วานนี้ ( 26 ส.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจ เดินทางไปยังประเทศเมียนมาร์
ในวันที่ 19-21 ก.ย.นี้ เพื่อพบปะหารือกับนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ตามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายและพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันพันธะที่ไทยมีให้ต่อเมียนมาร์ โดยการไปพบปะครั้งนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงานมาปฏิบัติงานตามเอ็มโอยูดังกล่าว ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งทางเรือมายังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การดำเนินการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจ อีสต์-เวสต์ คอร์ริดอร์
**พท. เผย“แม้ว”ไปพม่าพ.ย.นี้
อีกด้าน นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปยังประเทศพม่า คาดว่าจะมีสส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เดินทางไปต้อนรับ ทั้งการไปโดยส่วนตัว ไปเป็นหมู่คณะ โดยการเหมารถทัวร์หลายคัน ซึ่งเบื้องต้น คงจะมีราวหลายร้อยคน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีผู้ให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก ฉะนั้นในโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แวะเวียนมาใกล้กับประเทศไทย ก็จะเดินทางไปเยี่ยมเยือนเป็นปกติ และของที่จะนำไปฝาก ก็จะมี ไก่ย่างท่าช้าง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อตุ๋นวัดดงมูลเหล็ก เมนูโปรดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับ"สำนักข่าวอิศรา" จากสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่า คิดถึงบ้าน แต่วันนี้ชินแล้ว ซื้อเครื่องบินมา 2 ปี บินไป 1 พันชั่วโมง ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตบนเครื่องบิน ซึ่งปลายปีนี้อาจจะแวะไปพม่าที่ติดกับเชียงราย จะไป "อู้คำเมือง" อยู่แถวนั้น
**ปีที่แล้วแม้วเคลียร์ทางให้ “ปู”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปหารือกับผู้นำระดับสูงของพม่า ก่อนที่จะไปเนปาล
โดยครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่าการเดินทางเยือนพม่าเพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดี เต็ง เส่ง และพล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย อดีตผู้นำสูงสุดของพม่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เพื่อปูทางให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งการเข้าพบกับนางอองซาน ซูจี เลขาธิการพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของพม่า เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอนนั้นว่า การพบหารือของผู้นำทางการเมืองทั้ง 2 ประเทศมีนัยยะสำคัญและแสดงให้เห็นถึงประเด็นสำคัญ 2 ประการ คือ การอนุญาตให้ นส.ยิ่งลักษณ์ เข้าพบกับ นางอองซานซูจี แสดงให้เห็นว่า พม่าให้ความสำคัญกับไทยอย่างมาก โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำของไทยเข้าพบกับนางอองซานซูจี ซึ่งเป็นผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยของพม่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ พม่าไม่เคยอนุญาตให้ผู้นำประเทศอื่นๆ เข้าพบหารือกับ นางอองซานซูจี เช่นนี้มาก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและพม่าไม่เคยจืดจางไปเลยนับตั้งแต่เมื่อสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เพราะไม่เคยใช้ไม้แข็งกับพม่าอย่างที่ชาติมหาอำนาจทำกัน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคยยื่นข้อเสนอให้พม่าใช้กรุงเทพมหานครเป็นเวทีร่างรัฐธรรมนูญและเปิดโอกาสให้พม่าอธิบายตัวเองต่อชาติตะวันตก โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า และภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ไทยจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆมากมายจากพม่า ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้นอีกด้วย
ในวันที่ 19-21 ก.ย.นี้ เพื่อพบปะหารือกับนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ตามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวายและพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันพันธะที่ไทยมีให้ต่อเมียนมาร์ โดยการไปพบปะครั้งนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงานมาปฏิบัติงานตามเอ็มโอยูดังกล่าว ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งทางเรือมายังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การดำเนินการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจ อีสต์-เวสต์ คอร์ริดอร์
**พท. เผย“แม้ว”ไปพม่าพ.ย.นี้
อีกด้าน นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปยังประเทศพม่า คาดว่าจะมีสส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เดินทางไปต้อนรับ ทั้งการไปโดยส่วนตัว ไปเป็นหมู่คณะ โดยการเหมารถทัวร์หลายคัน ซึ่งเบื้องต้น คงจะมีราวหลายร้อยคน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีผู้ให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก ฉะนั้นในโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แวะเวียนมาใกล้กับประเทศไทย ก็จะเดินทางไปเยี่ยมเยือนเป็นปกติ และของที่จะนำไปฝาก ก็จะมี ไก่ย่างท่าช้าง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อตุ๋นวัดดงมูลเหล็ก เมนูโปรดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับ"สำนักข่าวอิศรา" จากสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่า คิดถึงบ้าน แต่วันนี้ชินแล้ว ซื้อเครื่องบินมา 2 ปี บินไป 1 พันชั่วโมง ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตบนเครื่องบิน ซึ่งปลายปีนี้อาจจะแวะไปพม่าที่ติดกับเชียงราย จะไป "อู้คำเมือง" อยู่แถวนั้น
**ปีที่แล้วแม้วเคลียร์ทางให้ “ปู”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปหารือกับผู้นำระดับสูงของพม่า ก่อนที่จะไปเนปาล
โดยครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่าการเดินทางเยือนพม่าเพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดี เต็ง เส่ง และพล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย อดีตผู้นำสูงสุดของพม่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เพื่อปูทางให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งการเข้าพบกับนางอองซาน ซูจี เลขาธิการพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของพม่า เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอนนั้นว่า การพบหารือของผู้นำทางการเมืองทั้ง 2 ประเทศมีนัยยะสำคัญและแสดงให้เห็นถึงประเด็นสำคัญ 2 ประการ คือ การอนุญาตให้ นส.ยิ่งลักษณ์ เข้าพบกับ นางอองซานซูจี แสดงให้เห็นว่า พม่าให้ความสำคัญกับไทยอย่างมาก โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้นำของไทยเข้าพบกับนางอองซานซูจี ซึ่งเป็นผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยของพม่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ พม่าไม่เคยอนุญาตให้ผู้นำประเทศอื่นๆ เข้าพบหารือกับ นางอองซานซูจี เช่นนี้มาก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ครั้งนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและพม่าไม่เคยจืดจางไปเลยนับตั้งแต่เมื่อสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เพราะไม่เคยใช้ไม้แข็งกับพม่าอย่างที่ชาติมหาอำนาจทำกัน
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคยยื่นข้อเสนอให้พม่าใช้กรุงเทพมหานครเป็นเวทีร่างรัฐธรรมนูญและเปิดโอกาสให้พม่าอธิบายตัวเองต่อชาติตะวันตก โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า และภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ไทยจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆมากมายจากพม่า ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มากขึ้นอีกด้วย
