ASTVผู้จัดการรายวัน-นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับเศรษฐีเมืองไทย "เจ้าสัวธนินท์" ยังครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 มีทรัพย์สิน 2.8 แสนล้าน "จิราธิวัฒน์"พุ่งขึ้นอันดับ 2 เจ้าพ่อน้ำเมา "เจริญ" อันดับ 3 ส่วนเจ้าพ่อกระทิงแดง ถูกเบียดตกไปอันดับ 4 สำหรับ "แม้ว" ยังติดโผรั้งอันดับ 23 แม้จะยังหนีคดีอยู่ก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งว่า นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับเดือนก.ย.2555 ได้เปิดรายชื่อ 40 อันดับมหาเศรษฐีของไทย ในการจัดอันดับ 40 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2555 (Thailands top 40 Richest 2012) ผลปรากฏว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัว (รวมถึงพี่ชายทั้ง 3 คน คือ นายจรัญ นายมนตรี และนายสุเมธ เจียรวนนท์ ) เป็นแชมป์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน มีทรัพย์สินรวมกัน 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 282,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยหุ้นซีพีออลล์เติบโตขึ้น 27% รวมทั้งกิจการซีพีเอฟ และซีพีในอินโดนีเซียเติบโตมาก
ส่วนเศรษฐีไทยอันดับ 2 คือ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ เจ้าของเครือเซ็นทรัล ธุรกิจค้าปลีกชื่อดัง โดยขยับขึ้นจากอันดับ 4 ของปีก่อน มีทรัพย์สิน 6,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 217,000 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง ทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 195,300 ล้านบาท ขณะที่ตระกูล อยู่วิทยา ซึ่งติดอันเศรษฐีไทย อันดับที่ 2 ในปีก่อน ในปีนี้ฟอร์บส์จัดอันดับเป็นที่ 4 ทรัพย์สินรวม 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานและซีอีโอของบริษัทบางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) หรือช่อง 7 ทรัพย์สินรวม 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ อยู่อันดับ 11 ทรัพย์สิน 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ นายบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตเจ้าพ่อโทรคมนาคม จากค่ายดีแทค อันดับที่ 13 ทรัพย์สิน 990 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 16 นายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าพ่อเนสกาแฟ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ปส์ เจ้าของบริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส และไทย คอปเปอร์ มีทรัพย์สิน 915 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย อยู่อันดับที่ 23 มีทรัพย์สิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 18,000 กว่าล้านบาท ซึ่งฟอร์บส์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติปี 2006 ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ที่รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหลบเลี่ยงโทษจำคุก 2 ปีจากความผิดฐานคอร์รัปชัน
ฟอร์บส์ ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีการเสนอร่างกฎหมายปรองดอง ซึ่งเชื่อว่ามีขึ้นเพื่ออภัยโทษให้เขา ทำให้เขาสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่มีโทษ และเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท ที่ถูกอายัดไว้คืนด้วย ซึ่งเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เขาได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางการประท้วงขับไล่โดยกลุ่มชาวไทยในสหรัฐฯ
นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับดังกล่าว ซึ่งจะวางแผงในเดือนก.ย. ได้จัดอันดับ Asia's Fab 50 Companies หรือ 50 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยคัดเลือกมาจาก 1,295 บริษัทที่มียอดขายหรือมูลค่าตลาดอย่างน้อย 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ปรากฏบริษัท ซีพี ออลล์ บริษัทหลักของกลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวก เซเว่น อีเลฟเว่น มีชื่อ ติด 1 ใน 50 บริษัทขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาด 9,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 309,000 ล้านบาท มียอดขาย 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท และเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทไทยที่ติดอันดับ
รายงานข่าวแจ้งว่า นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับเดือนก.ย.2555 ได้เปิดรายชื่อ 40 อันดับมหาเศรษฐีของไทย ในการจัดอันดับ 40 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2555 (Thailands top 40 Richest 2012) ผลปรากฏว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัว (รวมถึงพี่ชายทั้ง 3 คน คือ นายจรัญ นายมนตรี และนายสุเมธ เจียรวนนท์ ) เป็นแชมป์มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน มีทรัพย์สินรวมกัน 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 282,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยหุ้นซีพีออลล์เติบโตขึ้น 27% รวมทั้งกิจการซีพีเอฟ และซีพีในอินโดนีเซียเติบโตมาก
ส่วนเศรษฐีไทยอันดับ 2 คือ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ เจ้าของเครือเซ็นทรัล ธุรกิจค้าปลีกชื่อดัง โดยขยับขึ้นจากอันดับ 4 ของปีก่อน มีทรัพย์สิน 6,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 217,000 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง ทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 6,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 195,300 ล้านบาท ขณะที่ตระกูล อยู่วิทยา ซึ่งติดอันเศรษฐีไทย อันดับที่ 2 ในปีก่อน ในปีนี้ฟอร์บส์จัดอันดับเป็นที่ 4 ทรัพย์สินรวม 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานและซีอีโอของบริษัทบางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) หรือช่อง 7 ทรัพย์สินรวม 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตทฯ อยู่อันดับ 11 ทรัพย์สิน 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ นายบุญชัย เบญจรงคกุล อดีตเจ้าพ่อโทรคมนาคม จากค่ายดีแทค อันดับที่ 13 ทรัพย์สิน 990 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 16 นายประยุทธ มหากิจศิริ เจ้าพ่อเนสกาแฟ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ปส์ เจ้าของบริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส และไทย คอปเปอร์ มีทรัพย์สิน 915 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย อยู่อันดับที่ 23 มีทรัพย์สิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 18,000 กว่าล้านบาท ซึ่งฟอร์บส์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจในการปฏิวัติปี 2006 ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ที่รัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อหลบเลี่ยงโทษจำคุก 2 ปีจากความผิดฐานคอร์รัปชัน
ฟอร์บส์ ยังระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีการเสนอร่างกฎหมายปรองดอง ซึ่งเชื่อว่ามีขึ้นเพื่ออภัยโทษให้เขา ทำให้เขาสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่มีโทษ และเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท ที่ถูกอายัดไว้คืนด้วย ซึ่งเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เขาได้เดินทางเข้าสหรัฐฯ ท่ามกลางการประท้วงขับไล่โดยกลุ่มชาวไทยในสหรัฐฯ
นิตยสารฟอร์บส์ ฉบับดังกล่าว ซึ่งจะวางแผงในเดือนก.ย. ได้จัดอันดับ Asia's Fab 50 Companies หรือ 50 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยคัดเลือกมาจาก 1,295 บริษัทที่มียอดขายหรือมูลค่าตลาดอย่างน้อย 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ปรากฏบริษัท ซีพี ออลล์ บริษัทหลักของกลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอิ่มสะดวก เซเว่น อีเลฟเว่น มีชื่อ ติด 1 ใน 50 บริษัทขนาดใหญ่ในเอเชีย โดยมีมูลค่าตลาด 9,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 309,000 ล้านบาท มียอดขาย 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 155,000 ล้านบาท และเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทไทยที่ติดอันดับ
