xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ข้องใจ"บิ๊กโอ๋" บินพบ"แม้ว"ส่อผิดกม.ทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (9 ก.ย.55) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ขั้นตอนของการแต่งตั้งนายทหารยศนายพล ยืนยันจะต้องผ่านตนก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการส่งเรื่องดังกล่าวมา และคาดว่าจะยังอีกนาน เพราะต้องส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีก่อน โดยที่ขั้นตอนแรกนั้น เมื่อมีการประชุมบอร์ดกลาโหม เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้ากรมเสมียนตรา จะเป็นผู้รวบรวมให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในการตรวจดูรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้น ทางเลขาฯ คณะรัฐมนตรี จะเป็นผู้เก็บเรื่อง และทำใบปะหน้า หรือใบกราบบังคมทูลฯ เพื่อให้ตนเอง ในฐานะตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และทำหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ลงนาม และส่งต่อให้ นายกรัฐมนตรีลงนามอีกครั้ง
เมื่อ นายกรัฐมนตรี ลงนามเสร็จเรียบร้อย เลขาฯ คณะรัฐมนตรีจะส่งเรื่องให้ราชเลขาธิการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำเรื่องกราบบังคมทูลเกล้าฯ ซึ่งเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย เรียบร้อยแล้ว ทางราชเลขาธิการจะส่งเรื่องให้สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ นายกรัฐมนตรี ลงนามสนองพระบรมราชโองการอีกครั้ง เพื่อที่จะสามารถพิมพ์แจกจ่าย เพื่อลงราชกิจจานุเบกษา ต่อไป อีกนานกว่าจะมาถึงตน
เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คนในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธว่า “เจ๊ ด.” ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงกลาโหม รวมทั้งการโยกย้ายเลขาธิการคณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) แต่ล่าสุด องค์การต่อต้านการทุจริตคอรัปชันออกมาระบุว่ามีการไซฟอนเงินที่ประเทศฮ่องกง ว่ารัฐบาลควรที่จะหาทางป้องกันมากกว่า เพื่อไม่ให้สุภาพสตรีผู้สูงวัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน หรือเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดสุภาพสตรีผู้สูงวัยถึงมีข้อครหาในเรื่องผลประโยชน์และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในทุกกระทรวง หรือเป็นเพราะสุภาพสตรีผู้สูงอายุคือผู้ที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลนี้หรือไม่
นายองอาจ กล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)เงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประเมินผลงานของกระทรวงกลาโหม หลังจากที่กระทรวงกลาโหมแถลงผลงาน 6 ด้านในรอบ 1 ปี ว่าเป็นผลงานปกติของข้าราชการประจำ ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาล หรือ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ทั้งนี้ รัฐบาลและ พล.อ.อ.สุกำพล ควรปรับปรุงนโยบายของกระทรวงกลาโหม 3 ด้าน ดังนี้ 1.การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ พล.อ.อ.สุกำพล ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขและลดปัญหาความรุนแรง หรือสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่แต่อย่างใด
2.รัฐบาลและ พล.อ.อ.สุกำพล ได้ทำลายระบบคุณธรรมและกฎระเบียบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหาร ปล่อยให้มีการล้วงลูกของฝ่ายการเมือง และ 3.ความพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ดินแดนของไทย เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาถูกทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของทหารไทยตก แต่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการให้สมศักดิ์ศรีเท่าที่ควร และควรที่จะเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
นายองอาจ กล่าวต่อว่ากรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล นำคณะข้าราชการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศอังกฤษ เพื่อหารือเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงกลาโหมถือว่าไม่ควรนำไปหารือ แต่ควรที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม และระเบียบของกระทรวงกลาโหมมากกว่าจะไปรับใบสั่งจากคนต่างแดน หรือออกคำสั่งตามอำเภอใจด้วยวาจา เพื่อไม่ให้มีหลักฐานเอาผิดได้ อย่างไรก็ตามการที่ พล.อ.อ.สุกำพล ไม่เรียก พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงหลาโหม ที่มีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการสำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล อาจเข้าข่ายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น