นักเล่าข่าวชื่อดังแจงกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ พร้อมต่อสู้ข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดยักยอกโฆษณา อสมท ระบุ 138 ล้านชดใช้แล้ว แต่ อสมท ยังไม่จ่ายโฆษณาส่วนเกินให้ ระบุไม่รู้เห็นเจ้าหน้าที่ธุรการปกปิดคิวโฆษณาส่วนเกิน ส่วนการจ่ายเช็คอ้างจ่ายค่านายหน้าโฆษณาตามปกติ
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 07.15 น. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง ในฐานะเจ้าของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณียักยอกโฆษณาบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวน 138 ล้านบาท กล่าวในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่าตนพร้อมพิสูจน์และต่อสู้เรื่องนี้ไปตามกระบวนการ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนไม่ได้พูดเพราะไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นเป็นการชี้นำ จนกระทั่ง ป.ป.ช.มีคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดเมื่อวานนี้ ตนและบริษัทเคารพคำตัดสินของ ป.ป.ช. แต่ก็จะใช้สิทธิต่อสู้ในชั้นอัยการและศาลต่อไป
นายสรยุทธชี้แจงข้อกล่าวหายักยอกโฆษณาใน อสมท ว่า สัญญาที่ตกลงไว้กับ อสมท คือการแบ่งเวลาโฆษณาในสัดส่วน 50 ต่อ 50 ในส่วนของโฆษณา 138 ล้านบาทเศษที่เห็นไม่ตรงกัน ได้ชำระให้ อสมท ไปครบถ้วนแล้ว แต่ที่ อสมท ลงโฆษณาส่วนเกิน อสมท ปฏิเสธที่จะชำระให้บริษัท ตนในนามของบริษัทไร่ส้มก็ได้ฟ้องร้องขอขึ้นศาลปกครอง ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเงินจำนวน 138 ล้านบาทเศษ ได้ชำระให้ อสมท ไปครบถ้วนแล้ว จึงไม่มีความเสียหายด้านตัวเงิน
ประเด็นต่อมา ป.ป.ช.มีมติว่าบริษัทและตนมีความผิด เพราะคำให้การของพนักงาน อสมท ระดับธุรการคนหนึ่งอ้างว่าดำเนินการตามคำแนะนำของตน ซึ่งตนก็มีหน้าที่จะไปพิสูจน์ตามกระบวนการต่อไปว่าตนไม่ได้รู้เห็น ให้คำแนะนำ ไม่แม้แต่จะรู้จักพนักงานคนนี้และไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยว ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ที่ตนจะให้พนักงานระดับเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวทำอะไรให้ตน โดยไม่มีใครใน อสมท ตรวจสอบพบ ส่วนเรื่องการสั่งจ่ายเช็คนั้น ยืนยันว่าเป็นการสั่งจ่ายเช็คตามปกติ ในฐานะผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทฯ อย่างถูกต้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจ่ายค่านายหน้าโฆษณาตามปกติ และหักภาษี ณ ที่จ่าย
“ส่วนที่ ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีหลักฐานเป็นเช็คของบริษัทไร่ส้มฯ ซึ่งผมลงลายมือชื่อเอาไว้จำนวน 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 7 แสนกว่าบาท ป.ป.ช.ชี้มูลว่า หรือเห็นว่า เป็นค่าตอบแทนของบริษัทให้กับพนักงานคนนั้น ระดับธุรการ เพื่อจะปกปิดเรื่องนี้นั้น นี่คือข้อชี้มูลนะครับ ก็ขออนุญาตสั้นๆ นะครับ ท่านผู้ชมนะครับ ว่า ในส่วนนี้เนี่ยนะฮะ ผมก็จะได้พิสูจน์ในชั้นศาลต่อไปว่า ผมเป็นกรรมการมีอำนาจลงนามแทนบริษัท เช็คทุกใบที่ออกจากบริษัท ผมเป็นผู้มีอำนาจลงนาม และการลงนามในเช็คนั้น ก็เป็นการลงนามตามขั้นตอนการเบิกจ่ายค่านายหน้าการประสานงานโฆษณาตามปกติ ที่สำคัญ เป็นการจ่ายโดยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เอาไว้อย่างถูกต้องครบถ้วน มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายนะฮะ จึงไม่ได้เป็นกรณีจ่ายสินบนตอบแทนแต่ประการใด
ป.ป.ช.ชี้มูลว่า ความผิดของพนักงาน อสมท ระดับธุรการ 1 คน มีความผิดวินัยร้ายแรงและอาญา แต่พนักงาน อสมท อีก 1 คน ผิดวินัยที่ปล่อยปละละเลย ผมก็จะได้ใช้สิทธิพิสูจน์ในขั้นศาลต่อไปนะครับว่า อสมท เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ย่อมต้องมีระบบตรวจสอบทั้งระบบภายนอกและภายในที่เข้มข้น ผมจะได้พิสูจน์ให้เห็นต่อไป ซึ่งก็จะใช้สิทธิของผมว่า ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะขอให้พนักงานระดับธุรการเพียงคนเดียวของ อสมท ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ โดยไม่มีใครตรวจสอบพบ หรือไม่มีใครพบ เป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโฆษณาออกอากาศอย่างเปิดเผย และเป็นที่รับรู้กันในเวลานั้น ว่าเป็นรายการใน อสมท ที่มีโฆษณามากที่สุด" พิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดังกล่าวในรายการ
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง : ป.ป.ช.เผยเจ้าหน้าที่ อสมท สารภาพสิ้น “สรยุทธ” จ่ายเช็คให้ปิดปาก-แนะทำลายหลักฐานโกง 138 ล้าน