มท.ถกขับเคลื่อนความร่วมมือ ศก.ภูมิภาคแม่น้ำโขง 6 ปท.

สระแก้ว - กระทรวงมหาดไทยจัดประชุมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง 6 ประเทศตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ‏ Southern Economic Corridor : SEC

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมเทียนทอง 1 โรงแรมอรัญเมอร์เมด จังหวัดสระแก้ว นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีประชุมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ‏ Southern Economic Corridor : SEC

โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นำหัวหน้ากลุ่มจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าสำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง (ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว) ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) รวมกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม

นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การจัดการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการต่อกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ขับเคลื่อนประเด็นยุทธศาสตร์ระบบคมนาคมขนส่ง (Logistics) โดยพิจารณาความจำเป็น หรือประโยชน์ที่จะได้รับในการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับพื้นที่เชื่อมต่อ

และจัดให้ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อบูรณาการส่วนที่เกี่ยวข้องในการระดมความคิดเห็น เพื่อจัดทำแนวทางการดำเนินงาน เมื่อมีการเปิดเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือสะพานเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้กรอบแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub region : GMS) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน สปป.ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม

กระทรวงมหาดไทยจึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมและแห่งชาติ จัดทำ “โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การขับเคลื่อนการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ตามแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor : SEC)” ในการสนับสนุนจังหวัด และกลุ่มจังหวัดในการพัฒนา และเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคนี้

ด้านนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว จะทำให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือในการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคของจังหวัด และกลุ่มจังหวัดสู่เวทีระดับชาติ และกรอบแผนงานความร่วมมือ GMS รวมถึงจะเป็นการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้กรอบแผนงานความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค ให้สามารถถ่ายทอด และขยายผลสู่ภาครัฐ เอกชน และประชาชนในระดับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเตรียมความพร้อมเมื่อมีการเปิดเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน การจัดทำสะพานเศรษฐกิจ การพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ในการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของภาคเอกชนไทย เพื่อรองรับในภูมิอาเซียนใน 3 ปีข้าง

และจะเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งเพื่อเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่นำสู่ภาวะไร้พรมแดน มีตลาด และฐานการผลิตร่วมกันมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงิน และแรงงานเป็นต้นอย่างเสรีของกลุ่มอาเซียนสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้