ภายหลังมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.)แถลงข่าวชี้แจงกรณีการโยกย้ายตำแหน่งจากเลขาธิการป.ป.ท. ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม อีก เพื่อยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงหรือกลั่นแกล้งทางการเมือง สืบเนื่องจากการนำเสนอข้อมูลในเชิงลบต่อการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกระทรวงยุติธรรมอย่างต่อเนื่องนั้น
วานนี้ (10ก.ย.55) เวลา 09.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) แถลงข่าวกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการที่ครม.มีมติโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎีไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนตั้งใจมายืนยันว่ารู้สึกยินดีและอบอุ่นที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ให้ไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นและมอบหมายให้ทำงานที่ถนัดคือการปราบปรามยาเสพติด ขอย้ำว่าไม่ได้ถูกบีบบังคับหรือถูกรังแกโดยการเมือง และมองว่าการเสนอข่าวที่เกิดขึ้นกับการโยกย้ายตำแหน่งของตนครั้งนี้ อาจมีบุคคลไม่หวังดีนำไปขยายความเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง และการพาดพิงบุคคลที่ 3 ยังทำให้เกิดความเสียหายด้วย พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องไม่ให้นำข้อมูลที่พบทุจริตของข้าราชการไปเชื่อมโยงบุคคลอื่น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย
"ป.ป.ท.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการ คาดว่าเป็นการขยายผลทางการเมือง ซึ่งจากนี้ป.ป.ท.ยินดีเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมด้วย แต่ขอไม่ขยายทางการเมือง"พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวเเละว่า ผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่เป็นเลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่ หากไม่ใช่คนในป.ป.ท.ก็ต้องมีเหตุผลชี้แจงได้ว่ามีข้อดีหรือข้อเด่นตรงจุดใด แต่ที่สำคัญต้องมีรู้และความซื่อสัตย์เป็นหลัก แต่ตนยังไม่ทราบว่าใครจะมาทำหน้าที่เลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการตั้งคณะกรรมการสรรหาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะไม่ขอก้าวล่วงการสรรหาว่าจะเลือกบุคคลใดเข้ารับตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเริ่มการแถลงข่าว พ.ต.อ.ณรัชต์ ศวตนันทน์ ว่าที่อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งถูกวางตัวให้เข้ารับตำแหน่งโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้เข้ามาสังเกตการณ์การแถลงข่าวของพ.ต.อ.ดุษฎีตั้งแต่ต้นจนจบ
**สั่งปลัด ยธ. ตั้งกก.สรรหา เลขาใหม่
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงยุติธรรม ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้ง กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. แทน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ
โดยระบุว่า การสรรหาเลขาธิการ ป.ป.ท. ครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเป็นธรรม ตามขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งยืนยัน ไม่มีการวางตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และตนก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ด้วย ซึ่งขณะที่คุณสมบัติของผู้สมัครนั้น จะต้องเป็นข้าราชการระดับ ซี 9 ของกระทรวงยุติธรรม
**ปัดดึงรองดีเอสไอรักษาราชการ
ส่วนกรณีที่มีหนังสือข้อความทางราชการกระทรวงยุติธรรม เรื่องการเสนอชื่อ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ท.นั้น รมว.ยุติธรรม ยืนยันไม่เป็นความจริง และไม่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวมาได้อย่างไร พร้อมกับมองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือ ทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมือง เพราะตนไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา
**ภาคีต้านทุจริตยื่นถอดถอนประชา
อีกด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสุนธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ(ภตช.) เข้ายื่นหนังสือถึงนายโสภณ จันเทรมะ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกรณีที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม แทรกแซงกระบวนการสอบทุจริตและโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการป.ป.ท. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ รองเลขาธิการป.ป.ท. เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน
นายมงคงกิตต์ กล่าวว่า ต้องการให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของพล.ต.อ.ประชา ที่มีการแทรกแซงการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ และพยายามล็อบบี้ให้พ.ต.อ.ดุษฎี ลงนามหนังสือให้พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ผู้มีรายชื่อเป็นเลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่มารักษาราชการแทน ทั้งๆที่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะตามกฎหมายควรให้เลขาธิการป.ป.ท.ทำหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งโปรดเกล้าให้เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม โดยปกติการรักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ท.ต้องเป็นรองเลขาธิการป.ป.ท.มารักษาราชการแทน ดังนั้น การกระทำของรมว.ยุติธรรมอาจเข้าข่ายแทรกแซงการทำงานข้าราชการประจำ
นายมงคลกิตต์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติพล.ต.อ.ประชา เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.). สมัยนายชวน หลีกภัย ชี้ว่า ขัดคำสั่งคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีกฤษฎีกาชี้ว่ามีความผิดจากการสรรหาคณบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้มีผลถึงการห้ามไม่ให้เสนอชื่อบุคคลโปรดเกล้าเข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะติดตามการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตที่ป.ป.ท.ดำเนินการไว้รวม 16 สำนวนคดี เช่น ทุจริตงบเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัย คดีรถหรูหลีกเลี่ยงภาษี โดยภชต.มีรายละเอียดในสำนวนคดีเช่นเดียวกับที่ป.ป.ท. ดังนั้น ภาคประชาชนจะทำงานตรวจสอบคู่ขนานไปกับป.ป.ท.ด้วย
**ปชป.อัด "ประชา" แทรกแซง ขรก.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.ต.อ.ประชา พรมนอก รมต.ยุติธรรม สั่งการให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แถลงข่าวถึงเหตุผลการโยกย้ายออกจากตำแหน่งว่า การโยกย้ายเลขา ป.ป.ท. เป็นอีกกรณีหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสถึงการโยกย้าย และแสดงให้เห็นว่าการแต่งตั้งโยกย้ายเลขา ป.ป.ท. ที่เป็นหน่วยงานปราบปรามการทุจริต ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริต เพราะหลังจากมีคำสั่งโยกย้ายออกมาได้มีกระแสข่าวว่าการโยกย้ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตรวจสองการทุจริตหลายเรื่อง อาทิ การทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วม การเลี่ยงภาษี รถยนต์ราคาแพง การบุกรุกที่ดินที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในรัฐบาล และการที่ พล.ต.อ.ประชาใช่วิธีการเช่นนี้ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ถือว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและจะกระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลในนโยบายการปราบปรามการทุจริต
วานนี้ (10ก.ย.55) เวลา 09.30 น.ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.) แถลงข่าวกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการที่ครม.มีมติโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎีไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนตั้งใจมายืนยันว่ารู้สึกยินดีและอบอุ่นที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ให้ไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นและมอบหมายให้ทำงานที่ถนัดคือการปราบปรามยาเสพติด ขอย้ำว่าไม่ได้ถูกบีบบังคับหรือถูกรังแกโดยการเมือง และมองว่าการเสนอข่าวที่เกิดขึ้นกับการโยกย้ายตำแหน่งของตนครั้งนี้ อาจมีบุคคลไม่หวังดีนำไปขยายความเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง และการพาดพิงบุคคลที่ 3 ยังทำให้เกิดความเสียหายด้วย พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องไม่ให้นำข้อมูลที่พบทุจริตของข้าราชการไปเชื่อมโยงบุคคลอื่น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย
"ป.ป.ท.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการ คาดว่าเป็นการขยายผลทางการเมือง ซึ่งจากนี้ป.ป.ท.ยินดีเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมด้วย แต่ขอไม่ขยายทางการเมือง"พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวเเละว่า ผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่เป็นเลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่ หากไม่ใช่คนในป.ป.ท.ก็ต้องมีเหตุผลชี้แจงได้ว่ามีข้อดีหรือข้อเด่นตรงจุดใด แต่ที่สำคัญต้องมีรู้และความซื่อสัตย์เป็นหลัก แต่ตนยังไม่ทราบว่าใครจะมาทำหน้าที่เลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการตั้งคณะกรรมการสรรหาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะไม่ขอก้าวล่วงการสรรหาว่าจะเลือกบุคคลใดเข้ารับตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเริ่มการแถลงข่าว พ.ต.อ.ณรัชต์ ศวตนันทน์ ว่าที่อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งถูกวางตัวให้เข้ารับตำแหน่งโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้เข้ามาสังเกตการณ์การแถลงข่าวของพ.ต.อ.ดุษฎีตั้งแต่ต้นจนจบ
**สั่งปลัด ยธ. ตั้งกก.สรรหา เลขาใหม่
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงยุติธรรม ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้ง กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. แทน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ
โดยระบุว่า การสรรหาเลขาธิการ ป.ป.ท. ครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเป็นธรรม ตามขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งยืนยัน ไม่มีการวางตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และตนก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ด้วย ซึ่งขณะที่คุณสมบัติของผู้สมัครนั้น จะต้องเป็นข้าราชการระดับ ซี 9 ของกระทรวงยุติธรรม
**ปัดดึงรองดีเอสไอรักษาราชการ
ส่วนกรณีที่มีหนังสือข้อความทางราชการกระทรวงยุติธรรม เรื่องการเสนอชื่อ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ท.นั้น รมว.ยุติธรรม ยืนยันไม่เป็นความจริง และไม่ทราบว่าเอกสารดังกล่าวมาได้อย่างไร พร้อมกับมองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือ ทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมือง เพราะตนไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา
**ภาคีต้านทุจริตยื่นถอดถอนประชา
อีกด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสุนธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ(ภตช.) เข้ายื่นหนังสือถึงนายโสภณ จันเทรมะ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกรณีที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม แทรกแซงกระบวนการสอบทุจริตและโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการป.ป.ท. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ รองเลขาธิการป.ป.ท. เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน
นายมงคงกิตต์ กล่าวว่า ต้องการให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของพล.ต.อ.ประชา ที่มีการแทรกแซงการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ และพยายามล็อบบี้ให้พ.ต.อ.ดุษฎี ลงนามหนังสือให้พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ผู้มีรายชื่อเป็นเลขาธิการป.ป.ท.คนใหม่มารักษาราชการแทน ทั้งๆที่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะตามกฎหมายควรให้เลขาธิการป.ป.ท.ทำหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งโปรดเกล้าให้เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม โดยปกติการรักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ท.ต้องเป็นรองเลขาธิการป.ป.ท.มารักษาราชการแทน ดังนั้น การกระทำของรมว.ยุติธรรมอาจเข้าข่ายแทรกแซงการทำงานข้าราชการประจำ
นายมงคลกิตต์กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติพล.ต.อ.ประชา เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.). สมัยนายชวน หลีกภัย ชี้ว่า ขัดคำสั่งคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีกฤษฎีกาชี้ว่ามีความผิดจากการสรรหาคณบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้มีผลถึงการห้ามไม่ให้เสนอชื่อบุคคลโปรดเกล้าเข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะติดตามการสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตที่ป.ป.ท.ดำเนินการไว้รวม 16 สำนวนคดี เช่น ทุจริตงบเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบอุทกภัย คดีรถหรูหลีกเลี่ยงภาษี โดยภชต.มีรายละเอียดในสำนวนคดีเช่นเดียวกับที่ป.ป.ท. ดังนั้น ภาคประชาชนจะทำงานตรวจสอบคู่ขนานไปกับป.ป.ท.ด้วย
**ปชป.อัด "ประชา" แทรกแซง ขรก.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.ต.อ.ประชา พรมนอก รมต.ยุติธรรม สั่งการให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แถลงข่าวถึงเหตุผลการโยกย้ายออกจากตำแหน่งว่า การโยกย้ายเลขา ป.ป.ท. เป็นอีกกรณีหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสถึงการโยกย้าย และแสดงให้เห็นว่าการแต่งตั้งโยกย้ายเลขา ป.ป.ท. ที่เป็นหน่วยงานปราบปรามการทุจริต ทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริต เพราะหลังจากมีคำสั่งโยกย้ายออกมาได้มีกระแสข่าวว่าการโยกย้ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตรวจสองการทุจริตหลายเรื่อง อาทิ การทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วม การเลี่ยงภาษี รถยนต์ราคาแพง การบุกรุกที่ดินที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในรัฐบาล และการที่ พล.ต.อ.ประชาใช่วิธีการเช่นนี้ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ถือว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและจะกระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลในนโยบายการปราบปรามการทุจริต
