วานนี้ (30ส.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ว่า เป็นการประชุมเพื่อสรุปผลงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 1 ปี ระหว่างส.ค.ปี 54 –ส.ค.ปี 55 ว่าการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆ และรัฐบาลได้ดำเนินการอะไรบ้าง มีสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ และมีการพัฒนาขึ้น มีอะไรที่ยังขาดและต้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาค (ศอ.บต.) ได้มาชี้แจงด้วย ซึ่งเราได้เห็นผลงานของ ศอ.บต. ว่าพัฒนาไปมาก และน่าชื่นชม รวมถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ได้ชี้แจงในเรื่องการพัฒนาการข่าว การบูรณาการข่าว การใช้หน่วยงานข่าว ให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารในระดับปฏิบัติ และระดับนโยบายกับระดับสูงให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และให้แต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงงานของแต่ละกระทรวง ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง และในปี 56 มีแผนจะทำอะไรบ้าง เพื่อทำรายงานการแก้ไขปัญหาในภาพกว้าง และสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงในนามของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่าเป็นผลงานที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในการพัฒนาเรื่องความรู้สึกประชาชน ทางศอ.บต. ขณะนี้ประชาชนมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีความพอใจใน ในการมีอาชีพทางภาคใต้มากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการวางแผนให้มีการลงทุน มีการสร้างโรงงานขนาดเล็ก และดึงคนเข้ามาทำงาน ซึ่งผลของการเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม เราก็ถามว่า ต้องให้เกิดความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย เมื่อเราให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ จากการเยียวยา ประชาชนต้องยอมรับว่า ต่อไปนี้ การผูกใจเจ็บ การอ้างสถานการณ์เรื่องเดิม ขอให้หมดไป ต่างคนต่างได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐและฝ่ายประชาชน แล้วเราก็ถามว่า เขาจะเอาเงินที่ได้ไปทำอะไร เขาก็บอกว่า จะเอาเงินไปทำสวนยาง และเอาไปเป็นค่าการศึกษาของเด็ก ซึ่งผลจาการเยียวยาทำให้สถานภาพทางชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ทางศอ.บต. ยังมองว่า ความรุนแรงในพื้นที่ก็ยังมีอยู่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราก็พูดคุยว่า จะให้สิ่งเหล่านี้ลดน้อยลงไปทีละนิด เพราะพื้นที่กว้าง เกินกว่ากำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลทุกจุด อย่างไรก็ตาม เราก็พยายามทำให้ประชาชนมาเป็นฝ่ายเรา และช่วยดูแลตัวเองด้วย รวมถึงรัฐบาลก็ต้องสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ เช่น กล้องซีซีทีวี เพราะหากมีไม่ครบ ก็ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ได้ เหตุการณ์ก็จะยังเกิดขึ้นอยู่ จึงต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือครบ ซึ่งก็จะพูดคุยกับรัฐบาลต่อไป
เมื่อถามว่า จะมีการนำสถิติมาแสดงในการชี้แจงผลงานหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เรามีตัวเลข แต่เราไม่อยากพูดกันในเรื่องสถิติ ว่าลดลง แต่การก่อเหตุอาจจะมีจำนวนน้อยลง แต่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ตนขอให้เป็นภาพที่ชัดเจนของความรู้สึกประชาชนมากกว่า การชี้แจงผลงานครั้งนี้เอาความรู้สึกมาพูดกัน แต่อย่าเอาตัวเลขามาพูดกัน ทั้งนี้เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเสนอต่อนายกฯ ให้ตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งนายกฯ จะกำหนดให้ชี้แจงเมื่อไร
เมื่อถามถึงเรื่องการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่เคยรับผิดเลย พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราเยียวยาเพื่อแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว ก็ขอให้หมดกันไป แต่อย่าให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างคาใจ ขอให้เลิกอาฆาตมาดร้าย หรือมองกันในแง่ไม่ดี ต่อไปขอให้พลเมืองดี ทำมาหากินประกอบอาชีพ เอางบประมาณ เอาเงินที่ได้ไปดูแลบุตรหลาน ทางรัฐก็จะดูแลให้ ตรงนี้คือความเป็นธรรม แต่ไม่ใช่ให้เงินแล้วออกมาเรียกร้องอีก แล้วยังมีความรู้สึกไม่ดีต่อรัฐ อย่างนี้ไม่เป็นธรรม รับเงินแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยกัน นี่คือการสร้างความเป็นธรรมจากความเป็นไทย ซึ่งต่อไปนี้เราจะทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นไทยทั้งหมด ไม่ว่าศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ที่อยู่ที่นั้นทุกคนเป็นไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นหลักที่จะทำในปีต่อไป
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มใส่ขบวนรถไฟ ว่า เราได้มีการเตือนไปแล้วว่า เหตุการณ์การยิงรถไฟ จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะว่ามีการรวมตัวกันของการเคลื่อนไหวในการทำอะไรซักอย่าง และการรวมตัวกันเพื่อมาแก้แค้นที่คนของเขาถูกวิสามัญไป 1 คน
ส่วนเหตุการณ์ ชาวบ้านถูกฆ่าและเผา พร้อมรถยนต์ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นั้น ได้รับรายงานว่า เป็นการแก้แค้นส่วนตัว แต่ขอตรวจสอบก่อน และอย่าพึ่งตีความว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง เพราะบางคนญาติของคนนั้นไปทำร้ายญาติคนนี้ ญาติคนนี้ไปทำร้ายคนนั้น เขาก็มาแก้แค้นกัน ขณะนี้ให้แยกแยะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของความมั่นคง หรือเรื่องส่วนตัว หรือเป็นเรื่องของยาเสพติด ต้องแยกแยะประเด็นของสถานการณ์ให้ออก
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาค (ศอ.บต.) ได้มาชี้แจงด้วย ซึ่งเราได้เห็นผลงานของ ศอ.บต. ว่าพัฒนาไปมาก และน่าชื่นชม รวมถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ได้ชี้แจงในเรื่องการพัฒนาการข่าว การบูรณาการข่าว การใช้หน่วยงานข่าว ให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารในระดับปฏิบัติ และระดับนโยบายกับระดับสูงให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และให้แต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงงานของแต่ละกระทรวง ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง และในปี 56 มีแผนจะทำอะไรบ้าง เพื่อทำรายงานการแก้ไขปัญหาในภาพกว้าง และสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงในนามของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่าเป็นผลงานที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในการพัฒนาเรื่องความรู้สึกประชาชน ทางศอ.บต. ขณะนี้ประชาชนมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีความพอใจใน ในการมีอาชีพทางภาคใต้มากยิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการวางแผนให้มีการลงทุน มีการสร้างโรงงานขนาดเล็ก และดึงคนเข้ามาทำงาน ซึ่งผลของการเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม เราก็ถามว่า ต้องให้เกิดความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย เมื่อเราให้ความเป็นธรรมกับประชาชนในพื้นที่ จากการเยียวยา ประชาชนต้องยอมรับว่า ต่อไปนี้ การผูกใจเจ็บ การอ้างสถานการณ์เรื่องเดิม ขอให้หมดไป ต่างคนต่างได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งรัฐและฝ่ายประชาชน แล้วเราก็ถามว่า เขาจะเอาเงินที่ได้ไปทำอะไร เขาก็บอกว่า จะเอาเงินไปทำสวนยาง และเอาไปเป็นค่าการศึกษาของเด็ก ซึ่งผลจาการเยียวยาทำให้สถานภาพทางชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ทางศอ.บต. ยังมองว่า ความรุนแรงในพื้นที่ก็ยังมีอยู่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราก็พูดคุยว่า จะให้สิ่งเหล่านี้ลดน้อยลงไปทีละนิด เพราะพื้นที่กว้าง เกินกว่ากำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลทุกจุด อย่างไรก็ตาม เราก็พยายามทำให้ประชาชนมาเป็นฝ่ายเรา และช่วยดูแลตัวเองด้วย รวมถึงรัฐบาลก็ต้องสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ เช่น กล้องซีซีทีวี เพราะหากมีไม่ครบ ก็ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ได้ เหตุการณ์ก็จะยังเกิดขึ้นอยู่ จึงต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือครบ ซึ่งก็จะพูดคุยกับรัฐบาลต่อไป
เมื่อถามว่า จะมีการนำสถิติมาแสดงในการชี้แจงผลงานหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เรามีตัวเลข แต่เราไม่อยากพูดกันในเรื่องสถิติ ว่าลดลง แต่การก่อเหตุอาจจะมีจำนวนน้อยลง แต่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่ตนขอให้เป็นภาพที่ชัดเจนของความรู้สึกประชาชนมากกว่า การชี้แจงผลงานครั้งนี้เอาความรู้สึกมาพูดกัน แต่อย่าเอาตัวเลขามาพูดกัน ทั้งนี้เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเสนอต่อนายกฯ ให้ตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งนายกฯ จะกำหนดให้ชี้แจงเมื่อไร
เมื่อถามถึงเรื่องการให้ความเป็นธรรมกับประชาชน เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่เคยรับผิดเลย พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราเยียวยาเพื่อแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว ก็ขอให้หมดกันไป แต่อย่าให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างคาใจ ขอให้เลิกอาฆาตมาดร้าย หรือมองกันในแง่ไม่ดี ต่อไปขอให้พลเมืองดี ทำมาหากินประกอบอาชีพ เอางบประมาณ เอาเงินที่ได้ไปดูแลบุตรหลาน ทางรัฐก็จะดูแลให้ ตรงนี้คือความเป็นธรรม แต่ไม่ใช่ให้เงินแล้วออกมาเรียกร้องอีก แล้วยังมีความรู้สึกไม่ดีต่อรัฐ อย่างนี้ไม่เป็นธรรม รับเงินแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยกัน นี่คือการสร้างความเป็นธรรมจากความเป็นไทย ซึ่งต่อไปนี้เราจะทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นไทยทั้งหมด ไม่ว่าศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ ที่อยู่ที่นั้นทุกคนเป็นไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นหลักที่จะทำในปีต่อไป
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มใส่ขบวนรถไฟ ว่า เราได้มีการเตือนไปแล้วว่า เหตุการณ์การยิงรถไฟ จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะว่ามีการรวมตัวกันของการเคลื่อนไหวในการทำอะไรซักอย่าง และการรวมตัวกันเพื่อมาแก้แค้นที่คนของเขาถูกวิสามัญไป 1 คน
ส่วนเหตุการณ์ ชาวบ้านถูกฆ่าและเผา พร้อมรถยนต์ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นั้น ได้รับรายงานว่า เป็นการแก้แค้นส่วนตัว แต่ขอตรวจสอบก่อน และอย่าพึ่งตีความว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง เพราะบางคนญาติของคนนั้นไปทำร้ายญาติคนนี้ ญาติคนนี้ไปทำร้ายคนนั้น เขาก็มาแก้แค้นกัน ขณะนี้ให้แยกแยะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของความมั่นคง หรือเรื่องส่วนตัว หรือเป็นเรื่องของยาเสพติด ต้องแยกแยะประเด็นของสถานการณ์ให้ออก
