ททท. เตรียมเสนอที่ประชุมบอร์ดด้านการตลาดอาเซียน พิจารณา จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเป็นครั้งแรก ให้ทันเสนอขายที่งาน ITB เบอร์ลิน เป็นครั้งแรก ชู 5 กลุ่มสินค้าท่องเที่ยว อาหาร สปา สุขภาพ ธุรกิจและประวัติศาสตร์ ดัน 23 สายการบินโลว์คอสต์ สร้างเป็นเครือข่ายรองรับนักท่องเทียว
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในฐานะประธานคณะกรรมการด้านการตลาดอาเซียน ว่า ในการประชุมคณะกรรมการด้านการตลาดฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย ศกนี้ ซึ่งมีกรรมการจาก 10 ประเทศสมาชิก อาเซียนเข้าร่วมประชุม ได้เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติ
แผนการจัดทำโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อจะนำไปเสนอขายที่งาน “ไอทีบี เบอร์ลิน” ในเดือนมี.ค.ปี 2556 ซึ่งเป็นงานเทรดสินค้าด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และถือเป็นการเปิดตัวขายเส้นทางอาเซียนครั้งแรก
“หากในที่ประชุมทุกประเทศเห็นชอบในหลักการร่วมกัน ขั้นตอนต่อไปจะเชิญ ภาคเอกชนและองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือ อสท.ของแต่ละประเทศ ไปดำเนินการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนโดยต้องอยู่ภายใต้แนวคิด 5 กลุ่มสินค้าหลักที่โดดเด่นของอาเซียน นอกจากนั้นจะใช้เครือข่าย ของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์
เป็นตัวเชื่อโยงการเดินทางในช่วงที่การเดินทางในทางอื่นยังไม่สะดวก ซึ่งในอาเซียนมีสายการบินโลว์คอสต์รวมกันถึง 23 สาย “
สำหรับ 5 กลุ่มสินค้าท่องเที่ยว สำรวจแล้วพบว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสูงเรียงตามกันมาได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Culinary Asean) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Asean) การท่องเที่ยวเชิงสปา (Spa Asean) การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Business Asean) และ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Asean)
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว หากคณะกรรมการด้านการตลาด อาเซียนเห็นชอบ จะนำเข้าหารือกับอาเซียนต้า ซึ่งเป็นองค์กรศูนย์รวมภาค เอกชนท่องเที่ยวอาเซียนเป็นลำดับต่อไปเพื่อร่วมกันจัดทำโปรแกรม การเดินทางท่องเที่ยวที่จะนำไปเสนอขายที่งาน ไอทีบีให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งแผนงานทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นการทำงานด้านการตลาดท่องเที่ยวอาเซียนร่วมกันเป็นครั้งแรก ส่วนอาเซียนต้า จะประกอบด้วย สายการบิน โรงแรม และ บริษัทนำเที่ยว เป็นต้น
ทั้งนี้หากงานด้านการจัดรูปแบบโปรแกรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเซียนร่วมกัน สำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงตามเขตระเบียงเศรษฐกิจ 5 เส้นทางซึ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกันในประเทศ กลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ “ตราด” เชื่อมเส้นทางทะเลกับสีหนุวิลล์ กัมพูชา หมู่เกาะฟูก๊วก ในเวียดนาม , “นครพนม เชื่อมต่อลาไปยังเว้-ดานัง
ในเวียดนาม ,เชียงราย เชื่อมต่อคุนหมิง จีนตอนใต้ กับ กรุงเทพ , “กาญจนบุรี” เชื่อมทวาย พม่า และ “สงขลา” เชื่อมต่อมาเลเซีย
นายสรรเสริย กล่าวว่า ใน 5 เส้นทางดังกล่าว หาดใหญ่ เป็นด่าน ที่มีความเข้มแข็งที่สุด มีการเติบโตขอจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง ส่วนอีก 4 เส้นทาง ยังมีอุปสรรคได้เรื่องของการเดินทางเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะที่ จ.กาญจนบุรี ที่เชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า ที่ด่าน บ้านพุน้ำร้อน ที่เตรียมจะเปิดเป็นทางถาวรเร็วๆนี้
โดยเส้นทางนี้จะต้องมีการพัฒนาอีกมาก แต่ต้องแบ่งเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางขนส่งสินค้าจากท่าเรือทวาย สร้างเป็นถนนมอเตอร์เวย์ และเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งควรจะมีการปรับปรุงหรือขยายพื้นที่การจราจร ในเส้นทางเดิมที่มีอยู่ให้ดีและสะดวกขึ้น แต่ในเบื้องต้นทราบว่า กองทัพบก โดย กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ฯ จะเร่งพัฒนาการคมนาคมทางอากาศ
มาช่วยเพิ่มความคล่องตัว ส่วนเส้นทางนครพนม ปัญหาคือ ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากเวียดนามเดินทางเข้ามาน้อย ประมาณ 20,000 คนต่อปี
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในฐานะประธานคณะกรรมการด้านการตลาดอาเซียน ว่า ในการประชุมคณะกรรมการด้านการตลาดฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย ศกนี้ ซึ่งมีกรรมการจาก 10 ประเทศสมาชิก อาเซียนเข้าร่วมประชุม ได้เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาและอนุมัติ
แผนการจัดทำโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อจะนำไปเสนอขายที่งาน “ไอทีบี เบอร์ลิน” ในเดือนมี.ค.ปี 2556 ซึ่งเป็นงานเทรดสินค้าด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และถือเป็นการเปิดตัวขายเส้นทางอาเซียนครั้งแรก
“หากในที่ประชุมทุกประเทศเห็นชอบในหลักการร่วมกัน ขั้นตอนต่อไปจะเชิญ ภาคเอกชนและองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือ อสท.ของแต่ละประเทศ ไปดำเนินการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนโดยต้องอยู่ภายใต้แนวคิด 5 กลุ่มสินค้าหลักที่โดดเด่นของอาเซียน นอกจากนั้นจะใช้เครือข่าย ของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์
เป็นตัวเชื่อโยงการเดินทางในช่วงที่การเดินทางในทางอื่นยังไม่สะดวก ซึ่งในอาเซียนมีสายการบินโลว์คอสต์รวมกันถึง 23 สาย “
สำหรับ 5 กลุ่มสินค้าท่องเที่ยว สำรวจแล้วพบว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสูงเรียงตามกันมาได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Culinary Asean) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Asean) การท่องเที่ยวเชิงสปา (Spa Asean) การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Business Asean) และ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Asean)
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว หากคณะกรรมการด้านการตลาด อาเซียนเห็นชอบ จะนำเข้าหารือกับอาเซียนต้า ซึ่งเป็นองค์กรศูนย์รวมภาค เอกชนท่องเที่ยวอาเซียนเป็นลำดับต่อไปเพื่อร่วมกันจัดทำโปรแกรม การเดินทางท่องเที่ยวที่จะนำไปเสนอขายที่งาน ไอทีบีให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งแผนงานทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นการทำงานด้านการตลาดท่องเที่ยวอาเซียนร่วมกันเป็นครั้งแรก ส่วนอาเซียนต้า จะประกอบด้วย สายการบิน โรงแรม และ บริษัทนำเที่ยว เป็นต้น
ทั้งนี้หากงานด้านการจัดรูปแบบโปรแกรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงในอาเซียนร่วมกัน สำเร็จจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงตามเขตระเบียงเศรษฐกิจ 5 เส้นทางซึ่งเป็นการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกันในประเทศ กลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ “ตราด” เชื่อมเส้นทางทะเลกับสีหนุวิลล์ กัมพูชา หมู่เกาะฟูก๊วก ในเวียดนาม , “นครพนม เชื่อมต่อลาไปยังเว้-ดานัง
ในเวียดนาม ,เชียงราย เชื่อมต่อคุนหมิง จีนตอนใต้ กับ กรุงเทพ , “กาญจนบุรี” เชื่อมทวาย พม่า และ “สงขลา” เชื่อมต่อมาเลเซีย
นายสรรเสริย กล่าวว่า ใน 5 เส้นทางดังกล่าว หาดใหญ่ เป็นด่าน ที่มีความเข้มแข็งที่สุด มีการเติบโตขอจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง ส่วนอีก 4 เส้นทาง ยังมีอุปสรรคได้เรื่องของการเดินทางเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะที่ จ.กาญจนบุรี ที่เชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า ที่ด่าน บ้านพุน้ำร้อน ที่เตรียมจะเปิดเป็นทางถาวรเร็วๆนี้
โดยเส้นทางนี้จะต้องมีการพัฒนาอีกมาก แต่ต้องแบ่งเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางขนส่งสินค้าจากท่าเรือทวาย สร้างเป็นถนนมอเตอร์เวย์ และเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งควรจะมีการปรับปรุงหรือขยายพื้นที่การจราจร ในเส้นทางเดิมที่มีอยู่ให้ดีและสะดวกขึ้น แต่ในเบื้องต้นทราบว่า กองทัพบก โดย กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ฯ จะเร่งพัฒนาการคมนาคมทางอากาศ
มาช่วยเพิ่มความคล่องตัว ส่วนเส้นทางนครพนม ปัญหาคือ ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากเวียดนามเดินทางเข้ามาน้อย ประมาณ 20,000 คนต่อปี