ทีมกฎหมาย ปชป.แถลง นัดบุก สตช.จี้ "เพรียวพันธ์" ฟัน "คำรณวิทย์" กรณีให้ “ทักษิณ” ประดับยศผิดวินัยร้ายแรง-ขัดจริยธรรม ชี้ไร้จิตสำนึก-ไม่เป็นกลาง-ตอบแทนแค่ทักษิณ-เสื้อแดง เหลือเชื่อยังกล้าร้องมาร์ชตำรวจ “ไม่ยอมเป็นมิตรผู้ผิดกฎหมาย” ด้าน ผบช.น.นกรู้ชิ่งหลบกระแสอ้างไปดูงานราชการด้านกิจการท่าเรือ 7-16 ก.ย.
วานนี้ (9 ก.ย.) นายราเมศ รัตนเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีในต่างประเทศ ประดับยศให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ในกรณีนี้ถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรงและขัดประมวลจริยธรรมตำรวจชัดเจนที่ไปพบกับนักโทษหนีคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ดังนั้นในวันนี้ เวลา 13.00 น. ตนจะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และยื่นหนังสือให้ดำเนินการตามที่เรียกร้อง และภายหลังจากนี้จะยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการเพื่อเอาโทษทางวินัยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเช่นกัน
ทั้งนี้ เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่มีจิตสำนึกของการเป็นผู้รักษากฎหมายและผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่การที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ระบุว่าหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออกนั้นเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง ตอบแทนเพียง พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงเท่านั้น ทั้งที่ควรทำงานเพื่อประชาชนโดยไม่เลือกข้าง อีกทั้งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีตำรวจเข้าให้กำลังใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าร้องเพลงมาร์ชตำรวจเพราะมีท่อนที่ระบุว่า “ไม่ยอมเป็นมิตรผู้ผิดกฎหมาย”
ส่วนกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณประดับยศให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมเปรียบเทียบกรณีที่มีนายตำรวจหลายคนเข้าพบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายราเมศกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเป็นคนละกรณีกัน เพราะนายชวนไม่ได้เป็นนักโทษหนีคดี จึงเห็นว่านายจิรายุพยายามเอาเรื่องดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ประดับยศพลตำรวจโทให้ และประกาศว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออกว่า คงไม่มีใครใส่ใจถึงความสนิทสนมส่วนตัวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อยากถามว่าในฐานะผู้รักษากฎหมาย เหตุใดไม่เชื่อถือกฎหมายของประเทศนี้ เพราะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้วว่ามีความผิด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็ไม่เคยคิดแทรกแซงการทำงานของตำรวจ และหากกลับมาเป็นรัฐบาลก็ไม่เคยคิดปลด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่การที่ออกมาประกาศว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออก เป็นการชี้ให้เห็นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ทำงานสนองฝ่ายการเมือง ไม่ได้ทำงานสนองประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีหนังสือบันทึกข้อความลงนามโดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แจกจ่ายไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และทุกกองที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ด้วยระหว่างวันที่ 7-16 ก.ย.2555 ผบช.น.จะเดินทางไปราชการต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานกิจการท่าเรือและการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเบลเยี่ยม และประเทศฮอลแลนด์ โดยในห้วงเวลาดังกล่าวที่ไปราชการ มอบหมายให้รองผบช.น.เป็นผู้รักษาราชการแทน โดยมอบหมายให้พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. รักษาราชการแทนในวันที่ 7-11 ก.ย. และพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. รักษาราชการแทนในวันที่ 12-16 ก.ย.นี้ จึงแจ้งมาให้ทราบ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.ย.) ข้าราชการเจ้าหน้าที่ตำรวจของนครบาล ประมาณ 500 นาย ได้เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมนำดอกกุหลาบมามอบให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในการปฏิบัติหน้าที่และดูแลประชาชน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อหน้าตำรวจที่มาให้กำลังใจว่า คดีที่เจ้าหน้าตำรวจ สน.ทองหล่อ ถูกรถชนเสียชีวิต แถมมีเครื่องหมายนายดาบติดอยู่ที่ที่ปัดน้ำฝนของรถยนต์คันเกิดเหตุ สิ่งนี้มันทำให้ตนทนไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ทุกคนไม่ต้องกังวล ตนทำงานเพื่อประชาชน เพื่อความถูกต้อง หลังจากนี้ถ้าทุกท่านกลับไปที่โรงพักให้ช่วยกันทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนทั่วกรุงเทพฯให้ดีที่สุด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า กรณีมีบางกลุ่มได้ไปยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.ก็ไม่เป็นไร แค่เพียงพวกท่านมาให้กำลังใจก็ถือว่าที่สุดแล้วเพราะตนก็เป็นเด็กบ้านนอก หน้าที่ตำรวจเมื่อมาอยู่ในจุดนี้จะทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ถ้าตนโดนออก เพราะลูกน้องโดนรถชนเสียชีวิตก็ไม่เป็นไร แต่ตนยอมไม่ได้
“ผมจะเล่า 3 คดีให้ฟังที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย ชั้นประทวน โดนยิงตาย แต่เมื่อผมลงไปดูเองทำให้สามารถจับคนร้ายได้ภายใน 2-3 วัน คดีที่ 2 เหตุการณ์ที่บางขุนเทียน ตำรวจชั้นประทวน โดนยิงเข้าที่ศีรษะ ซึ่ง ผกก.สน.บางขุนเทียน ไม่ลงไปดูที่เกิดเหตุ แล้วจะเป็น ผกก.ได้อย่างไร ถ้าไม่มีหัวใจให้ลูกน้องแบบนี้ ส่วนคดีที่ 3 เหตุการณ์ที่รถพุ่งชนตำรวจ สน.ทองหล่อ แต่ผู้บังคับบัญชากับไปเอาแพะมาได้อย่างไร ซึ่งตำรวจที่ถูกรถชนก็เป็นลูกน้องด้วย” ผบช.กล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ว่าตนนำรูป พ.ต.ท.ทักษิณ มาติดไว้ที่ห้องทำงาน ขอยืนยันว่าสมัยที่เป็น ผบก.191 พ.ต.ท.ทักษิณเรียกไปพบและบอกว่าตนเป็นตำรวจต้องทำงานหนักกว่าเพราะต้องทำให้เป็นที่รักของตำรวจและประชาชน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักการเมืองทำเพื่อประชาชนอย่างเดียว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยอมรับว่าไปต่างประเทศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดยศให้ ซึ่งตนก็ต้องให้คนที่เคารพรักติดให้ ตนพูดจากใจจริงและไม่เสแสร้งอะไรทั้งสิ้น ในรูปก็เขียนไว้ชัดเจนว่าทำให้ตำรวจและประชาชนรัก จึงเอารูปมาติดเพื่อเป็นคติสอนใจในการทำงาน แล้วผิดด้วยหรือ
“ส่วนคำพูดที่เขียนไว้ว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ ผมยืนยันว่าในชีวิตผมร้องเพลงเดียว คือ พี่มีแต่ให้ ที่ไหนๆ ผมก็ร้องแต่เพลงนี้ เพราะฉะนั้นวลีนี้มาจากเพลง แต่มีหลายคนนำไปแปลความหมายต่างๆ นานา ขอยืนยันอีกครั้งว่าผมมาถึงจุดนี้จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งเพื่อมาทำงานให้พี่น้องประชาชน และถ้าเกิดเปลี่ยนรัฐบาลผมจะลาออก ไม่ต้องย้าย ให้เขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้าก็ยังได้ ไม่มีปัญหา และผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแห่งประเทศไทย ไม่ใช่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลประเทศไหน แล้วผมจะไปจับคนร้ายนอกประเทศได้อย่างไร” ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย
ต่อมา ผบช.น.ได้นำร้องเพลง “มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎ์” และ “เพลงสดุดีมหาราชา” เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบัน หลังจากร้องเพลงจบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยมอบดอกกุหลาบให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป.
วานนี้ (9 ก.ย.) นายราเมศ รัตนเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีในต่างประเทศ ประดับยศให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า ในกรณีนี้ถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรงและขัดประมวลจริยธรรมตำรวจชัดเจนที่ไปพบกับนักโทษหนีคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ดังนั้นในวันนี้ เวลา 13.00 น. ตนจะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และยื่นหนังสือให้ดำเนินการตามที่เรียกร้อง และภายหลังจากนี้จะยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการเพื่อเอาโทษทางวินัยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเช่นกัน
ทั้งนี้ เห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่มีจิตสำนึกของการเป็นผู้รักษากฎหมายและผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่การที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ระบุว่าหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออกนั้นเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง ตอบแทนเพียง พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงเท่านั้น ทั้งที่ควรทำงานเพื่อประชาชนโดยไม่เลือกข้าง อีกทั้งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีตำรวจเข้าให้กำลังใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าร้องเพลงมาร์ชตำรวจเพราะมีท่อนที่ระบุว่า “ไม่ยอมเป็นมิตรผู้ผิดกฎหมาย”
ส่วนกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณประดับยศให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นเรื่องส่วนตัว พร้อมเปรียบเทียบกรณีที่มีนายตำรวจหลายคนเข้าพบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายราเมศกล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเป็นคนละกรณีกัน เพราะนายชวนไม่ได้เป็นนักโทษหนีคดี จึงเห็นว่านายจิรายุพยายามเอาเรื่องดังกล่าวให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ประดับยศพลตำรวจโทให้ และประกาศว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออกว่า คงไม่มีใครใส่ใจถึงความสนิทสนมส่วนตัวของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อยากถามว่าในฐานะผู้รักษากฎหมาย เหตุใดไม่เชื่อถือกฎหมายของประเทศนี้ เพราะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ศาลได้มีคำพิพากษาไปแล้วว่ามีความผิด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็ไม่เคยคิดแทรกแซงการทำงานของตำรวจ และหากกลับมาเป็นรัฐบาลก็ไม่เคยคิดปลด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่การที่ออกมาประกาศว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลจะลาออก เป็นการชี้ให้เห็นว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ทำงานสนองฝ่ายการเมือง ไม่ได้ทำงานสนองประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีหนังสือบันทึกข้อความลงนามโดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. แจกจ่ายไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และทุกกองที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ด้วยระหว่างวันที่ 7-16 ก.ย.2555 ผบช.น.จะเดินทางไปราชการต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานกิจการท่าเรือและการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเบลเยี่ยม และประเทศฮอลแลนด์ โดยในห้วงเวลาดังกล่าวที่ไปราชการ มอบหมายให้รองผบช.น.เป็นผู้รักษาราชการแทน โดยมอบหมายให้พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.น. รักษาราชการแทนในวันที่ 7-11 ก.ย. และพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. รักษาราชการแทนในวันที่ 12-16 ก.ย.นี้ จึงแจ้งมาให้ทราบ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.ย.) ข้าราชการเจ้าหน้าที่ตำรวจของนครบาล ประมาณ 500 นาย ได้เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมนำดอกกุหลาบมามอบให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในการปฏิบัติหน้าที่และดูแลประชาชน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อหน้าตำรวจที่มาให้กำลังใจว่า คดีที่เจ้าหน้าตำรวจ สน.ทองหล่อ ถูกรถชนเสียชีวิต แถมมีเครื่องหมายนายดาบติดอยู่ที่ที่ปัดน้ำฝนของรถยนต์คันเกิดเหตุ สิ่งนี้มันทำให้ตนทนไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ทุกคนไม่ต้องกังวล ตนทำงานเพื่อประชาชน เพื่อความถูกต้อง หลังจากนี้ถ้าทุกท่านกลับไปที่โรงพักให้ช่วยกันทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนทั่วกรุงเทพฯให้ดีที่สุด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า กรณีมีบางกลุ่มได้ไปยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.ก็ไม่เป็นไร แค่เพียงพวกท่านมาให้กำลังใจก็ถือว่าที่สุดแล้วเพราะตนก็เป็นเด็กบ้านนอก หน้าที่ตำรวจเมื่อมาอยู่ในจุดนี้จะทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด ถ้าตนโดนออก เพราะลูกน้องโดนรถชนเสียชีวิตก็ไม่เป็นไร แต่ตนยอมไม่ได้
“ผมจะเล่า 3 คดีให้ฟังที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย ชั้นประทวน โดนยิงตาย แต่เมื่อผมลงไปดูเองทำให้สามารถจับคนร้ายได้ภายใน 2-3 วัน คดีที่ 2 เหตุการณ์ที่บางขุนเทียน ตำรวจชั้นประทวน โดนยิงเข้าที่ศีรษะ ซึ่ง ผกก.สน.บางขุนเทียน ไม่ลงไปดูที่เกิดเหตุ แล้วจะเป็น ผกก.ได้อย่างไร ถ้าไม่มีหัวใจให้ลูกน้องแบบนี้ ส่วนคดีที่ 3 เหตุการณ์ที่รถพุ่งชนตำรวจ สน.ทองหล่อ แต่ผู้บังคับบัญชากับไปเอาแพะมาได้อย่างไร ซึ่งตำรวจที่ถูกรถชนก็เป็นลูกน้องด้วย” ผบช.กล่าว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ว่าตนนำรูป พ.ต.ท.ทักษิณ มาติดไว้ที่ห้องทำงาน ขอยืนยันว่าสมัยที่เป็น ผบก.191 พ.ต.ท.ทักษิณเรียกไปพบและบอกว่าตนเป็นตำรวจต้องทำงานหนักกว่าเพราะต้องทำให้เป็นที่รักของตำรวจและประชาชน ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักการเมืองทำเพื่อประชาชนอย่างเดียว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยอมรับว่าไปต่างประเทศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดยศให้ ซึ่งตนก็ต้องให้คนที่เคารพรักติดให้ ตนพูดจากใจจริงและไม่เสแสร้งอะไรทั้งสิ้น ในรูปก็เขียนไว้ชัดเจนว่าทำให้ตำรวจและประชาชนรัก จึงเอารูปมาติดเพื่อเป็นคติสอนใจในการทำงาน แล้วผิดด้วยหรือ
“ส่วนคำพูดที่เขียนไว้ว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ ผมยืนยันว่าในชีวิตผมร้องเพลงเดียว คือ พี่มีแต่ให้ ที่ไหนๆ ผมก็ร้องแต่เพลงนี้ เพราะฉะนั้นวลีนี้มาจากเพลง แต่มีหลายคนนำไปแปลความหมายต่างๆ นานา ขอยืนยันอีกครั้งว่าผมมาถึงจุดนี้จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งเพื่อมาทำงานให้พี่น้องประชาชน และถ้าเกิดเปลี่ยนรัฐบาลผมจะลาออก ไม่ต้องย้าย ให้เขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้าก็ยังได้ ไม่มีปัญหา และผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแห่งประเทศไทย ไม่ใช่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลประเทศไหน แล้วผมจะไปจับคนร้ายนอกประเทศได้อย่างไร” ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย
ต่อมา ผบช.น.ได้นำร้องเพลง “มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎ์” และ “เพลงสดุดีมหาราชา” เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบัน หลังจากร้องเพลงจบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยมอบดอกกุหลาบให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป.
