ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”โหมจัด 45 กิจกรรมดันส่งออก ก.ย.-ต.ค. เน้นตลาดอาเซียน จีน อินเดีย ยุโรปตะวันออก เผยหาก 6 เดือนที่เหลือ ส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 2.1-2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เป้า 15% มีโอกาสสูง เตรียมจัดไทยแลนด์ เบสต์ แฟรนด์ 10-12 ก.ย.นี้ เชิญซีอีโอกว่า 100 รายจาก 28 ประเทศเป็นแขกรัฐบาลไทย คาดเพิ่มยอดส่งออกได้อีก 3 หมื่นล้านบาท
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.2555 กรมฯ มีแผนที่จะจัดกิจกรรมในการในการผลักดันการส่งออก รวมกันประมาณ 45 กิจกรรม โดยเดือนก.ย.มี 30 กิจกรรม และเดือนต.ค.มี 15 กิจกรรม ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการจัดคณะผู้แทนการค้า โดยจะมุ่งเน้นไปยังตลาดที่มีโอกาสในการเพิ่มยอดการส่งออกให้กับสินค้าไทย และเน้นการนำผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ไปบุกเจาะตลาด
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกจะเน้นการผลักดันการส่งออกเป็นกลุ่มสินค้า และเน้นการบุกเจาะเป็นรายตลาด โดยตลาดอาเซียน เช่น กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น ตลาดที่มีศักยภาพ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ ที่มีโอกาสทางการสูง รวมไปถึงตลาดเก่าอย่างสหภาพยุโรป (อียู) ที่เน้นการบุกเจาะเป็นรายประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ซึ่งรวมไปถึงตลาดสหรัฐฯ และกลุ่มยุโรปตะวันออก เช่น สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ และสโลวีเนีย
โดยสินค้าที่จะเร่งผลักดันการส่งออก มีทุกกลุ่มสินค้า ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่น ของเล่น สิ่งพิมพ์ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ รวมไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ภาพยนตร์
“มั่นใจว่า การจัดกิจกรรมจะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกให้กับสินค้าไทยได้เพิ่มขึ้น ส่วนจะทำให้การส่งออกทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย 15% ได้หรือไม่นั้น ยังเชื่อว่าจะทำได้ เพราะหากการส่งออกในช่วง 6 เดือนที่เหลือ ทำได้เฉลี่ยเดือนละ 2.1-2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ยอดส่งออกทั้งปีก็จะใกล้เคียงเป้าหมาย 15% เฉพาะไตรมาสสุดท้าย การส่งออกน่าจะบวกได้มาก”นางนันทวัลย์กล่าว
นางนันทวัลย์กล่าวว่า เฉพาะในเดือนก.ย. มีกิจกรรมพิเศษ คือ การจัดงาน Thailand’s Best Friends ในวันที่ 10-11 ก.ย.2555 ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกในทุกกลุ่มสินค้าได้ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว 104 ราย จาก 28 ประเทศ โดยจะเป็นแขกของรัฐบาลไทย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเหล่านี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของไทย และคาดหวังที่จะให้คนเหล่านั้นมีการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากยอดที่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเหล่านี้ได้ซื้อแล้วประมาณ 3,647 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.2555 กรมฯ มีแผนที่จะจัดกิจกรรมในการในการผลักดันการส่งออก รวมกันประมาณ 45 กิจกรรม โดยเดือนก.ย.มี 30 กิจกรรม และเดือนต.ค.มี 15 กิจกรรม ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการจัดคณะผู้แทนการค้า โดยจะมุ่งเน้นไปยังตลาดที่มีโอกาสในการเพิ่มยอดการส่งออกให้กับสินค้าไทย และเน้นการนำผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ไปบุกเจาะตลาด
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกจะเน้นการผลักดันการส่งออกเป็นกลุ่มสินค้า และเน้นการบุกเจาะเป็นรายตลาด โดยตลาดอาเซียน เช่น กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น ตลาดที่มีศักยภาพ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ ที่มีโอกาสทางการสูง รวมไปถึงตลาดเก่าอย่างสหภาพยุโรป (อียู) ที่เน้นการบุกเจาะเป็นรายประเทศ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมัน ซึ่งรวมไปถึงตลาดสหรัฐฯ และกลุ่มยุโรปตะวันออก เช่น สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ และสโลวีเนีย
โดยสินค้าที่จะเร่งผลักดันการส่งออก มีทุกกลุ่มสินค้า ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่น ของเล่น สิ่งพิมพ์ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ รวมไปถึงอุตสาหกรรมบันเทิง เช่น ภาพยนตร์
“มั่นใจว่า การจัดกิจกรรมจะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกให้กับสินค้าไทยได้เพิ่มขึ้น ส่วนจะทำให้การส่งออกทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย 15% ได้หรือไม่นั้น ยังเชื่อว่าจะทำได้ เพราะหากการส่งออกในช่วง 6 เดือนที่เหลือ ทำได้เฉลี่ยเดือนละ 2.1-2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ยอดส่งออกทั้งปีก็จะใกล้เคียงเป้าหมาย 15% เฉพาะไตรมาสสุดท้าย การส่งออกน่าจะบวกได้มาก”นางนันทวัลย์กล่าว
นางนันทวัลย์กล่าวว่า เฉพาะในเดือนก.ย. มีกิจกรรมพิเศษ คือ การจัดงาน Thailand’s Best Friends ในวันที่ 10-11 ก.ย.2555 ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกในทุกกลุ่มสินค้าได้ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว 104 ราย จาก 28 ประเทศ โดยจะเป็นแขกของรัฐบาลไทย และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเหล่านี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของไทย และคาดหวังที่จะให้คนเหล่านั้นมีการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากยอดที่ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเหล่านี้ได้ซื้อแล้วประมาณ 3,647 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.1 แสนล้านบาท
