดีต ส.ว.เป็นประธาน มีนบุคคลมีชื่อเสียงหลายคน อาทิ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ, พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์, นายเจษฎา อนุจารี ฯลฯ ร่วมเป็นกรรมการ (ตามคำสั่งที่ 96/2549 ลงวันที่ 21 ธ.ค.2549)

โดยผลการสอบสอนของคณะกรรมการชุด “พล.ต.อ.ประทิน” เป็นหลักฐานฉบับเดียวกับที่ บมจ.อสมท เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สน.ห้วยขวาง ให้ดำเนินคดีกับพนักงาน บมจ.อสมท 2 คน ในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และบริษัทไร่ส้มของนายสรยุทธ ในฐานะผู้สนับสนุน และ สน.ห้วยขวาง ส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เมื่อเดือน ธ.ค.2550 เอกสารที่มีความหนา 73 หน้าดังกล่าว มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

ข้อมูลทั่วไป กรณี บ.ไร่ส้ม จำกัด ในการรับจัดรายการ "คุยคุ้ยข่าว"

วันที่ 6 พ.ค.2547 อ.ส.ม.ท.โดยนายชิตณรงค์ คุณะกฤษดาธิการ รองผู้อำนวยการผู้รับมอบอำนาจ ได้ทำหนังสือสัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์กับ บ.ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธและ น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ กรรมการผู้มีอำนาจ เพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2547-26 ธ.ค.2547 ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น.-13.00 น. รวมครั้งละ 55 นาที (รวมเวลาโฆษณา) ตกลงอัตราค่าโฆษณาไม่ต่ำ กว่านาทีละ 200,000 บาท โดยทั้งสองฝ่ายจะไม่จำหน่ายในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าโฆษณาต้องเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย อ.ส.ม.ท.ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้แก่ บ.ไร่ส้ม จำกัด ครั้งละ 5 นาที

หลังจากที่ อ.ส.ม.ท.ได้เปลี่ยนสภาพเป็นบริษัทมหาชน (ในวันที่ 30 ก.ค.2547) บมจ.อสมท กับ บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้ทำบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมดำเนินการรายการโทรทัศน์ครั้งที่ 1 ลงวันที่ 23 ส.ค.2547 เพื่อให้สอดคล้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยให้ขยายเวลาออกอากาศจากเดิม 60 นาที เป็น 90 นาที ระหว่างวันที่ 7-29 ส.ค.2547 ออกอากาศทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 11.30 น.-13.00 น. จึงตกลงให้ บ.ไร่ส้ม จำกัด ผลิตรายการความยาวเนื้อหาตอนละ 66 นาที เฉพาะที่ออกอากาศในช่วงนั้น โดย บมจ.อสมท ตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้แก่ บ.ไร่ส้ม จำกัด ครั้งละ 7 นาที 30 วินาที

วันที่ 26 พ.ย.2547 บมจ.อสมท.กับ บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้ทำบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมฯ ครั้งที่ 2 โดยขยายระยะเวลาตามสัญญาเดิม ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 26 ธ.ค.2547 เป็นสิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 มี.ค.2548

นอกจากนี้ ในวันที่ 6 ก.ย.2547 บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้ตกลงทำสัญญาร่วมฯกับ บมจ.อสมท เพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2547-31 มี.ค.2548 ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 21.30 น.-22.00 น. รวมครั้งละ 30 นาที (รวมเวลาโฆษณา) ตกลงอัตราโฆษณาไม่ต่ำกว่านาทีละ 220,000 บาท โดยทั้งสองฝ่ายมีสิทธิโฆษณาได้ฝ่ายละ 2 นาที 30 วินาที

หลังจากนั้น ได้มีการขยายสัญญาร่วมฯ กับ บ.ไร่ส้ม จำกัด ในการทำรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา21.30 น.-22.00 น. ไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค.2549 ตกลงอัตราโฆษณาไม่ต่ำกว่านาทีละ 240,000 บาท แบ่งเวลาโฆษณาให้ฝ่ายละ 2 นาที 30 วินาที
และทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น.-13.00 น. ไปจนถึง 30 ก.ค.2549 ตกลงอัตราโฆษณาไม่ต่ำ กว่านาทีละ 200,000 บาท โดยตกลงแบ่งเวลาโฆษณาให้ฝ่ายละ 2 นาที 30 นาที

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น นายชิตณรงค์ ได้มีคำสั่งที่ 52/2549 ลงวันที่ 3 ส.ค.2549 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่มีคิวโฆษณาในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ของ บ.ไร่ส้ม จำกัด เกินเวลาที่ตกลงไว้ โดยให้ “นายพลชัย วินิจฉัยกุล” เป็นประธาน
ซึ่งการตรวจสอบพบเงินโฆษณาส่วนเกินที่ต้องเรียกจาก บ.ไร่ส้ม จำกัด ใช้วิธีเปรียบเทียบจากเอกสารมอนิเตอร์ของ บ.ดับบลิวโอเอ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (BR) กับเอกสารคิวโฆษณารวม คิวโฆษณาของ บ.ไร่ส้ม จำกัด และคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท แล้วคิดคำนวณค่าโฆษณาส่วนเกิน

โดยพบว่า บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้โฆษณาส่วนเกินตามสัญญาฯ ในปี 2548 คิดเป็นเงิน 40,110,000 บาท และปี 2549 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. คิดเป็นเงิน 98,680,000 บาท รวมเป็นเงิน 138,790,000

นอกจากนี้ ยังพบโฆษณาส่วนเกินที่ไม่ใช่คิวโฆษณา บ.ไร่ส้ม จำกัดและไม่ใช่คิวโฆษณาของ บมจ.อสมท หรือที่เรียกว่า “โฆษณาผี” ที่ดำเนินการโดยนางพัชชาภา เอี่ยมสะอาด เจ้าหน้าที่ธุรการ ฝ่ายสนับสนุนและบริหารลูกค้า บมจ.อสมท ซึ่งมีหน้าที่ในการประสานงานกับผู้จัดรายการที่เป็นคู่สัญญา ดังนี้ ปี 2548 เป็นเงิน 950,000 บาท ปี 2549 เป็นเงิน 180,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,130,000 บาท

คณะกรรมการสอบสวนชุด พล.ต.อ.ประทิน จึงมีข้อวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของ อสมท.มีความผิดต่างกรรมต่างวาระ ขณะที่พบว่า บริษัทไร่ส้ม จำกัด ที่เป็นคู่สัญญากับ บมจ.อสมท ตามสัญญาร่วมฯ

“ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2548-31 ก.ค.2549 บ.ไร่ส้ม จำกัด โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา น.ส.อังคณา วัฒนะมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม กรรมการบริษัท กับ น.ส.มณฑา ธีรเดช เจ้าหน้าที่ บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้บังอาจร่วมกันกระทำการโดยทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต่างกรรมต่างวาระ โดยได้ร่วมกับนางพิชชาภา จัดทำคิวโฆษณาส่วนเกินในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” และไม่แจ้งขอซื้อโฆษณาส่วนเกินต่อ บมจ.อสมท อันเป็นประโยชน์แก่ บ.ไร่ส้ม จำกัด โดยไดเมอบเงินตอบแทนเป็นรายเดือนแก่นางพิชชาภา อันเป็นประโยชน์แก่ บ.ไร่ส้ม จำกัด ทำให้ บมจ.อสมท ได้รับความเสียหาย ไม่ได้รับเงินค่าโฆษณาส่วนเกินของ บ.ไร่ส้ม จำกัด 138,790,000 บาท แม้ต่อมาจะยินยอมชำระคืนแก่ บมจ.อสมท แต่เป็นผลมาจากการตรวจสอบพบการโฆษณาส่วนเกิน และมีการเรียกร้องให้ บ.ไร่ส้ม จำกัด ชำระเงินค่าโฆษณาส่วนเกินดังกล่าว ดังนั้น การกระทำผิดของ บ.ไร่ส้ม จำกัดและนางพิชชาภาได้สำเร็จและสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ บมจ.อสมท อันเป็นการกระทำโดยร่วมกันทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่ 3 อันเป็นมูลความผิดฐานฉ้อโกงามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบกับมาตรา 93”

นอกจากนี้ เมื่อ บมจ.อสมททำการตรวจสอบการโฆษณาส่วนเกิน บ.ไร่ส้ม จำกัด ได้สั่งการให้นางพิชชาภาทำการลบข้อความในใบคิวโฆษณารวมของ บมจ.อสมท และ บ.ไร่ส้ม จำกัด เพื่อทำลายพยานหลักฐานและเป็นการปกปิดข้อความจริงและความผิดของตน อันมีมูลความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264

นางพิชชาภามีสถานะเป็นพนักงานของ บมจ.อสมท ดังนั้นการที่นางพิชชาภาได้เรียกรับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในหน้าที่ จึงถือว่านายพิชชาภามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ส่วน บ.ไร่ส้ม จำกัด จึงเป็นผู้สนับสนุนให้นางพิชชาภากระทำความผิด นอกจากนี้ บ.ไร่ส้ม จำกัด ยังมีมูลที่ต้องชดใช้ตามความผิดทางแพ่งอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น