xs
xsm
sm
md
lg

กสทช.เชือดสั่งปรับดีแทค 10 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กสทช.สั่งปรับดีแทค 10 ล้านบาทกรณีระบบล่มเมื่อ วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมออกประกาศเกณฑ์การพิจารณาค่าปรับเป็นมาตรฐานมีผลบังคับใช้ 4 ก.ย.นี้ ด้านดีแทคไม่อุทธรณ์ยอมรับแต่โดยดี ส่วนการเยียวยาลูกค้าเหมาะสมแล้ว

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่าเมื่อวันที่ 5 ก.ย.สำนักงาน กสทช.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เกี่ยวกับการกำหนดค่าปรับทางปกครองกรณีไม่บำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จนเป็นเหตุให้เกิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือขัดข้อง โดยสรุปกสทช.กำหนดค่าปรับจำนวน 10 ล้านบาทและจะต้องชำระภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือหรือภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งหากดีแทคไม่ยอมรับคำสั่งก็สามารถทำหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้ภายใน 15 วัน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวอาศัยอำนาจตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544

ทั้งนี้คณะอนุกรรมการค่าปรับที่สำนักงานกสทช.ตั้งขึ้นในกรณีดังกล่าวโดยเฉพาะนั้นได้รายงานว่าการคำนวณค่าปรับ คิดจากข้อมูลที่สำนักงานตรวจสอบคิดเป็นค่าเสียหาย 14 ล้านบาท จาก 151 นาที แต่ดีแทคแจ้งว่าเสียหาย 65 นาที คิดเป็นค่าเสียหาย 6 ล้านบาท ฉะนั้นเมื่อเจรจาตกลงกันไม่ได้ จึงไกล่เกลี่ยและเฉลี่ยค่าเสีย และได้ตกลงกันที่ 10 ล้านบาท

จากเหตุการณ์ดังกล่าวกสทช.จึงได้ออกประกาศสำนักงานกสทช.เรื่อง เกณฑ์การพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองกรณีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่บำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ที่ใช้ใน กิจการโทรคมนาคมที่นำมาใช้ในการให้บริการโทรคมนาคมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานทางเทคนิคตามที่กำหนด ซึ่งประกาศดังกล่าวถือเป็นบรรทัดฐานการคิดค่าปรับทางปกครองต่อไป ส่วนเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดค่าปรับทางปกครองตามประกาศฉบับนี้กสทช.ใช้อำนาจตามมาตรา 33 ของพ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544

โดยประกาศดังกล่าวได้กำหนดเกณฑ์ค่าปรับดังนี้ ค่าปรับขั้นต่ำ 10ล้านบาทต่อครั้งไม่ว่าจะเสียหายมากหรือน้อยกว่า 10ล้านบาท ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็ต้องจ่าย 10ล้านบาท แต่ถ้าเกิดปัญหาสัญญาณล่มซ้ำซาก โดยเกิดเหตุครั้งที่ 2 จะนำค่าปรับขั้นต่ำ 10ล้านบาทคูณด้วย 1.25หรือ 12.5 ล้านบาท ครั้งที่ 3 ค่าปรับขั้นต่ำ 15 ล้านบาทหรือ 10 ล้านบาทคูณด้วย 1.5 ครั้งที่ 4 ค่าปรับขั้นต่ำ 17.5 ล้านบาทหรือ 10 ล้านบาทคูณด้วย 1.75 และถ้าเกิดเหตุครั้งที่ 5ในรอบปี ก็จะนำค่าปรับขั้นต่ำ 10 ล้านบาท มาคูณด้วยจำนวนที่เลขาธิการกสทช.กำหนด

ขณะที่นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวว่า ดีแทคพร้อมทำตามคำสั่งทางปกครอง โดยกรณีนี้คือดีแทคจะจ่ายค่าปรับวงเงิน 10 ล้านบาทตามที่กสทช.สั่งมา เนื่องจากถือเป็นความผิดพลาดของดีแทคเองที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและไม่ยื่นอุทธรณ์ใดๆ ส่วนกรณีการยื่นอุทธรณ์ค่าปรับครั้งที่ผ่านมา วงเงิน 20,000 บาทนั้นคงต้องรอคำสั่งของกสทช.ต่อไป

'เราได้ชี้แจงกสทช.เบื้องต้นว่า ดีแทคได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตลอด แต่ไม่สามารถการันตีอนาคตได้ว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก แต่สิ่งที่ยืนยันคือได้พยายามทำทุกอย่างให้โครงข่ายและบริการของดีแทค พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างไม่มีปัญหา เพราะกระทบภาพลักษณ์ของดีแทคอย่างมาก ซึ่งยอมรับเหตุการณ์สัญญาณล่มครั้งนี้ทำให้ต้องใช้เวลาในการเรียกคืนความเชื่อมั่นกลับมา'

สำหรับกรณีระบบล่มเมื่อวันที่ 28ส.ค.ที่ผ่านมานั้นดีแทคได้เตรียมเงินในการชดเชยลูกค้าไว้ 300 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นดีแทคได้จ่ายชดเชยไปแล้ว 100 ล้านบาทหรือคิดเป็นจำนวนลูกค้า 3 ล้านเลขหมาย โดยการชดเชยลูกค้าระบบพรีเพด (เติมเงิน) 80 นาที และระบบโพสต์เพด (รายเดือน) 100 นาที และล่าสุดได้ขยายเวลาให้ลูกค้าแจ้งว่าได้รับผลกระทบจากสัญญาณขัดข้องดังกล่าวจนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 14 ก.ย.นี้โดยมั่นใจว่าระบบจะรองรับการให้บริการลูกค้าที่แจ้งขอการชดเชยดังกล่าวได้

สำหรับสาเหตุที่ดีแทคต้องการให้ลูกค้าโทรเข้ามาในระบบไอวีอาร์ *1737 เนื่องจากเห็นว่าระบบดังกล่าว สามารถรองรับลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และดีแทคสามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดสาเหตุต่อลูกค้าเลขหมายใดบ้าง ซึ่งในวันเกิดเหตุ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วมีลูกค้าดีแทคใช้งานทั่วประเทศราว 4.8 ล้านราย มีลูกค้าใช้งานได้ตามปกติ 3.2 ล้านเลขหมาย และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถโทร.เข้า-ออกได้โดยตรง 1.6 ล้านเลขหมาย ซึ่งหากเทียบสัดส่วนอัตราการใช้งานต่อเลขหมายปกติของลูกค้าในวันปกติอยู่ที่ 10 นาที

'ในกรณีนี้ดีแทคได้มีมาตรการเยียวยาชดเชยให้ลูกค้าไป 80 นาทีสำหรับระบบเติมเงิน และ 100 นาทีสำหรับระบบรายเดือน ซึ่งเรามองว่าเป็นการชดเชยที่มากกว่า การใช้งานปกติของลูกค้าหลายเท่าตัวแล้ว'
กำลังโหลดความคิดเห็น