ASTV ผู้จัดการรายวัน- ทีมกม. ปชป.ยื่นหนังสือจี้ผบ.ตร. ฟันวินัยร้ายแรง “คำรณวิทย์” เทิดทูน “ทักษิณ” ชี้เข้าข่ายขัดจริยธรรมและวินัยอย่างร้ายแรงเป็นตำรวจแต่ไม่จับนักโทษหนีคดี แถมประดับติดยศฝักใฝ่แดงชัดเจน เตรียมยื่น"ยิ่งลักษณ์-เฉลิม"เพิ่ม ด้านโฆษก สตช. เล่นปาหี่ทำทีรับลูกยืนยันจะดำเนินการตามระเบียบราชการ
วานนี้ (10 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรค และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณียอมรับว่าไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศเพื่อให้ประดับยศให้ โดยมี พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายราเมศกล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมและผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ที่ระบุว่าเมื่อข้าราชการตำรวจมีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการทางวินัย เพราะจากข้อเท็จจริงทั้งภาพถ่ายและออกมายอมรับของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เองก็ชัดเจนว่าส่อผิดวินัยรายแรง เพราะเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่ไม่มีจิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กลับเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี
“การที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นนายตำรวจ ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาและจำเลยหลายคดี ต้องใช้วิจารณญาณว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อกฎหมาย ข้อกำหนด หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และหากมีการตรวจสอบเรื่องนี้จริงก็จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายเรื่อง อาทิ ระยะเวลาเดินทางออกนอกประเทศ เรื่องความเป็นกลางทางการเมือง และการดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศของความเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายราเมศกล่าว
นายราเมศกล่าวต่อว่า จากที่เคยร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินสอบเรื่องจริยธรรมแล้ว และระยะเวลาผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ยอมดำเนินการอะไรทั้งที่ควรตั้งคณะกรรมการดำเนินสอบการทางวินัย และผบ.ตร.ก็ไม่มีข้อยกเว้นที่ต้องดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ การมาเรียกร้องต่อ ผบ.ตร.ครั้งนี้ไม่มีประเด็นเรื่องการเมือง เพราะการตรวจสอบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และไม่เป็นการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย แต่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าข้าราชการตำรวจที่ไปพบกับผู้ต้องหาหรือจำเลยทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนจะได้สำเนาหนังสือดังกล่าวส่งถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ด้วย นอกจากนี้เตรียมยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือจากนายราเมศ ตนจะได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการสักระยะ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
วานนี้ (10 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกพรรค และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณียอมรับว่าไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศเพื่อให้ประดับยศให้ โดยมี พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานแห่งชาติ เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายราเมศกล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมและผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ที่ระบุว่าเมื่อข้าราชการตำรวจมีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการทางวินัย เพราะจากข้อเท็จจริงทั้งภาพถ่ายและออกมายอมรับของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เองก็ชัดเจนว่าส่อผิดวินัยรายแรง เพราะเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้รักษากฎหมาย แต่ไม่มีจิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ กลับเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี
“การที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นนายตำรวจ ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาและจำเลยหลายคดี ต้องใช้วิจารณญาณว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อกฎหมาย ข้อกำหนด หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และหากมีการตรวจสอบเรื่องนี้จริงก็จะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายเรื่อง อาทิ ระยะเวลาเดินทางออกนอกประเทศ เรื่องความเป็นกลางทางการเมือง และการดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศของความเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายราเมศกล่าว
นายราเมศกล่าวต่อว่า จากที่เคยร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินสอบเรื่องจริยธรรมแล้ว และระยะเวลาผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ยอมดำเนินการอะไรทั้งที่ควรตั้งคณะกรรมการดำเนินสอบการทางวินัย และผบ.ตร.ก็ไม่มีข้อยกเว้นที่ต้องดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ การมาเรียกร้องต่อ ผบ.ตร.ครั้งนี้ไม่มีประเด็นเรื่องการเมือง เพราะการตรวจสอบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และไม่เป็นการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย แต่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าข้าราชการตำรวจที่ไปพบกับผู้ต้องหาหรือจำเลยทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนจะได้สำเนาหนังสือดังกล่าวส่งถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ด้วย นอกจากนี้เตรียมยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือจากนายราเมศ ตนจะได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการสักระยะ แต่ยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
