ที่ทำเนียบประธานาธิบดีพม่า กรุงเนปิดอร์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.ร.อ.รุ่งรัตน์ บุณยรัตพันธุ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผบ.ทหารสูงสุด เมียนมาร์ และ พล.ท.ฮลา มิน รมว.กลาโหม เมียนมาร์ อย่างเป็นทางการในโอกาสเดินทางมาเยือน พร้อมได้เข้าหารือข้อราชการ และกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการหารือว่า ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ได้ฝากถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ขอให้ทั้งสองพระองค์ทรงมีพลานามัยแข็งแรง ขอให้หายจากอาการประชวรโดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้ฝากความระลึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ในเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาสเพติดบริเวณชายแดนร่วมกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารนั้น ทางเมียนมาร์อยากให้ประเทศไทย ช่วยดูแลเรื่องสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด ที่อาจเล็ดรอดเข้าพม่า ซึ่งตนได้รับปากว่าไม่ต้องห่วง เพราะถือว่าเรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลไทยเร่งขจัดปัญหาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ตนพร้อมจะนำเรื่องนี้ไปบอก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องยาเสพติดอยู่ โดยอาจจะเสนอแนวความคิดในการจัดตั้งสำนักงานประสานงานในการปราบปรามยาเสพติด ที่ อ.สังขละบุรี-พญาตองซู
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ได้มีการหารือปัญหาความมั่นคงและความร่วมมือตามบริเวณแนวชายแดน ไทย- เมียนมาร์ และเน้นย้ำข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี หลังจากประธานาธิบดีเมียนมาร์ เดินทางมาเยือนไทย โดยขอให้สนับสนุนเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มอีก 3 จุด คือ 1. ด่านโป่งปาจิ่น รัฐฉาน- ด่านกิ่วผาวอก จ.เชียงใหม่ 2. ด่านแม่แจ๊ะ รัฐคะยา- ด่านบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน และ 3. ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ที่เกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย นอกจาก นี้ขอให้เปิดจุดปผ่อนปรนที่ ด่านตะโกบน จ.ราชบุรี บริเวณตรงข้ามตองมาพิว ของประเทศเมียนมาร์
สำหรับปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยตามบริเวณแนวชายแดนของทั้งสองประเทศนั้น ตนได้บอกไปว่า รัฐบาลไทยยินดีต่อกระบวนการปรองดองแห่งชาติของเมียนมาร์ โดยไทยยืนยันนโยบายไม่สนับสนุนชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาบเมียนมาร์ ใช้ไทยเป็นฐานการคเลื่อนไหว โดยยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
พล.อ.อ.สุกำพล ยังกล่าวถึง กรณีที่คนไทย 92 คนไทยที่ถูกรัฐบาลพม่าจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติด และ พกพาอาวุธ ที่เกาะสอง จ.ระนอง ว่า เรื่องนี้ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง รับปากว่า ทางรัฐบาลพม่าจะดูแลอย่างดี ซึ่งภายหลังผ่านการตัดสินของศาลไปแล้ว หากญาติของคนไทยต้องการมาเยี่ยม ก็พร้อมให้ความสะดวก และดูแลอย่างดี คาดว่าอีกไม่นานจะได้รับการปล่อยตัว
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ยังกล่าวแสดงความเป็นห่วง กรณีที่เมียนมาร์ต้องการเข้าไปสังเกตุการณ์ในการฝึกคอบร้าโกลด์ ของไทย ร่วมกับสหรัฐฯ ประจำปี ซึ่งทางเมียนมาร์ ยังติดปัญหาทางกฎหมายของสหรัฐฯ บางข้อที่ยังไม่เรียบร้อย จึงอยากให้กองทัพไทยช่วยเป็นคนกลางเจรจาให้ด้วย ทั้งนี้ ตนก็พร้อมจะดำเนินการให้ ตามข้อเสนอกับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ผบ.ทหารสูงสุดเมียนมาร์ ยังฝากบอกให้สหรัฐฯ เข้าใจถึงบทบาทกองทัพพม่า กับเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ได้มีการพัฒนาไปมากแล้ว แต่ติดอยู่ที่วิธีการซึ่งต้องค่อยๆ พัฒนา ทำให้คนพม่ามีวินัยก่อน และคงต้องใช้เวลาการพัฒนาประชาธิปไตย อีกไม่กี่ปีก็จะปล่อยให้ประชาชนพม่ามีประชาธิปไตยเต็มที่
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการหารือว่า ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ได้ฝากถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ขอให้ทั้งสองพระองค์ทรงมีพลานามัยแข็งแรง ขอให้หายจากอาการประชวรโดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้ฝากความระลึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ในเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาสเพติดบริเวณชายแดนร่วมกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารนั้น ทางเมียนมาร์อยากให้ประเทศไทย ช่วยดูแลเรื่องสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด ที่อาจเล็ดรอดเข้าพม่า ซึ่งตนได้รับปากว่าไม่ต้องห่วง เพราะถือว่าเรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลไทยเร่งขจัดปัญหาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ตนพร้อมจะนำเรื่องนี้ไปบอก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องยาเสพติดอยู่ โดยอาจจะเสนอแนวความคิดในการจัดตั้งสำนักงานประสานงานในการปราบปรามยาเสพติด ที่ อ.สังขละบุรี-พญาตองซู
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ได้มีการหารือปัญหาความมั่นคงและความร่วมมือตามบริเวณแนวชายแดน ไทย- เมียนมาร์ และเน้นย้ำข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี หลังจากประธานาธิบดีเมียนมาร์ เดินทางมาเยือนไทย โดยขอให้สนับสนุนเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มอีก 3 จุด คือ 1. ด่านโป่งปาจิ่น รัฐฉาน- ด่านกิ่วผาวอก จ.เชียงใหม่ 2. ด่านแม่แจ๊ะ รัฐคะยา- ด่านบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน และ 3. ด่านบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ที่เกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย นอกจาก นี้ขอให้เปิดจุดปผ่อนปรนที่ ด่านตะโกบน จ.ราชบุรี บริเวณตรงข้ามตองมาพิว ของประเทศเมียนมาร์
สำหรับปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยตามบริเวณแนวชายแดนของทั้งสองประเทศนั้น ตนได้บอกไปว่า รัฐบาลไทยยินดีต่อกระบวนการปรองดองแห่งชาติของเมียนมาร์ โดยไทยยืนยันนโยบายไม่สนับสนุนชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาบเมียนมาร์ ใช้ไทยเป็นฐานการคเลื่อนไหว โดยยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง
พล.อ.อ.สุกำพล ยังกล่าวถึง กรณีที่คนไทย 92 คนไทยที่ถูกรัฐบาลพม่าจับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติด และ พกพาอาวุธ ที่เกาะสอง จ.ระนอง ว่า เรื่องนี้ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง รับปากว่า ทางรัฐบาลพม่าจะดูแลอย่างดี ซึ่งภายหลังผ่านการตัดสินของศาลไปแล้ว หากญาติของคนไทยต้องการมาเยี่ยม ก็พร้อมให้ความสะดวก และดูแลอย่างดี คาดว่าอีกไม่นานจะได้รับการปล่อยตัว
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ยังกล่าวแสดงความเป็นห่วง กรณีที่เมียนมาร์ต้องการเข้าไปสังเกตุการณ์ในการฝึกคอบร้าโกลด์ ของไทย ร่วมกับสหรัฐฯ ประจำปี ซึ่งทางเมียนมาร์ ยังติดปัญหาทางกฎหมายของสหรัฐฯ บางข้อที่ยังไม่เรียบร้อย จึงอยากให้กองทัพไทยช่วยเป็นคนกลางเจรจาให้ด้วย ทั้งนี้ ตนก็พร้อมจะดำเนินการให้ ตามข้อเสนอกับสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ผบ.ทหารสูงสุดเมียนมาร์ ยังฝากบอกให้สหรัฐฯ เข้าใจถึงบทบาทกองทัพพม่า กับเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้ได้มีการพัฒนาไปมากแล้ว แต่ติดอยู่ที่วิธีการซึ่งต้องค่อยๆ พัฒนา ทำให้คนพม่ามีวินัยก่อน และคงต้องใช้เวลาการพัฒนาประชาธิปไตย อีกไม่กี่ปีก็จะปล่อยให้ประชาชนพม่ามีประชาธิปไตยเต็มที่